xs
xsm
sm
md
lg

จัดใหญ่ฉลองครบ7รอบพระราชินี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (25 ก.พ.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการฝ่ายพิธีการงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559
หลังการประชุม พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ในโอกาสมหามงคลดังกล่าว จะมีงานพระราชพิธี และงานศาสนพิธี โดยสำนักงานพระราชวัง และสำนักงานราชเลขาธิการเป็นเจ้าภาพ สำหรับการจัดกิจกรรมที่ประชุมมอบหมายให้ไปดำเนินการเรื่องการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติและสดุดีพระเกียรติคุณ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งในส่วนนี้ จะมี 2 งานสำคัญ คือ งานสโมสรสันนิบาตที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพ และอีกส่วนหนึ่งเป็นการจัดกิจกรรมเชิดชู สดุดี และเผยแพร่พระเกียรติคุณ โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เป็นผู้สนับสนุน และประสานงานกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ อยู่ระหว่างการดำเนินการ นอกจากนี้จะมีในส่วนของโครงการและกิจกรรมเพื่อถวายในวโรกาสดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการจัดตั้งสวนป่าเบญจสิริ และปรับปรุงศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพดำเนินการ นอกจากนี้ ยังมีการจัดสร้างพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษา โดยกรมศิลปากร และสำนักงานพระพุทธศาสนา ร่วมกันดำเนินการ ซึ่งได้ข้อยุติเรื่องแบบ วัสดุ และได้รับคำแนะนำในการจัดทำจากสำนักงานพระราชวัง ทั้งนี้ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 12 ส.ค.59 ขณะเดียวกันเรื่องกิจกรรมโครงการต่างๆ จากที่นายกฯได้ริเริ่มการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า ที่สี่เสาเทเวศร์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในส่วนนี้ได้มอบหมายสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ เป็นเจ้าภาพบูรณาการ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนก.ค.นี้ และแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย. 2563
ด้านนางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการประสานงานและการประชาสัมพันธ์การจัดงาน ในส่วนของชื่องานนั้นอยู่ระหว่างการกราบบังคมทูล และเราได้ยึดหลักการจัดงานเหมือนครั้งงานครบ 6 รอบ คือ ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.- 31 ธ.ค. ในส่วนของตราสัญลักษณ์กรมศิลปากรได้ออกแบบไว้แล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการปรับและแก้ไข นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติให้ถวายแบบตราสัญลักษณ์ กราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้มีพระราชวินิจฉัยต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น