นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 เกี่ยวกับประเด็นประชามติ หลังสำนักงานคณะกรรมกฤษฎีกาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ยกร่างว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้รับแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว จากที่ประชุมครม. มาแล้ว ซึ่งมีการปรับแก้เรื่องการนับคะแนนที่จะให้ยึดเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ์ รวมถึงข้อเสนอจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และบทลงโทษ ดำเนินการและแก้ไขปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการประชุมอีก 1 - 2 ครั้ง เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย ก่อนส่งกลับเข้าที่ประชุมครม. เพื่อพิจารณา ซึ่งคาดว่าอีกไม่นาน โดยต้องส่งก่อนที่กรธ.จะพิจารณาปรับปรุงแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอแนะให้แล้วเสร็จวันที่ 29 มี.ค.
ทั้งนี้ ในส่วนของบทลงโทษ และการควบคุมการทำประชามติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยนั้น ทุกครั้งที่จะออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องมีการออกกฎหมายเพื่อใช้ดูแล เหมือนรัฐธรรมนูญปี 49 และปี 50 ก็มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับการทำประชามติ แต่ตอนนี้ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวให้เสร็จเสียก่อน เพราะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการดูแลความเรียบร้อยการทำประชามติโดยเฉพาะ ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับการกำหนดบทลงโทษกับผู้ที่กระทำผิดในการออกเสียงประชามติ ใช้ช่องทางไหนในการกฎหมาย นายดิสทัต กล่าวว่า ลองไปดูการทำประชามติ ร่าง รัฐธรรมนูญปี 50 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าใช้กฎหมายรูปแบบไหน
ทั้งนี้ ในส่วนของบทลงโทษ และการควบคุมการทำประชามติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยนั้น ทุกครั้งที่จะออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องมีการออกกฎหมายเพื่อใช้ดูแล เหมือนรัฐธรรมนูญปี 49 และปี 50 ก็มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับการทำประชามติ แต่ตอนนี้ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวให้เสร็จเสียก่อน เพราะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการดูแลความเรียบร้อยการทำประชามติโดยเฉพาะ ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับการกำหนดบทลงโทษกับผู้ที่กระทำผิดในการออกเสียงประชามติ ใช้ช่องทางไหนในการกฎหมาย นายดิสทัต กล่าวว่า ลองไปดูการทำประชามติ ร่าง รัฐธรรมนูญปี 50 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าใช้กฎหมายรูปแบบไหน