ผู้จัดการรายวัน360 - “พงศพัศ" ระบุได้รับเอกสารสำนวนจาก น.1 แล้ว คดีทายาทกระทิงแดง เตรียมส่งให้ สำนักงานกฎหมายและคดี พิจารณา รับตร.ยื้อเวลา พร้อมเตรียมสรุปสำนวนพร้อมความเห็นฟ้อง4ข้อหา"เบนซ์ชนฟอร์ด"
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผุ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) กล่าวถึงการตรวจสอบการทำหน้าที่ของคณะพนักงานสอบคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อายุ 31 ปี ทายาทเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ ว่า ก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. รวบรวมสำนวนคดีของพนักงานสอบสวนทั้งหมด จนทราบผลว่ามีบางข้อหาที่ขาดอายุความ และไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องอัยการได้ ซึ่งตรงนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ไปตรวจสอบว่ากระบวนการของพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเป็นธรรมหรือไม่ และข้อบกพร่องของคดีนี้เกิดจากพนักงานสอบสวนหรือไม่ รวมถึงการรวบรวมพยานหลักฐานเอนเอียงหรือไม่
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับเอกสารการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก พล.ต.ท.ศานิตย์ เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นพบว่ามีการประวิงเวลา และไม่มีความพยายามในการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ทั้งนี้ ได้ส่งเรื่องให้ สำนักงานกฎหมายและคดี พิจารณารายละเอียดในการทำสำนวนว่า ได้ทำตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วนหรือไม่ คาดว่าจะเสร็จภายใน 2-3 วันนี้ ก่อนส่งให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พิจารณา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีนายตำรวจ 9 คนเกี่ยวข้องกับการทำคดี มีการเอื้อประโยชน์กับผู้ต้องหา ตรงนี้มีการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า หากตรวจสอบว่าคณะทำงานดังกล่าวมีความบกพร่องจริง ก็ตรวจสอบว่าใครเป็นคนกระทำ และก็ต้องลงโทษตามวินัยด้วย
ส่วนกรณี 2 ข้อหาที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง มีการดำเนินการต่อไปอย่างไร พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในคดีขับรถเร็วนั้นหมดอายุความไปแล้ว สำหรับคดีเมาแล้วขับ ทางพนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่ต้องตรวจสอบต่อไป ขณะนี้สำนวนทั้งหมดอยู่ที่พนักงานอัยการแล้ว ซึ่งทางฝั่งอัยการก็ยืนยันว่ามี 2 ข้อหาที่เหลืออยู่นั้นยังไม่หมดอายุความและยังคงดำเนินการต่อไป
*** สรุปสำนวนฟ้อง4ข้อหา"เบนซ์ชนฟอร์ด”
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวถึงคดีนายเจนภพ วีรพร คนขับรถเบนซ์ชนรถฟอร์ด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพครบว่า ได้รวบรวมหลักฐานครบถ้วนแล้ว ทั้งการสอบพยานบุคคลกว่า 40 ปาก และผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนผลการตรวจเลือดผู้ต้องหาภายหลัง ไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินคดี เพราะมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ ส่วนความเร็วของรถซึ่งส่งให้ผู้เชี่ยวชาญที่ฮ่องกงตรวจพิสูจน์นั้น มีการรายงานผลมาให้พนักงานสอบสวนทราบแล้ว หลักฐานทั้งหมดที่พบมีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกัน โดยเตรียมสรุปสำนวน พร้อมความเห็นสั่งฟ้องต่ออัยการใน 4 ข้อหา ในวันที่ 26 เมษายนนี้ ยืนยันว่า ไม่มีการวิ่งเต้น
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผุ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) กล่าวถึงการตรวจสอบการทำหน้าที่ของคณะพนักงานสอบคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อายุ 31 ปี ทายาทเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ ว่า ก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. รวบรวมสำนวนคดีของพนักงานสอบสวนทั้งหมด จนทราบผลว่ามีบางข้อหาที่ขาดอายุความ และไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องอัยการได้ ซึ่งตรงนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ไปตรวจสอบว่ากระบวนการของพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเป็นธรรมหรือไม่ และข้อบกพร่องของคดีนี้เกิดจากพนักงานสอบสวนหรือไม่ รวมถึงการรวบรวมพยานหลักฐานเอนเอียงหรือไม่
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับเอกสารการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก พล.ต.ท.ศานิตย์ เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นพบว่ามีการประวิงเวลา และไม่มีความพยายามในการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ทั้งนี้ ได้ส่งเรื่องให้ สำนักงานกฎหมายและคดี พิจารณารายละเอียดในการทำสำนวนว่า ได้ทำตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วนหรือไม่ คาดว่าจะเสร็จภายใน 2-3 วันนี้ ก่อนส่งให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พิจารณา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีนายตำรวจ 9 คนเกี่ยวข้องกับการทำคดี มีการเอื้อประโยชน์กับผู้ต้องหา ตรงนี้มีการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า หากตรวจสอบว่าคณะทำงานดังกล่าวมีความบกพร่องจริง ก็ตรวจสอบว่าใครเป็นคนกระทำ และก็ต้องลงโทษตามวินัยด้วย
ส่วนกรณี 2 ข้อหาที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง มีการดำเนินการต่อไปอย่างไร พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในคดีขับรถเร็วนั้นหมดอายุความไปแล้ว สำหรับคดีเมาแล้วขับ ทางพนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่ต้องตรวจสอบต่อไป ขณะนี้สำนวนทั้งหมดอยู่ที่พนักงานอัยการแล้ว ซึ่งทางฝั่งอัยการก็ยืนยันว่ามี 2 ข้อหาที่เหลืออยู่นั้นยังไม่หมดอายุความและยังคงดำเนินการต่อไป
*** สรุปสำนวนฟ้อง4ข้อหา"เบนซ์ชนฟอร์ด”
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวถึงคดีนายเจนภพ วีรพร คนขับรถเบนซ์ชนรถฟอร์ด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพครบว่า ได้รวบรวมหลักฐานครบถ้วนแล้ว ทั้งการสอบพยานบุคคลกว่า 40 ปาก และผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนผลการตรวจเลือดผู้ต้องหาภายหลัง ไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินคดี เพราะมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ ส่วนความเร็วของรถซึ่งส่งให้ผู้เชี่ยวชาญที่ฮ่องกงตรวจพิสูจน์นั้น มีการรายงานผลมาให้พนักงานสอบสวนทราบแล้ว หลักฐานทั้งหมดที่พบมีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกัน โดยเตรียมสรุปสำนวน พร้อมความเห็นสั่งฟ้องต่ออัยการใน 4 ข้อหา ในวันที่ 26 เมษายนนี้ ยืนยันว่า ไม่มีการวิ่งเต้น