xs
xsm
sm
md
lg

หิ้ว"วัฒนา"ปรับทัศนคติ โพสต์เฟซบุ๊กโจมตี"บิ๊กป้อม-คสช."

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (2 มี.ค.) ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เจ้าหน้าที่ทหาร จากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นำตัว นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย มาพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อปรับทัศนคติ ภายใน ร.1 รอ. ซึ่งคาดว่าเป็นกรณีการโพสต์เฟซบุ๊ก ต่อว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ว่าไม่ให้เกียรติ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสช. ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ของเจ้าหน้าที่ทหาร โดยห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายใน ร.1 รอ. อย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ ขบวนรถของทหาร กกล.รส. เมื่อออกจากบ้านพักของนายวัฒนา ได้แยกเป็นสองขบวน อีกขบวนหนึ่งได้สับขาหลอกรถยี่ห้อเบนซ์ มีลูกสาว และเลขาส่วนตัวของนายวัฒนา รวมทั้งขบวนรถของผู้สื่อข่าว เพื่อให้ขบวนแยกออกจากขบวนรถของนายวัฒนา ก่อนที่จะนำตัวไปที่ ร.1 รอ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวนายวัฒนา ออกจาก ร.1 รอ. เดินทางไป มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจปรับทัศนคติภายใน มทบ.11
ทั้งนี้เมื่อเวลา 16.00 น. แหล่งข่าวจาก คสช. เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ กกล.รส. ยังคงอยู่ระหว่างการพูดคุยกับนายวัฒนา เพื่อทำความเข้าใจ เพราะเกรงว่าการแสดงความคิดเห็นของนายวัฒนา จะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันว่า จะให้นายวัฒนาค้างคืนภายใน มทบ.11 หรือไม่ อย่างไร ซึ่งต้องรอดูผลการพูดคุยต่อไป ในช่วงค่ำๆ
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงการเชิญตัวนายวัฒนา มาพูดคุยในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องมาจากการแสดงออก หรือแสดงความคิดเห็นในช่วงที่ผ่านมา ถ้าเป็นเรื่องของการให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ภายใต้กรอบและช่องทางที่กำหนด ในการสื่อสารไปถึงผู้รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้เป็นข้อพิจารณานั้นสามารถกระทำได้ แต่ในส่วนการแสดงออกที่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมือง ยังคงอยู่ในช่วงที่ต้องระมัดระวัง ทั้งนี้กรณีการให้ความเห็นของนายวัฒนา ล่าสุด ยังมีลักษณะไปกล่าวหาพาดพิงบุคคล และองค์กรอื่น ที่อาจทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจ คสช.คลาดเคลื่อน เช่น บางเนื้อหามีการกล่าวหาว่า คสช. สร้างความเสียหาย หรือทำให้เกิดการตกต่ำ รวมทั้งบิดเบือนว่า คสช. จะไม่คืนอำนาจ เป็นต้น จึงจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ต้องเชิญมา เพื่อปรับความเข้าใจ
"คนส่วนใหญ่เข้าใจได้ว่า นายวัฒนาได้รับผลกระทบจากการเข้ามาแก้ปัญหาของ คสช. จึงอาจเป็นเหตุให้เจ้าตัว มีอคติ รู้สึกไม่พอใจและมีทัศนคติที่เป็นลบตลอดเวลา แต่เจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องดูแลสถานการณ์ให้เกิดบรรยากาศที่สงบ เรียบร้อยที่สุด ส่วนการให้ความเห็นใดๆ ที่ไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจน ควรต้องระมัดระวัง และอะไรที่ดูเกินกว่าขีดระดับที่เจ้าหน้าที่ประเมินไว้ ก็จำเป็นต้องมีการตักเตือน และปรับความเข้าใจกันบ้าง" โฆษกคสช. กล่าว
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เขาไปพูดอะไรไว้ เรื่องนี้ให้ไปถาม คสช. คงเป็นการเชิญตัวมาปรับทัศนคติ อย่าเพิ่งพูดอะไรให้กระทบกระเทือนใครตอนนี้ อย่าเพิ่งมาว่าตนในตอนนี้ เพราะตนไม่ได้ว่าใครอยู่แล้ว ส่วนที่หลายคนยังออกมาเคลื่อนไหว ทั้งที่ถูกเรียกไปปรับทัศนคติหลายครั้งนั้น หากพูดร้อยครั้ง ก็จะเรียกมาร้อยครั้ง ต่อไปอาจเรียกมาทีละ 3-7 วัน ถ้าพูดแล้วทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ทำให้เกิดความขัดแย้ง จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย ขออย่าพูดให้เกิดความขัดแย้ง และทำให้เข้าใจผิด
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ ที่มีการเคลื่อนไหวกันหนัก ในช่วงที่ร่างรัฐธรรมนูญกำลังปรับแก้ไขอยู่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ห่วงทุกอย่างจะต้องเดินไป เพราะไม่มีความเคลื่อนไหวมากมาย คนมีตั้ง 70 ล้านคน มีทั้งเห็นชอบและไม่เห็นชอบ สุดท้ายก็มีการเลือกตั้ง ส่วนใครที่เข้าข่ายจะเรียกมาปรับทัศนคติอีก ตนจำไม่ได้ มันเยอะ
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้ ว่า ส่วนใหญ่เอาของเก่ามาออกเป็นตอนๆ อย่างเช่น สถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา ส่วนที่สถาบันนโยบายโลก หรือ WPI เชิญนายทักษิณ ไปบรรยายพิเศษเกี่ยวกับสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ ประชาธิปไตยของไทย ในวันที่ 9 มี.ค.นั้น ตนก็ได้เรียนแล้วว่า อะไรที่ไม่ทำให้ประเทศชาติเจริญไปข้างหน้า ขออย่าไปพูด ในฐานะที่เป็นอดีตนายกฯ และเป็นคนไทย ขอให้ช่วยกัน เช่นเดียวกับผู้สื่อข่าวก็อย่าถามอะไรซ้ำซาก
กำลังโหลดความคิดเห็น