ผู้จัดการรายวัน360 - “พาณิชย์” จี้ ทอท. แก้ปัญหาน้ำดื่มแพง หลังประชาชนโวย เผยด้านนอกต้องขายไม่เกินขวดละ 7-10 บาท ส่วนด้านในหลังเช็กอินไปแล้ว ยื่นข้อเสนอขวดละ 10-12 บาท รอลุ้นคำตอบ 22 มี.ค.นี้ ส่วนอาหารขอให้เพิ่มเมนู 35 บาท และเพิ่มจุดจำหน่ายให้มากขึ้น ระบุมีกฎหมายจัดการได้ แต่ขอใช้ไม้นวมก่อนใช้ไม้แข็ง ด้าน กปน. -กปภ. ยันป้อนน้ำผลิตน้ำดื่ม น้ำใช้ได้ ไม่มีขาดแคลนแน่นอน
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำดื่มและอาหารในสนามบินมีราคาแพง วานนี้ (17 มี.ค.) ว่า ได้ขอความร่วมมือ ทอท. ให้ช่วยประสานให้ผู้ประกอบการที่จำหน่ายน้ำดื่มในสนามบินปรับลดราคาจำหน่ายน้ำดื่มลงมา โดยให้ใช้เกณฑ์ราคา 7-10 บาทต่อขวดสำหรับขนาด 500 ซีซี ซึ่งเป็นราคาแนะนำที่กรมฯ กำหนดสำหรับการจำหน่ายน้ำดื่มทั่วไป ซึ่งทอท. ได้รับที่จะไปดำเนินการให้ แต่จะดำเนินการได้เฉพาะในส่วนของพื้นที่สนามบินที่อยู่ก่อนที่จะเช็กอินเข้าไป
ส่วนน้ำดื่มที่จำหน่ายภายในสนามบิน หลังจากที่ผู้โดยสารได้ทำการเช็กอินเข้าไปแล้ว ในส่วนนี้ ทาง ทอท. แจ้งว่าได้เปิดประมูลให้ผู้ประกอบการเข้ามาบริหารจัดการ ซึ่ง ทอท. จะไปประสานงานกับผู้ประกอบการ เพื่อขอให้แจ้งผู้ประกอบการที่มาเช่าพื้นที่ปรับลดราคาจำหน่ายน้ำดื่มลงมา โดยกรมฯ ได้เสนอตัวเลขเบื้องต้นที่ 10-12 บาทต่อขวดแต่จะจำหน่ายได้ราคานี้หรือไม่ ต้องรอผลที่ ทอท. จะไปหารือกับผู้ประกอบการก่อน
“เรื่องน้ำดื่มมีราคาแพง กรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีการจำหน่ายในราคาสูงเกินไปจริง จึงได้เชิญ ทอท. ซึ่งเป็นผู้บริหารสนามบินมาหารือ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา และคาดว่าน่าจะมีทางออกที่ดี”น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว
สำหรับราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ทอท. ได้แจ้งว่า มีร้านสวัสดิการที่จำหน่ายอาหารราคาถูกอยู่ เพียงแต่ประชาชนไม่ค่อยรู้ ซึ่งจะได้มีการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้รับรู้มากขึ้น และจะเพิ่มจุดจำหน่ายให้มากขึ้นด้วย ส่วนด้านในหลักจากเช็กอินเข้าไปแล้ว ได้ขอความร่วมมือให้เพิ่มอาหารเมนูไม่เกิน 35 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่เดินทางได้เลือกบริโภค
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จะเดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายน้ำดื่มและอาหารในสนามบินดอนเมือง โดยได้เชิญกรมฯ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไปร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งอาจจะได้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องน้ำดื่มที่จำหน่ายในสนามบินวันนั้นก็ได้ว่าราคาจะเป็นเท่าใด เพราะน้ำดื่มบรรจุขวด ถือเป็นสิ่งจำเป็น แต่ในส่วนของน้ำแร่ เป็นน้ำทางเลือก กรมฯ จะไม่เข้าไปยุ่ง เป็นส่วนที่ผู้บริโภคจะต้องตัดสินใจที่จะเลือกบริโภค
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของน้ำดื่ม กรมฯ สามารถใช้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เข้าไปดูแลได้ แต่ยังไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น เพราะหากสามารถเจรจากันได้ ก็จะใช้วิธีการเจรจาก่อน
สำหรับการหารือกับการประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อดูแลน้ำดื่มในช่วงหน้าแล้ง นั้น น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจาก กปน. และกปภ. สามารถจ่ายน้ำให้กับผู้ผลิตน้ำดื่มได้อย่างเพียงพอจนสิ้นฤดูแล้ง หรือนานสุดถึงประมาณเดือนก.ค.2559 ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้ใช้น้ำว่าหน้าแล้งปีนี้ ประเทศไทยจะไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มและน้ำใช้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำดื่มและอาหารในสนามบินมีราคาแพง วานนี้ (17 มี.ค.) ว่า ได้ขอความร่วมมือ ทอท. ให้ช่วยประสานให้ผู้ประกอบการที่จำหน่ายน้ำดื่มในสนามบินปรับลดราคาจำหน่ายน้ำดื่มลงมา โดยให้ใช้เกณฑ์ราคา 7-10 บาทต่อขวดสำหรับขนาด 500 ซีซี ซึ่งเป็นราคาแนะนำที่กรมฯ กำหนดสำหรับการจำหน่ายน้ำดื่มทั่วไป ซึ่งทอท. ได้รับที่จะไปดำเนินการให้ แต่จะดำเนินการได้เฉพาะในส่วนของพื้นที่สนามบินที่อยู่ก่อนที่จะเช็กอินเข้าไป
ส่วนน้ำดื่มที่จำหน่ายภายในสนามบิน หลังจากที่ผู้โดยสารได้ทำการเช็กอินเข้าไปแล้ว ในส่วนนี้ ทาง ทอท. แจ้งว่าได้เปิดประมูลให้ผู้ประกอบการเข้ามาบริหารจัดการ ซึ่ง ทอท. จะไปประสานงานกับผู้ประกอบการ เพื่อขอให้แจ้งผู้ประกอบการที่มาเช่าพื้นที่ปรับลดราคาจำหน่ายน้ำดื่มลงมา โดยกรมฯ ได้เสนอตัวเลขเบื้องต้นที่ 10-12 บาทต่อขวดแต่จะจำหน่ายได้ราคานี้หรือไม่ ต้องรอผลที่ ทอท. จะไปหารือกับผู้ประกอบการก่อน
“เรื่องน้ำดื่มมีราคาแพง กรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีการจำหน่ายในราคาสูงเกินไปจริง จึงได้เชิญ ทอท. ซึ่งเป็นผู้บริหารสนามบินมาหารือ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา และคาดว่าน่าจะมีทางออกที่ดี”น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว
สำหรับราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ทอท. ได้แจ้งว่า มีร้านสวัสดิการที่จำหน่ายอาหารราคาถูกอยู่ เพียงแต่ประชาชนไม่ค่อยรู้ ซึ่งจะได้มีการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้รับรู้มากขึ้น และจะเพิ่มจุดจำหน่ายให้มากขึ้นด้วย ส่วนด้านในหลักจากเช็กอินเข้าไปแล้ว ได้ขอความร่วมมือให้เพิ่มอาหารเมนูไม่เกิน 35 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่เดินทางได้เลือกบริโภค
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จะเดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายน้ำดื่มและอาหารในสนามบินดอนเมือง โดยได้เชิญกรมฯ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไปร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งอาจจะได้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องน้ำดื่มที่จำหน่ายในสนามบินวันนั้นก็ได้ว่าราคาจะเป็นเท่าใด เพราะน้ำดื่มบรรจุขวด ถือเป็นสิ่งจำเป็น แต่ในส่วนของน้ำแร่ เป็นน้ำทางเลือก กรมฯ จะไม่เข้าไปยุ่ง เป็นส่วนที่ผู้บริโภคจะต้องตัดสินใจที่จะเลือกบริโภค
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของน้ำดื่ม กรมฯ สามารถใช้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เข้าไปดูแลได้ แต่ยังไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น เพราะหากสามารถเจรจากันได้ ก็จะใช้วิธีการเจรจาก่อน
สำหรับการหารือกับการประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อดูแลน้ำดื่มในช่วงหน้าแล้ง นั้น น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจาก กปน. และกปภ. สามารถจ่ายน้ำให้กับผู้ผลิตน้ำดื่มได้อย่างเพียงพอจนสิ้นฤดูแล้ง หรือนานสุดถึงประมาณเดือนก.ค.2559 ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้ใช้น้ำว่าหน้าแล้งปีนี้ ประเทศไทยจะไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มและน้ำใช้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน