ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
เป็นการร้อนตัวหรือเปล่า สุดแล้วแต่จะคิด แต่หลังจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ลงมติดำเนินการเอาผิดการทุจริตโครงการประดับตกแต่งไฟ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณลานคนเมืองของกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก็เปิดแถลงข่าวด่วนตอบโต้สตง.ทันที
ก่อนเปิดการแถลงข่าว มีคนบางกลุ่มมองโลกสวย คิดว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์อาจแสดงความรับผิดชอบ ประกาศลาออก แต่เมื่อเปิดแถลงข่าวจริง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กลับยืนยันที่จะทำงานต่อไป
ส่วนโครงการประดับตกแต่งไฟ มูลค่า 39.5 ล้านบาท ซึ่ง สตง.ระบุว่า แพงเกินจริง และมีการทุจริตนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ยืนกรานว่า ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอน โดยขู่คำรามว่า ใครกล่าวหาว่าผิดหรือกล่าวหาลูกน้อง จะฟ้องโดยไม่ไว้หน้า
การแถลงข่าวของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เป็นไปอย่างเผ็ดร้อน แต่ไม่ได้แจกแจงถึงรายละเอียดโครงการประดับตกแต่งไฟมากนัก เพราะมุ่งโจมตีเสียดสีการทำงานของสตง.มากกว่า
โครงการประดับตกแต่งไฟ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วงเงิน39.5 ล้านบาทนั้น ถูกตั้งข้อสงสัยการทุจริตในหลายขั้นตอน และเป็นหนึ่งในโครงการของกทม.ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง
วันนี้ สตง.มีบทสรุปเบื้องต้นแล้ว โดยระบุว่ามีการทุจริต และจะดำเนินงานเอาผิดกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ข้าราชการกทม.และคณะกรรมการทีโออาร์รวม9 คน
ยังไม่มีใครบังอาจชี้หน้า ตะโกนประณาม ม.ร.ว.สุขุมพันธ์และข้าราชการกทม.ว่า “ผิด” แต่แทบจะทั้งสังคมได้ตัดสินไปแล้วว่า โครงการประดับตกแต่งไฟฯของ กทม. ไม่น่าจะ “ถูก” ต้อง และตัดสินไปก่อนที่ สตง.จะมีมติเอาผิดกับผู้ว่ากทม.และพวกเสียอีก
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์อาจโกรธจัดที่ สตง.ระบุถึงการทุจริตในกทม. แต่โครงการประดับตกแต่งไฟฯ เป็นเพียงหนึ่งในโครงการของกทม.ที่ส่อว่าเกิดการทุจริต ดังนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จึงควรใจเย็นๆ เพราะยังมีคดีทุจริตในอีกหลายกรณีที่ต้องเตรียมตัวรับมือ
ถ้าไม่แกล้งหลอกตัวเอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ต้องยอมรับว่า กทม.ยังเป็นองค์กรที่เต็มไปด้วยการทุจริต พนักงานกทม.ยังเรียกรับผลประโยชน์ในช่องทางต่างๆ พนักงานเทศกิจยังทำมาหากินกับพ่อค้าแม้ค้าตามปกติ การขออนุมัติแบบแปลนการก่อสร้างต้องมีค่าน้ำร้อนน้ำชา
โครงการลงทุนของกทม.ยังมีข่าวเรื่องของสตางค์ทอนอยู่ เช่นเดียวกับโครงการประดับตกแต่งไฟ
ไม่มีใครกล้ากล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ว่าโกง แต่รับรู้โดยทั่วไปว่า การทำงานของกทม.ยังเต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส และไม่เคยมีผู้ว่าฯกทม.คนใด จะกวาดล้างการทุจริตในกทม.อย่างจริงจัง
มติ สตง.ที่จะเอาผิดกับคนที่ร่วมทุจริตโครงการประดับตกแต่งไฟฯ แม้จะเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่จะต้องดำเนินการต่อไป แต่จุดสิ้นสุดของกระบวนการเล่นงานกลุ่มคนที่ร่วมทุจริตในกทม. ประชาชนอาจพิพากษาไว้ล่วงหน้าแล้ว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ถูกไฟของ กทม.ช็อตจนไหม้เกรียม
การจับผู้ว่าฯ กทม.พร้อมลูกน้องมาขึ้นเขียง คดีทุจริตโครงการประดับตกแต่งไฟฯ ทำให้สังคมเกิดความหวังในการกวาดล้างการทุจริตในองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะกทม. เพราะกระบวนการตรวจสอบมีความเข้มข้นมากขึ้น
ใหญ่แค่ไหนก็ไม่ไว้หน้า ถ้ามีพฤติกรรมทุจริต
ถ้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ไม่สร้างเรื่องราวฉาวโฉ่ เตรียมเป่าคดี 7 ตุลาคม 2551 จนนำไปสู่ความเสื่อมศรัทธาในคณะกรรมกรป.ป.ช.ชุดนี้ กระบวนการตรวจสอบทุจริตและการประพฤติมิชอบของข้าราชการจะมีอานุภาพมากขึ้น
ถึง ป.ป.ช.ชุด พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ จะหลุดออกนอกลู่นอกทาง แต่เมื่อ สตง.ยังมุ่งมั่นตรวจสอบการทุจริต ก็น่าจะทำให้ขบวนการทุจริตที่ฝังรากลึกในหน่วยงานต่างๆ “หัวหด” กันบ้างละ
ส่วนการตรวจสอบทุจริตกทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ไม่ต้องท้า สตง.ไม่หยุดแค่โครงการประดับตกแต่งไฟ โดยการเอาผิดกับกลุ่มที่ร่วมทุจริตโครงการนี้ อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการขุดคุ้ยการทุจริตในกทม.
วาระการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เหลืออีกประมาณ 1 ปี แต่ไม่มีใครทำนายได้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์จะได้ทำงานจนครบวาระตามที่ประกาศไว้หรือไม่
เพราะการทุจริตโครงการประดับตกแต่งไฟฯ อยู่ในข่ายที่จะถูกมาตรา 44 เล่นงานได้ ต้องถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน จนกว่ากระบวนการตรวจสอบจะสิ้นสุด
อนาคตทางการเมืองจะเป็นอย่างไร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไม่ต้องคิดแล้ว โดยเส้นทางชีวิตอาจจะจบลงบนเก้าอี้ผู้ว่ากทม.ก็เป็นได้
คดีโครงการประดับตกแต่งไฟที่ผลาญงบไปเกือบ 40 ล้านบาท ดูยังไงๆ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็รอดยาก