ยิ่งกว่าตลกด้าน เพียงแค่ขันพลาสติกสีแดงราคาไม่กี่บาท ท่านเหลี่ยมส่งเป็นของที่ระลึกให้ขบวนการสมุนปลายแถวเป็นเชิงสัญลักษณ์เอาไว้เล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ ดันกลายเป็นเหมือนอาวุธร้ายแรงทำเอากลุ่มพลังสีเขียวคำรามไม่ออก โมโหเป็นฟืนเป็นไฟตามหาตัวคนรับขัน
ขันแดงใบเดียวยึดพื้นที่ข่าว สร้างกระแสต่อเนื่องหลายวัน อะไรมันจะขนาดนั้น!
แต่ต้องยอมรับว่าถ้าขันใบนั้นไม่ได้ถูกส่งมาจากท่านเหลี่ยมเร่ร่อน ไม่เป็นข่าว ก็คงไม่มีน้ำหนัก หรือต่อให้ท่านเหลี่ยมส่งมา แต่พวกคุณท่านมองเป็นเรื่องน่าขบขัน สิ้นท่าของท่านเหลี่ยม ผลของเรื่องจะเบี่ยงออกไปอีกแบบหนึ่ง แต่เมื่อมีอาการแบบเอาเป็นเอาตาย ขันแดงจึงแรงจนไม่น่าขัน
ทำคนส่งขันและคนรับขันนั่งหัวร่อ เมื่อเห็นคนสีเขียวไม่ขันไม่ยอมขำด้วย เท่ากับว่าขันแดงไร้ราคาทำเอากลุ่มพลังเขียวเกือบเสียศูนย์ ชาวบ้านเห็นแล้วก็งง สร้างความรู้สึกว่ากลุ่มพลังเขียวเริ่มออกอาการขาสั่น เหมือนไม่มั่นใจในความจีรังยั่งยืนของอำนาจเกิดปัจจัยพลังรั่วทำให้ไปเร็ว
ถ้าปล่อยวางเสียบ้าง ไม่ใส่ใจเยอะ ขันแดงไม่แรงฤทธิ์หรอก
แต่ปฏิกิริยาของกลุ่มอำนาจกลับร้อนรนต่อขันแดง ทำให้เสียราคาเยอะ ทั้งๆ ที่กองทัพยังสนับสนุน ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังมีใจให้เพราะไม่มีทางเลือกอื่น จะดีร้ายอย่างไรก็ยังดูดีกว่ากลุ่มขี้ข้าท่านเหลี่ยมซึ่งนั่งนับวันนับคืนรอวันทุ่มเงินมหาศาลซื้อเสียงเลือกตั้งหวังชิงอำนาจรัฐคืนมาให้ได้
ชาวบ้านจึงสงสัยว่าทำไมกลุ่มพลังเขียวเปราะบางเหลือเกิน มีอะไรหรือ?
หรือว่าพวกคุณท่านก็รู้ว่าขบวนการเหลี่ยมไร้พลัง แต่ท่านยังแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเรื่องพรรค์นี้อย่ามีใครแหยมลองอำนาจ เล็กน้อยก็ไม่ได้ ต้องให้เห็นว่าคณะทหารเด็ดขาดเอาจริง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขบวนการเหลี่ยม ไล่จากขี้ข้าปลายแถว แกนนำมวลชนอยากสู้แล้วรวย จนถึงนายทาสได้โชว์ลูกเล่นลีลาเขย่าฐานอำนาจกลุ่มเขียวเป็นระยะๆ และได้ผลเกือบทุกครั้ง มีบ้างเช่นกันที่คุณท่านและพวกออกมาสู้ศึกน้ำลายกับท่านเหลี่ยม แต่ได้แค่เรียกร้องให้มารับโทษเท่านั้น
เป็นอาการกล้าๆ กลัวๆ แหยงๆ พลังเหลี่ยม เหมือนงูหลามแพ้เชือกกล้วยอย่างนั้นแหละ! ถ้าจะให้เดาคงเป็นเพราะท่านเหลี่ยมได้เป็นเจ้าบุญนายคุณต่อพวกคุณท่านแต่ปางก่อน เลยไม่อยากหัก ที่ทำอาจหาญเพิกถอนหนังสือเดินทาง ถอดยศนั้นเป็นเพราะทนคำถามเชิงกดดันจากสังคมไม่ได้
ใครก็ตามที่กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อฐานอำนาจพลังกลุ่มเขียวน่าจะพลาดที่ไปตื่นหรือตระหนกเกินไป อาจประเมินกระแสสังคมพลาด จนหวาดผวาว่าผลงานที่ไม่เข้าตาพวกคนรู้ทัน สภาพของการยักแย่ยักยันขับดันรัฐธรรมนูญมีชัยไทยแลนด์แปรเนื้อหาตามใจพวกคุณท่านกำลังเป็นพิษ
เมื่อเกิดความคิดว่าฐานอำนาจซึ่งไม่มีมวลชนหนุนมากออกอาการง่อนแง่น ย่อมเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของความรู้สึกไม่มั่นใจ ยิ่งช่วงหลังขบวนการขี้ข้าเหลี่ยมและแม่นางเห็ดบานออกงานถี่ยิบ กลุ่มพลังเขียวต้องเร่งจัดหลักสูตรอบรมปรับเปลี่ยนทัศนคติ แต่ไม่ได้ผลตามคาด
ขาดมาตรการเด็ดขาด ทำรูปแบบเดิมบ่อยครั้ง พวกขี้ข้าเหลี่ยมจับทางได้แถมมั่นใจว่าพวกคุณท่านไม่กล้าทำอะไร มากไปกว่าการเรียกตัวไปเข้าค่ายปรับความคิด นี่ถือว่าผิดหลักยุทธการในการรบ ถ้าฝ่ายหนึ่งทำแบบเดิมๆ ขาดจินตนาการ อีกฝ่ายย่อมเดาทางและวางแผนตีโต้แบบเจ็บๆ
คณะของคุณท่านควรเข้าใจได้แล้วว่าขบวนการขี้ข้าท่านเหลี่ยมเลิกแกล้งตาย ไม่กลัวพวกคุณท่าน ยิ่งเห็นอาการขาแกว่ง ผสมกับผลงานด้านการแก้ปัญหาค่าครองชีพ มีแต่ข่าวด้านลบเรื่องสภาวะไร้กฎหมาย คนมีเส้นอยู่เหนือกลไกกระบวนการยุติธรรม เสียงคำรามจึงไม่น่าเกรงขาม
การไม่เอาจริงกับขบวนการท่านเหลี่ยมหลังการรัฐประหาร การใช้อำนาจพิเศษพร่ำเพรื่อ ไม่มุ่งเป้าหลักตามความคาดหวังของสังคม การปฏิรูปยังเป็นภาวะลมพัดลมเพตามลมปาก จึงทำให้เกิดปัญหาความน่าเชื่อถือ ลามเป็นวิกฤตศรัทธาและความเชื่อมั่น แบบนี้อำนาจกองทัพเอาไม่อยู่แน่
ขบวนการเหลี่ยมก็รู้ ยิ่งกระแสกดดันจากประชาคมโลกยังไม่แผ่วต่อเรื่องรัฐประหาร การไร้ประชาธิปไตย คำอ้างของคุณท่านว่าต่างชาติเข้าใจดีเรื่องโรดแหม็บๆ นั้น บอกได้เลยว่านั่นเป็นการพูดเพื่อเอาใจเฉพาะหน้ารักษามารยาทสังคมทางการทูตอย่างที่ฝรั่งว่าเป็น “Lip Service”
การเต้นแร้งเต้นกากับการแหย่เพื่อลองของเป็นระยะๆ โดยพวกขี้ข้าเหลี่ยมนอกจากไร้ประโยชน์ ยังเกิดกระแสตีกลับว่าพวกคุณท่านไม่เอาจริง เห็นชัดว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรท่านเหลี่ยม ทั้งๆ ที่มี 7 หมายจับ โทษจำคุก 2 ปีคาอยู่นาน เป็นตลกร้ายในกระบวนการยุติธรรม
และไม่มีใครอธิบายให้สังคมรับรู้อย่างเป็นทางการว่าทำไมจึงไม่จัดการเด็ดขาด ทั้งๆ ที่พวกคุณท่านก็รู้ดี และบอกชาวบ้านบ่อยๆ ว่า “ตัวการใหญ่นอกประเทศ” เป็นตัวปัญหาความไม่สงบ
ชาวบ้านก็เลยเชื่อว่าบารมีของท่านเหลี่ยมนั้นมากเกินกว่ากระบวนการยุติธรรมจะเอาจริง ทำให้หมายจับของศาลไร้ความหมายเพราะเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ใส่ใจปฏิบัติตาม เป็นเพราะอะไรก็ตาม เหตุผลที่ไม่เคยบอกโดยคณะคุณท่านส่วนหนึ่งคือ ไม่อยากเอาตัวมาจะทำให้เกิดกระแส
ก่อนหน้านี้มีคำอธิบายในกลุ่มคนวงในว่า “ไม่อยากตีหมาให้จนตรอก”
ท่านเหลี่ยมยังเคยประกาศแกมเยาะว่า “อย่าลงทุนเผาบ้านเพื่อหวังฆ่าหนูตัวเดียว” แต่ชาวบ้านมองว่าต่อให้เผาบ้านหลายหลังหรือทั้งหมู่บ้านเพื่อฆ่าหนูพาหะเชื้อกาฬโรคตัวนี้ก็ยังต้องทำ เพราะหนูร้ายตัวนี้เป็นต้นเหตุเชื้อชั่วของความเสื่อมโทรมจนใกล้วิบัติล่มจมของประเทศในหลายด้าน
การถอดยศ เพิกถอนหนังสือเดินทาง เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ทำเพียงเพื่อไม่ต้องทำมากกว่านั้น
เรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ท่านเหลี่ยมไม่ได้ยี่หระอะไร ตราบใดที่ยังไม่สามารถเหยียบแผ่นดินไทยได้ ต้องเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนต่างแดนนานกว่า 7 ปี มีเงินหลายแสนล้านบาทก็เช่าที่ยืนในไทยไม่ได้ ถ้าขบวนการขี้ข้าทุ่มเงินซื้อเสียงชนะศึกเลือกตั้งทวงคืนอำนาจรัฐได้ จะเอาตำแหน่งอะไรก็ได้
ขบวนการเหลี่ยมตอดนิดตอดหน่อย การแถลงข่าวอ้อแอ้เรียกราคาโดยผู้เฒ่าจิ๋วถือเป็นความพยายามต่อเนื่องกัดเซาะฐานพลังเขียวให้กร่อน เมื่อไม่เอาจริงคนดีมองด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
คุณท่านต้องระวัง “กระแสคนดีไม่เอาด้วย” ถ้าแรงกว่านี้จะอยู่ลำบาก ไม่มีรัฐธรรมนูญก็ได้นะ!
ขันแดงใบเดียวยึดพื้นที่ข่าว สร้างกระแสต่อเนื่องหลายวัน อะไรมันจะขนาดนั้น!
แต่ต้องยอมรับว่าถ้าขันใบนั้นไม่ได้ถูกส่งมาจากท่านเหลี่ยมเร่ร่อน ไม่เป็นข่าว ก็คงไม่มีน้ำหนัก หรือต่อให้ท่านเหลี่ยมส่งมา แต่พวกคุณท่านมองเป็นเรื่องน่าขบขัน สิ้นท่าของท่านเหลี่ยม ผลของเรื่องจะเบี่ยงออกไปอีกแบบหนึ่ง แต่เมื่อมีอาการแบบเอาเป็นเอาตาย ขันแดงจึงแรงจนไม่น่าขัน
ทำคนส่งขันและคนรับขันนั่งหัวร่อ เมื่อเห็นคนสีเขียวไม่ขันไม่ยอมขำด้วย เท่ากับว่าขันแดงไร้ราคาทำเอากลุ่มพลังเขียวเกือบเสียศูนย์ ชาวบ้านเห็นแล้วก็งง สร้างความรู้สึกว่ากลุ่มพลังเขียวเริ่มออกอาการขาสั่น เหมือนไม่มั่นใจในความจีรังยั่งยืนของอำนาจเกิดปัจจัยพลังรั่วทำให้ไปเร็ว
ถ้าปล่อยวางเสียบ้าง ไม่ใส่ใจเยอะ ขันแดงไม่แรงฤทธิ์หรอก
แต่ปฏิกิริยาของกลุ่มอำนาจกลับร้อนรนต่อขันแดง ทำให้เสียราคาเยอะ ทั้งๆ ที่กองทัพยังสนับสนุน ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังมีใจให้เพราะไม่มีทางเลือกอื่น จะดีร้ายอย่างไรก็ยังดูดีกว่ากลุ่มขี้ข้าท่านเหลี่ยมซึ่งนั่งนับวันนับคืนรอวันทุ่มเงินมหาศาลซื้อเสียงเลือกตั้งหวังชิงอำนาจรัฐคืนมาให้ได้
ชาวบ้านจึงสงสัยว่าทำไมกลุ่มพลังเขียวเปราะบางเหลือเกิน มีอะไรหรือ?
หรือว่าพวกคุณท่านก็รู้ว่าขบวนการเหลี่ยมไร้พลัง แต่ท่านยังแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเรื่องพรรค์นี้อย่ามีใครแหยมลองอำนาจ เล็กน้อยก็ไม่ได้ ต้องให้เห็นว่าคณะทหารเด็ดขาดเอาจริง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขบวนการเหลี่ยม ไล่จากขี้ข้าปลายแถว แกนนำมวลชนอยากสู้แล้วรวย จนถึงนายทาสได้โชว์ลูกเล่นลีลาเขย่าฐานอำนาจกลุ่มเขียวเป็นระยะๆ และได้ผลเกือบทุกครั้ง มีบ้างเช่นกันที่คุณท่านและพวกออกมาสู้ศึกน้ำลายกับท่านเหลี่ยม แต่ได้แค่เรียกร้องให้มารับโทษเท่านั้น
เป็นอาการกล้าๆ กลัวๆ แหยงๆ พลังเหลี่ยม เหมือนงูหลามแพ้เชือกกล้วยอย่างนั้นแหละ! ถ้าจะให้เดาคงเป็นเพราะท่านเหลี่ยมได้เป็นเจ้าบุญนายคุณต่อพวกคุณท่านแต่ปางก่อน เลยไม่อยากหัก ที่ทำอาจหาญเพิกถอนหนังสือเดินทาง ถอดยศนั้นเป็นเพราะทนคำถามเชิงกดดันจากสังคมไม่ได้
ใครก็ตามที่กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อฐานอำนาจพลังกลุ่มเขียวน่าจะพลาดที่ไปตื่นหรือตระหนกเกินไป อาจประเมินกระแสสังคมพลาด จนหวาดผวาว่าผลงานที่ไม่เข้าตาพวกคนรู้ทัน สภาพของการยักแย่ยักยันขับดันรัฐธรรมนูญมีชัยไทยแลนด์แปรเนื้อหาตามใจพวกคุณท่านกำลังเป็นพิษ
เมื่อเกิดความคิดว่าฐานอำนาจซึ่งไม่มีมวลชนหนุนมากออกอาการง่อนแง่น ย่อมเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของความรู้สึกไม่มั่นใจ ยิ่งช่วงหลังขบวนการขี้ข้าเหลี่ยมและแม่นางเห็ดบานออกงานถี่ยิบ กลุ่มพลังเขียวต้องเร่งจัดหลักสูตรอบรมปรับเปลี่ยนทัศนคติ แต่ไม่ได้ผลตามคาด
ขาดมาตรการเด็ดขาด ทำรูปแบบเดิมบ่อยครั้ง พวกขี้ข้าเหลี่ยมจับทางได้แถมมั่นใจว่าพวกคุณท่านไม่กล้าทำอะไร มากไปกว่าการเรียกตัวไปเข้าค่ายปรับความคิด นี่ถือว่าผิดหลักยุทธการในการรบ ถ้าฝ่ายหนึ่งทำแบบเดิมๆ ขาดจินตนาการ อีกฝ่ายย่อมเดาทางและวางแผนตีโต้แบบเจ็บๆ
คณะของคุณท่านควรเข้าใจได้แล้วว่าขบวนการขี้ข้าท่านเหลี่ยมเลิกแกล้งตาย ไม่กลัวพวกคุณท่าน ยิ่งเห็นอาการขาแกว่ง ผสมกับผลงานด้านการแก้ปัญหาค่าครองชีพ มีแต่ข่าวด้านลบเรื่องสภาวะไร้กฎหมาย คนมีเส้นอยู่เหนือกลไกกระบวนการยุติธรรม เสียงคำรามจึงไม่น่าเกรงขาม
การไม่เอาจริงกับขบวนการท่านเหลี่ยมหลังการรัฐประหาร การใช้อำนาจพิเศษพร่ำเพรื่อ ไม่มุ่งเป้าหลักตามความคาดหวังของสังคม การปฏิรูปยังเป็นภาวะลมพัดลมเพตามลมปาก จึงทำให้เกิดปัญหาความน่าเชื่อถือ ลามเป็นวิกฤตศรัทธาและความเชื่อมั่น แบบนี้อำนาจกองทัพเอาไม่อยู่แน่
ขบวนการเหลี่ยมก็รู้ ยิ่งกระแสกดดันจากประชาคมโลกยังไม่แผ่วต่อเรื่องรัฐประหาร การไร้ประชาธิปไตย คำอ้างของคุณท่านว่าต่างชาติเข้าใจดีเรื่องโรดแหม็บๆ นั้น บอกได้เลยว่านั่นเป็นการพูดเพื่อเอาใจเฉพาะหน้ารักษามารยาทสังคมทางการทูตอย่างที่ฝรั่งว่าเป็น “Lip Service”
การเต้นแร้งเต้นกากับการแหย่เพื่อลองของเป็นระยะๆ โดยพวกขี้ข้าเหลี่ยมนอกจากไร้ประโยชน์ ยังเกิดกระแสตีกลับว่าพวกคุณท่านไม่เอาจริง เห็นชัดว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรท่านเหลี่ยม ทั้งๆ ที่มี 7 หมายจับ โทษจำคุก 2 ปีคาอยู่นาน เป็นตลกร้ายในกระบวนการยุติธรรม
และไม่มีใครอธิบายให้สังคมรับรู้อย่างเป็นทางการว่าทำไมจึงไม่จัดการเด็ดขาด ทั้งๆ ที่พวกคุณท่านก็รู้ดี และบอกชาวบ้านบ่อยๆ ว่า “ตัวการใหญ่นอกประเทศ” เป็นตัวปัญหาความไม่สงบ
ชาวบ้านก็เลยเชื่อว่าบารมีของท่านเหลี่ยมนั้นมากเกินกว่ากระบวนการยุติธรรมจะเอาจริง ทำให้หมายจับของศาลไร้ความหมายเพราะเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ใส่ใจปฏิบัติตาม เป็นเพราะอะไรก็ตาม เหตุผลที่ไม่เคยบอกโดยคณะคุณท่านส่วนหนึ่งคือ ไม่อยากเอาตัวมาจะทำให้เกิดกระแส
ก่อนหน้านี้มีคำอธิบายในกลุ่มคนวงในว่า “ไม่อยากตีหมาให้จนตรอก”
ท่านเหลี่ยมยังเคยประกาศแกมเยาะว่า “อย่าลงทุนเผาบ้านเพื่อหวังฆ่าหนูตัวเดียว” แต่ชาวบ้านมองว่าต่อให้เผาบ้านหลายหลังหรือทั้งหมู่บ้านเพื่อฆ่าหนูพาหะเชื้อกาฬโรคตัวนี้ก็ยังต้องทำ เพราะหนูร้ายตัวนี้เป็นต้นเหตุเชื้อชั่วของความเสื่อมโทรมจนใกล้วิบัติล่มจมของประเทศในหลายด้าน
การถอดยศ เพิกถอนหนังสือเดินทาง เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ทำเพียงเพื่อไม่ต้องทำมากกว่านั้น
เรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ท่านเหลี่ยมไม่ได้ยี่หระอะไร ตราบใดที่ยังไม่สามารถเหยียบแผ่นดินไทยได้ ต้องเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนต่างแดนนานกว่า 7 ปี มีเงินหลายแสนล้านบาทก็เช่าที่ยืนในไทยไม่ได้ ถ้าขบวนการขี้ข้าทุ่มเงินซื้อเสียงชนะศึกเลือกตั้งทวงคืนอำนาจรัฐได้ จะเอาตำแหน่งอะไรก็ได้
ขบวนการเหลี่ยมตอดนิดตอดหน่อย การแถลงข่าวอ้อแอ้เรียกราคาโดยผู้เฒ่าจิ๋วถือเป็นความพยายามต่อเนื่องกัดเซาะฐานพลังเขียวให้กร่อน เมื่อไม่เอาจริงคนดีมองด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
คุณท่านต้องระวัง “กระแสคนดีไม่เอาด้วย” ถ้าแรงกว่านี้จะอยู่ลำบาก ไม่มีรัฐธรรมนูญก็ได้นะ!