xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ชะตา”สมเด็จช่วง” ดีเอสไอกางหลักฐานรถหรู “บิ๊กตู่”โดดหย่าศึกผ้าเหลือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360 -“บิ๊กตู่”หย่าศึกผ้าเหลือง เตรียมเชิญผู้เห็นต่าง พระสองฝ่ายดีเบตหาทางออก ย้ำแต่งตั้ง "สังฆราช" เป็นพระราชอำนาจ ไม่อยากให้เป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท "สุวพันธ์"ยันไม่เสนอชื่อ เหตุยังไม่สิ้นข้อสงสัย ดีเอสไอนัดแถลงคดีรถหรูวันนี้ "บิ๊กต๊อก" เตือนอย่าก่อม็อบกดดัน "ไพสิฐ"แย้มคดี "ธรรมกาย" รับเช็คคลองจั่นผิดรับของโจรหรือฟอกเงินรู้ผลสัปดาห์หน้า ตำรวจออกหมายเรียก "เจ้าคุณประสาร" นำม็อบพระชุมนุม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ขณะที่เดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า มีความกังวลกรณีเครือข่ายคณะสงฆ์และองค์กรภาคีจัดประชุมที่พุทธมณฑล เนื่องจากเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะตัดสินหรือใช้การบังคับไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องความศรัทธา และการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ถือเป็นพระราชอำนาจ ไม่อยากให้เป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท

นี้ เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว จะเชิญผู้ที่เห็นต่างมาพูดคุยแบบโต้วาที (ดีเบต) ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ หากทุกคนหวังดีและต้องการให้ศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ เป็นที่เคารพนับถือ โดยต้องหาทางออกตามแนวทางพระธรรมพระวินัยให้ได้ข้อยุติ เพราะหากส่งเรื่องมายังรัฐบาล ก็ต้องดำเนินการขั้นตอนของกฎหมายและขอให้ทุกฝ่ายอย่าพึ่งเคลื่อนไหว

"ผมอยากให้ยุติวันนี้ให้ได้ ถ้าคุยในทางสงฆ์ไม่ได้ ต้องไปคุยในข้อกฎหมาย กลับไปจะรีบดำเนินการทันทีขออย่าเคลื่อนไหวมาเลย ไม่อยากไปใช้อำนาจอะไรกับพระ แม้กระทั้งกับฆราวาส แล้วศาลนาพุทธก็จะถูกทำลายด้วยพวกเรากันเองนี่แหละ"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวเห็นด้วยว่า การจะให้คณะสงฆ์ที่มีความเห็นต่างกันในเรื่องแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชดีเบตกันนั้น ก็สามารถดำเนินการได้ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

***ยังไม่ชงตั้ง"สังฆราช"เหตุไม่สิ้นข้อสงสัย

สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงการเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ว่า การเสนอชื่ออยู่ที่กลางทาง คือ รัฐบาล เราต้องพิจารณาทั้งเรื่องกฎหมาย สังคม และความเป็นไปในคณะสงฆ์ ตอนนี้ตนเห็นว่ายังไม่สมควรจะเสนอชื่อดังกล่าวต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประยุทธ์ โดยตนขอดูเรื่องนี้ให้สิ้นข้อสงสัยก่อนแล้วค่อยเสนอขึ้นไป

ถามถึงกรณีนายกฯ เสนอให้เปิดเวทีดีเบตของทั้งสองฝ่าย นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า คงต้องรอให้นายกฯ กลับมาก่อน นายกฯ เจตนาดี อยากให้ทุกอย่างมันหยุด ซึ่งขณะนี้ตนก็คุยกับพระอยู่

***แถลงคดีรถหรูวันนี้ เตือนอย่าม็อบ

กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าก่อนเตรียมแถลงคดีตรวจสอบรถเบนซ์ รุ่นรหัสตัวถัง W186 หมายเลขทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ที่มีชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นผู้ครอบครองว่า ในวันนี้ (18 ก.พ.) เวลาประมาณ 09.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะแถลงความเป็นมาเป็นไปในรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนหรือคนที่เห็นต่างมารับฟังได้หมด สามารถโต้แย้งได้เลย เพื่อไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง และไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้สื่อข่าว แต่อย่าสร้างม็อบมากดดันตน เพราะไม่มีทางที่ตนจะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

"ใครที่สนใจ เห็นว่าเป็นเรื่องราวก็เปิดโอกาสให้ท่านได้ซักถามกับอธิบดีดีเอสไอ มาฟังเพื่อให้ได้ข้อยุติ อะไรที่ยังไม่ได้ทำสามารถสอบถามได้เลย แต่ไม่ต้องมาเป็นม็อบแล้วอ้างว่าไม่มีความเป็นธรรมไม่ได้ และจะมาบอกให้กระทรวงยุติธรรม ดีเอสไอ หรือหน่วยงานที่ตนดูแลอยู่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ท่านไม่ต้องมาทำ เพราะผมไม่มีทางทำตามนั้นอยู่แล้ว"

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการส่งข้อมูลให้กับผู้ที่มีอำนาจในการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ถ้าเขาร้องขอมาก็จะทำ ตนบอกไปแล้ว จะทำเฉพาะคดีที่รับผิดชอบ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งสมณศักดิ์ของสงฆ์ แต่ว่าถ้ามีหน่วยงานใดเกี่ยวข้องและขอความร่วมมือก็จะส่งข้อมูลให้

ส่วนเรื่องคดีสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จะมีการเปิดเผยข้อมูลในระดับหนึ่งด้านความก้าวหน้า แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดลึก โดยเป็นการสรุปภาพรวมของคดีใหญ่ให้ทราบ

***จ่อฟัน"ธรรมกาย"ฟอกเงิน-รับของโจร

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวถึงผลการประชุมของคณะพนักงานสอบสวนชุดตรวจสอบเส้นทางการรับเช็ค 878 ฉบับจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ให้แก่ผู้รับเช็ค 7 กลุ่มเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า คณะทำงานมีการประชุมหารือร่วมกับอัยการฝ่ายสืบสวนเพื่อพิจารณา เห็นว่าใน 7 กลุ่มที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน มีการรับเช็คสหกรณ์ฯ คลองจั่นไป เข้าข่ายความผิดอาจจะเป็นรับของโจร หรือฟอกเงินแล้วแต่กรณี

ขณะนี้ได้เริ่มเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้มองเฉพาะพระหรือวัด เรามองทุกกลุ่มที่รับเช็คสหกรณ์ฯ คลองจั่นไป โดยคุณจะรู้หรือไม่ว่าไม่ใช่เงินบริจาค แต่ได้มาโดยไม่ถูกต้องก็จะเข้าข่าย"

ผู้สื่อข่าวถามว่า การรับเช็คมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับของโจรหรือไม่ พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ต้องดูแต่ละกรณีไม่เหมือนกันเพราะว่าเช็คที่ออกไป 878 ฉบับ แต่ละฉบับมันต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งในแต่ละกลุ่มจะมีการพิจารณาการรับเช็คไว้โดยมีมูลหนี้หรือไม่ สำหรับวัดพระธรรมกายก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่รับเช็ค ซึ่งเราต้องดูทุกกลุ่ม ขณะนี้กำลังให้พนักงานสอบสวนสรุปรายละเอียดก่อนจะมีการชี้แจงในสัปดาห์ต่อไป

***ตร.ออกหมายเรียก"เจ้าคุณประสาร"

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 1 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคณะสงฆ์ที่นำโดยพระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ที่มีการรวมตัวขององค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 แห่งทั่วประเทศ ชุมนุมที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม จนเกิดเหตุชุลมุนระหว่างคณะสงฆ์กับทหารที่มาดูแลความสงบ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ประชุมคณะพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน มีความเห็นเบื้องต้นว่าจะออกหมายเรียก นิมนต์พระเมธีธรรมาจารย์มาพบพนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล ในข้อหาละเมิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ในเร็วๆ นี้ ส่วนประเด็นอื่นๆ ต้องพิจารณาต่อไป ดูว่าใครทำผิดกฎหมายอย่างไรอีกบ้าง

สำหรับปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากความเห็นต่างนั้น เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องเจรจากันเพื่อหาทางออกที่สงบ โดยตำรวจติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ และมีจุดยืน คือ การบังคับใช้กฎหมาย หากผู้ใดละเมิดกฎหมาย ตำรวจก็ต้องดำเนินคดี

***ทนายโบ้ยอู่-ผู้นำเข้า-รัฐผิด

นายศุภภัทร์พจน์ นิติศธร ฝ่ายกฏหมายวัดปากน้ำภาษีเจริญ กล่าวว่า ตามที่รมว.ยุติธรรมแถลงข่าวเรื่องรถโบราณของวัดปากน้ำนำเข้าไม่ถูกต้องตามกฏหมายนั้น ขอชี้แจงว่ากระบวนการการนำเข้า อะไหล่รถ เป็นเรื่องของอู่วิชาญและผู้นำเข้า ดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริจาครถให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ถ้าการนำเข้ารถไม่ถูกต้องตามกฏหมายจริง เป็นเรื่องที่ดีเอสไอ จะต้องตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกับผู้นำเข้า กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมการขนส่งทางบก โดยเฉพาะกรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร เป็นหน่วยงานที่ต้องตรวจสอบและประเมิน รวมถึงเรียกเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้า

***"เจ้าคุณประสาร"จี้รัฐเบรก"พุทธะอิสระ"

พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลกลุ่มผู้คัดค้านให้ยุติการเคลื่อนไหว ไม่ใช่ขอให้คณะสงฆ์ยุติการเคลื่อนไหว เพราะพระพุทธะอิสระ ยังไปแจ้งความดำเนินคดีกับพระสงฆ์ที่มาประชุมที่พุทธมณฑล เพราะหากยังปล่อยให้เคลื่อนไหวได้ คณะสงฆ์จะออกมาประชุมกันอีกครั้ง ส่วนขั้นตอนการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 และการพิจารณาคดีต่างๆ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย โดยไม่มีการเมืองหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมาแทรกแซง

***หลวงปู่ไล่ "พระเมธีฯ" ย้ายไปอยู่สหรัฐฯ

ที่รัฐสภา พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เข้ายื่นหนังสือต่อสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านนายวีระยุทธ เจริญกูล ผอ.สำนักประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายพงศ์กิตติ์ อรุณภักดีสกุล รองเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎหมายคณะสงฆ์ การปกครองคณะสงฆ์ และกิจการพระพุทธศาสนา หลังจากเกิดเหตุการณ์พระสงฆ์ออกมาชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย เพื่อกดดันให้รัฐบาลเสนอชื่อพระมหารัชมังคลาจารย์ ขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระสังฆราช

พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า กรณีที่พระเมธีธรรมาจารย์เรียกร้องไม่ให้รัฐบาลออกมายุ่งกับกิจของสงฆ์นั้น คิดว่าก็ให้ย้ายไปอยู่ประเทศปาราชิก นั่นคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะหลายคนที่ทำผิดในประเทศไทย แต่กฎหมายทำอะไรไม่ได้ ก็ไปอยู่ที่นั้นหลายคน อีกทั้งข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อของพระเมธีธรรมาจารย์เพื่อต้องการอำนาจและต้องการติดคุก
กำลังโหลดความคิดเห็น