ตำรวจเตรียมออกหมายจับอาร์ตูร์ โยงฆ่าหั่นศพเพื่อนนักธุรกิจชาวสเปน คาดยังหลบหนีในไทย ขณะรวบอีก 1 ชายไทยผู้ต้องสงสัย พร้อมคุมตัวสอบปากคำ ขณะที่สาวสุรินทร์ปัดมีเอี่ยวฆ่าหั่นศพ
ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพนายเดวิด แบร์นาต อายุ 39 ปี นักธุรกิจชาวสเปน โยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดวานนี้ (7 ก.พ.) พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีฆ่าหั่นศพ นายเดวิด แบร์นาต ชาวสเปน ยืนยันว่าขณะนี้มีหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถขอศาลออกหมายจับ นายอาร์ตูร์ เซการ์รา ปรินเซฟ ชาวสเปน ได้แต่เนื่องจากผู้ต้องสงสัยมีหมายจับค้างเก่าและคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ต่างประเทศจับตา พยานหลักฐานจึงต้องมีความแน่นหนาก่อนขอศาลออกหมายจับในข้อหาหนัก อาทิ ข้อหาลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ทรมาน ฆ่าคนตาย ปิดบังซ่อนเร้นอำพราง ทำลายศพ และรีดเอาทรัพย์สิน ซึ่งคดีนี้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว 2 คน คือ นางสาวปริศนา แสนอุบล และเพื่อนชายชาวไทย ที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะอีซุซู สีดำให้ นายอาร์ตูร์ ไปกดเงิน ส่วนชายชาวอิตาลี และชายชาวสเปนอีกหนึ่งคน ตำรวจพบตัวและสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้อง และขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรบริเวณจุดที่ นายอาร์ตูร์ ไปกดเงินย่านคลองเตยตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อติดตามเส้นทางที่ใช้หลบหนี และในวันนี้คาดว่าจะทราบผลการตรวจดีเอ็นเอในหลายจุด รวมทั้งจะมีความชัดเจนในส่วนสถานที่ที่ใช้กักขัง ทรมาน และฆ่า นายเดวิด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตกรุงเทพฯ
ส่วนกรณีที่มีการพบรถจักรยานยนต์ถูกจอดทิ้งไว้ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ทางการกัมพูชายืนยันว่ายังไม่ได้พบตัว นายอาร์ตูร์ ในฝั่งกัมพูชา จึงเป็นไปได้ว่ายังหลบหนีในฝั่งประเทศไทย
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวเพื่อนชายของ น.ส.ปริศนา แสนอุบล อายุ 22 ปี ผู้ต้องสังสัยที่อาจร่วมการฆ่าหั่นศพ หลังจากทราบว่าเพื่อนชายคนดังกล่าวได้นำ นายอาร์ตูร์ เซการ์รา ปรินเซป อายุ 37 ปี ชาวสเปน ซึ่งเป็นผู้ต้องสังสัยในคดีนี้เดินทางโดยรถกระบะไปกดเงินที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานที่สามารถขอศาลออกหมายจับ นายอาร์ตูร์ เซการ์รา ปรินเซฟ ชาวสเปน ได้แล้ว แต่เนื่องจากผู้ต้องสงสัยคดีดังกล่าวเป็นคดีที่จับตาของต่างประเทศ พยานหลักฐานจึงต้องมีความแน่นหนาก่อนขอศาลออกหมายจับ
***สาวสุรินทร์ปัดเอี่ยวฆ่าหั่นศพ
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการสอบปากคำ น.ส.ปริศนา แสนอุบล อายุ 22 ปี ที่ จ.สุรินทร์ น.ส.ปริศนา ให้การว่ารู้จักกับนายอาร์ตูร์มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ที่สถาบันบันเทิงย่านสุขุมวิท กระทั่งเมื่อธันวาคมที่ผ่านมา นายอาร์ตูร์ได้ชักชวนมาอาศัยอยู่ด้วยกันที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านรัชดา และนายอาร์ตูร์ได้บอกว่าประมาณวันที่ 17 - 24 มกราคม จะมีเพื่อนชาวต่างชาติมาพักอาศัยด้วย ตนจึงย้ายไปอยู่กับเพื่อน กระทั่งวันที่ 23 มกราคม นายอาร์ตูร์ได้มารับตนไปเช่าห้องพักย่านรัชดา และบอกกับตนว่าวันที่ 24 มกราคม ไม่ต้องโทรศัพท์มาหา เพราะมีงานสำคัญกับเพื่อน ต้องใช้สมาธิ ตนจึงไม่ได้พบเจอกับนายอาร์ตูร์อีก แต่ต่อมาในวันที่ 30 มกราคม นายอาร์ตูร์ ได้ชวนให้ย้ายจากคอนโดฯ ไปเช่าบ้านพักแถวรามคำแหง ซึ่งในบ้านพัก ตนได้พบว่ามีตู้แช่แข็งขนาดใหญ่และมีดทำครัวหลายเล่ม แต่นายอาร์ตูร์สั่งห้าม ตนจึงไม่ได้เปิดดู กระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ตนกับนายอาร์ตูร์ได้ชวนกันกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ ด้วยการขับขี่รถจักรยานยนต์ แต่กลับไปได้เพียงวันเดียว (วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ) นายอาร์ตูร์ก็ได้ชวนให้เช่ารถกระบะเพื่อมากดเงินที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อเดินทางมาถึง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าไปทำธุรกรรม และกลับไป จ.สุรินทร์ และในวันรุ่งขึ้น นายอาร์ตูร์ ก็ได้ชวนไปกดเงินที่เหลืออีกครั้ง แต่เมื่อมาถึงตู้เอทีเอ็ม ย่าน อ.วังน้อย พบว่าไม่สามารถกดเงินได้ จึงได้ชวนกันไปพักผ่อน ที่ จ.ชลบุรี ก่อนจะเดินทางกลับ จ.สุริทร์ (เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ) เนื่องจากนายอาร์ตูร์บอกว่าไม่สามารถกดเงินได้ จึงไม่มีเงินใช้ เมื่อมาถึง จ.สุริทนร์ ได้มีกลุ่มเพื่อนนำข่าวที่ลิงก์จากสื่อต่างๆ มาให้ดู จึงพบว่านายอาร์ตูร์มีข่าวไปเกี่ยวพันกับการฆ่าหั่นศพ ตนจึงได้ออกมาดูที่หน้าบ้านพัก กลับพบว่านายอาร์ตูร์ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปแล้ว กระทั่งตำรวจพบรถจักรยานยนต์ถูกทิ้งไว้ที่ป่าแห่งหนึ่ง ใน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และตนเองถูกควบคุมตัวมาสอบสวนดังกล่าว.
ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพนายเดวิด แบร์นาต อายุ 39 ปี นักธุรกิจชาวสเปน โยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดวานนี้ (7 ก.พ.) พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีฆ่าหั่นศพ นายเดวิด แบร์นาต ชาวสเปน ยืนยันว่าขณะนี้มีหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถขอศาลออกหมายจับ นายอาร์ตูร์ เซการ์รา ปรินเซฟ ชาวสเปน ได้แต่เนื่องจากผู้ต้องสงสัยมีหมายจับค้างเก่าและคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ต่างประเทศจับตา พยานหลักฐานจึงต้องมีความแน่นหนาก่อนขอศาลออกหมายจับในข้อหาหนัก อาทิ ข้อหาลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ทรมาน ฆ่าคนตาย ปิดบังซ่อนเร้นอำพราง ทำลายศพ และรีดเอาทรัพย์สิน ซึ่งคดีนี้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว 2 คน คือ นางสาวปริศนา แสนอุบล และเพื่อนชายชาวไทย ที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะอีซุซู สีดำให้ นายอาร์ตูร์ ไปกดเงิน ส่วนชายชาวอิตาลี และชายชาวสเปนอีกหนึ่งคน ตำรวจพบตัวและสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้อง และขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรบริเวณจุดที่ นายอาร์ตูร์ ไปกดเงินย่านคลองเตยตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อติดตามเส้นทางที่ใช้หลบหนี และในวันนี้คาดว่าจะทราบผลการตรวจดีเอ็นเอในหลายจุด รวมทั้งจะมีความชัดเจนในส่วนสถานที่ที่ใช้กักขัง ทรมาน และฆ่า นายเดวิด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตกรุงเทพฯ
ส่วนกรณีที่มีการพบรถจักรยานยนต์ถูกจอดทิ้งไว้ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ทางการกัมพูชายืนยันว่ายังไม่ได้พบตัว นายอาร์ตูร์ ในฝั่งกัมพูชา จึงเป็นไปได้ว่ายังหลบหนีในฝั่งประเทศไทย
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวเพื่อนชายของ น.ส.ปริศนา แสนอุบล อายุ 22 ปี ผู้ต้องสังสัยที่อาจร่วมการฆ่าหั่นศพ หลังจากทราบว่าเพื่อนชายคนดังกล่าวได้นำ นายอาร์ตูร์ เซการ์รา ปรินเซป อายุ 37 ปี ชาวสเปน ซึ่งเป็นผู้ต้องสังสัยในคดีนี้เดินทางโดยรถกระบะไปกดเงินที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานที่สามารถขอศาลออกหมายจับ นายอาร์ตูร์ เซการ์รา ปรินเซฟ ชาวสเปน ได้แล้ว แต่เนื่องจากผู้ต้องสงสัยคดีดังกล่าวเป็นคดีที่จับตาของต่างประเทศ พยานหลักฐานจึงต้องมีความแน่นหนาก่อนขอศาลออกหมายจับ
***สาวสุรินทร์ปัดเอี่ยวฆ่าหั่นศพ
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการสอบปากคำ น.ส.ปริศนา แสนอุบล อายุ 22 ปี ที่ จ.สุรินทร์ น.ส.ปริศนา ให้การว่ารู้จักกับนายอาร์ตูร์มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ที่สถาบันบันเทิงย่านสุขุมวิท กระทั่งเมื่อธันวาคมที่ผ่านมา นายอาร์ตูร์ได้ชักชวนมาอาศัยอยู่ด้วยกันที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านรัชดา และนายอาร์ตูร์ได้บอกว่าประมาณวันที่ 17 - 24 มกราคม จะมีเพื่อนชาวต่างชาติมาพักอาศัยด้วย ตนจึงย้ายไปอยู่กับเพื่อน กระทั่งวันที่ 23 มกราคม นายอาร์ตูร์ได้มารับตนไปเช่าห้องพักย่านรัชดา และบอกกับตนว่าวันที่ 24 มกราคม ไม่ต้องโทรศัพท์มาหา เพราะมีงานสำคัญกับเพื่อน ต้องใช้สมาธิ ตนจึงไม่ได้พบเจอกับนายอาร์ตูร์อีก แต่ต่อมาในวันที่ 30 มกราคม นายอาร์ตูร์ ได้ชวนให้ย้ายจากคอนโดฯ ไปเช่าบ้านพักแถวรามคำแหง ซึ่งในบ้านพัก ตนได้พบว่ามีตู้แช่แข็งขนาดใหญ่และมีดทำครัวหลายเล่ม แต่นายอาร์ตูร์สั่งห้าม ตนจึงไม่ได้เปิดดู กระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ตนกับนายอาร์ตูร์ได้ชวนกันกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ ด้วยการขับขี่รถจักรยานยนต์ แต่กลับไปได้เพียงวันเดียว (วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ) นายอาร์ตูร์ก็ได้ชวนให้เช่ารถกระบะเพื่อมากดเงินที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อเดินทางมาถึง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าไปทำธุรกรรม และกลับไป จ.สุรินทร์ และในวันรุ่งขึ้น นายอาร์ตูร์ ก็ได้ชวนไปกดเงินที่เหลืออีกครั้ง แต่เมื่อมาถึงตู้เอทีเอ็ม ย่าน อ.วังน้อย พบว่าไม่สามารถกดเงินได้ จึงได้ชวนกันไปพักผ่อน ที่ จ.ชลบุรี ก่อนจะเดินทางกลับ จ.สุริทร์ (เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ) เนื่องจากนายอาร์ตูร์บอกว่าไม่สามารถกดเงินได้ จึงไม่มีเงินใช้ เมื่อมาถึง จ.สุริทนร์ ได้มีกลุ่มเพื่อนนำข่าวที่ลิงก์จากสื่อต่างๆ มาให้ดู จึงพบว่านายอาร์ตูร์มีข่าวไปเกี่ยวพันกับการฆ่าหั่นศพ ตนจึงได้ออกมาดูที่หน้าบ้านพัก กลับพบว่านายอาร์ตูร์ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปแล้ว กระทั่งตำรวจพบรถจักรยานยนต์ถูกทิ้งไว้ที่ป่าแห่งหนึ่ง ใน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และตนเองถูกควบคุมตัวมาสอบสวนดังกล่าว.