ผู้จัดการรายวัน 360 - “ศานิตย์” เผยจ่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องระบบไฟเอสซีบีขัดข้องอีกมากกว่า 5 ราย ยันหากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าใครเกี่ยวข้อง จะดำเนินการทันที วอนอย่ากดดันมาก ขอเวลา ตร.ทำงานอย่างสบายใจ
วานนี้ (17มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวนกรณีระบบป้องกันอัคคีภัยอัตโนมัติภายในห้องเก็บเอกสารสำคัญ อาคารเอสซีบี พาร์ค ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ขัดข้องจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บ 8 รายว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสอบสวนและฝ่ายสืบสวนไปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้มากที่สุด เพื่อให้มีหลักฐานเชื่อได้ว่า ทั้งกลุ่มบุคคล และนิติบุคคลนั้นมีการร่วมกันกระทำความผิดในข้อหาประมาทอย่างไร หากดำเนินการเรียบร้อยก็จะยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้เตรียมการไว้หมดแล้ว โดยเบื้องต้นมีผู้ที่เกี่ยวข้องเกิน 5 หมายจับ แต่จำนวนเท่าไรเปิดเผยไม่ได้ เพราะอาจส่งผลต่อรูปคดี หากมีหลักฐานถึงใครก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมดเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะนอกจากความสูญเสียแล้ว ยังต้องเน้นถึงผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมาอีก
** ตร.ขอหมายจับเพิ่มแล้ว
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00น. พล.ต.ท.ศานิตย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) ได้เข้าร่วมประชุมความคืบหน้าคดีดังกล่าวที่ สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พหลโยธิน โดยระบุว่า เบื้องต้นหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ จึงต้องหลักฐานชัดเจน โดยไม่มีข้อสงสัยเสียก่อน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางตำรวจได้ขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มเติมบางรายแล้ว แต่ต้องให้ศาลอนุญาต จึงจะเปิดเผยได้ สำหรับการทำสัญญาของต่างๆของแต่ละบริษัทนั้นจะต้องนำมาตรวจสอบว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ หากพบหลักฐานว่ามีความเกี่ยวข้องจะดำเนินการทั้งนิติบุคคลและบุคคลทันที ที่จริงอยากจะจับทั้งหมดคราวเดียว แต่มีข้อติดขัดตรงไหน ก็ต้องมาไล่กันดู โดยสรุปจะพยายามทำเรื่องนี้ด้วยแบบมาตรฐานมืออาชีพบนพื้นฐานของความถูกต้องเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย นอกจากรวดเร็วต่อเนื่องแล้วก็ต้องเป็นธรรมด้วย
“ยืนยันให้ทุกคนสบายใจถ้าพยานหลักฐานหรือเราพยายามจะหาหลักฐานไปถึงใคร ไม่ว่าจะนิติบุคคลหรือบุคคลก็จะเร่งรีบดำเนินการรวบรวมเพื่อส่งยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลออกหมายจับได้แล้ว เราก็จะเปิดเผยว่า นิติบุคคลนั้นเป็นใครบ้าง บุคคลนั้นเป็นใครบ้าง ขอให้เราทำงานอย่างสบายใจด้วย” พล.ต.ท.ศานิตย์ ระบุ
วานนี้ (17มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวนกรณีระบบป้องกันอัคคีภัยอัตโนมัติภายในห้องเก็บเอกสารสำคัญ อาคารเอสซีบี พาร์ค ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ขัดข้องจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บ 8 รายว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสอบสวนและฝ่ายสืบสวนไปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้มากที่สุด เพื่อให้มีหลักฐานเชื่อได้ว่า ทั้งกลุ่มบุคคล และนิติบุคคลนั้นมีการร่วมกันกระทำความผิดในข้อหาประมาทอย่างไร หากดำเนินการเรียบร้อยก็จะยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้เตรียมการไว้หมดแล้ว โดยเบื้องต้นมีผู้ที่เกี่ยวข้องเกิน 5 หมายจับ แต่จำนวนเท่าไรเปิดเผยไม่ได้ เพราะอาจส่งผลต่อรูปคดี หากมีหลักฐานถึงใครก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมดเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะนอกจากความสูญเสียแล้ว ยังต้องเน้นถึงผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมาอีก
** ตร.ขอหมายจับเพิ่มแล้ว
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00น. พล.ต.ท.ศานิตย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) ได้เข้าร่วมประชุมความคืบหน้าคดีดังกล่าวที่ สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พหลโยธิน โดยระบุว่า เบื้องต้นหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ จึงต้องหลักฐานชัดเจน โดยไม่มีข้อสงสัยเสียก่อน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางตำรวจได้ขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มเติมบางรายแล้ว แต่ต้องให้ศาลอนุญาต จึงจะเปิดเผยได้ สำหรับการทำสัญญาของต่างๆของแต่ละบริษัทนั้นจะต้องนำมาตรวจสอบว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ หากพบหลักฐานว่ามีความเกี่ยวข้องจะดำเนินการทั้งนิติบุคคลและบุคคลทันที ที่จริงอยากจะจับทั้งหมดคราวเดียว แต่มีข้อติดขัดตรงไหน ก็ต้องมาไล่กันดู โดยสรุปจะพยายามทำเรื่องนี้ด้วยแบบมาตรฐานมืออาชีพบนพื้นฐานของความถูกต้องเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย นอกจากรวดเร็วต่อเนื่องแล้วก็ต้องเป็นธรรมด้วย
“ยืนยันให้ทุกคนสบายใจถ้าพยานหลักฐานหรือเราพยายามจะหาหลักฐานไปถึงใคร ไม่ว่าจะนิติบุคคลหรือบุคคลก็จะเร่งรีบดำเนินการรวบรวมเพื่อส่งยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลออกหมายจับได้แล้ว เราก็จะเปิดเผยว่า นิติบุคคลนั้นเป็นใครบ้าง บุคคลนั้นเป็นใครบ้าง ขอให้เราทำงานอย่างสบายใจด้วย” พล.ต.ท.ศานิตย์ ระบุ