มากับลมหนาว เพลิงไหม้บ่อขยะ 72 ไร่ ในพื้นที่อำเภอนครหลวง พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าดับ ขณะที่ไฟลามไหม้บ้านประชาชนวอด 1 หลัง รถเสียหาย 1 คัน ควันจากเพลิงส่งผลกระทบหลายตำบล
เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (7 ก.พ.) ได้เกิดเหตุไฟไหม้บ่อขยะของ 4 หน่วยงานประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่ลา เทศบาลตำบลนครหลวงของ อำเภอนครหลวง บ่อขยะของเทศบาลตำบลบางปะหัน อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเทศบาลเมืองอโยธยา ซึ่งตั้งอยู่รวมกันในพื้นที่ตำบลบางระกำ อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่รวมกัน 72 ไร่
พบมีกลุ่มไฟเกิดขึ้นที่บ่อขยะในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลแม่ลา ก่อนตั้งแต่ช่วงเช้าโดยไฟลุกลามอย่างรวดเร็วไม่ทราบสาเหตุมาจากไหน ถูกกระแสลมหนาวที่พัดกระโชกแรงมากติดกองขยะที่อยู่ท้ายลม ส่วนใหญ่เป็นถุงพลาสติกอย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงลุกไหม้เป็นกลุ่มควันไฟลุกโหมไหม้สีดำมองเห็นแต่ไกล กระแสลมหนาวพัดกลุ่มควันไฟล่องปกคลุมถนนสายนครหลวง-บางปะหัน เป็นอุปสรรคทำให้ทัศนวิสัยการขับรถผ่านกลุ่มควันที่ปกคลุม ควันไฟยังพัดไปไกลอย่างน้อย 3-4 กิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชนในละแวกดังกล่าวได้รับผลกระทบจากควันไฟขยะที่พัดปกคลุม
นายไพรัตน์ เพชรยวน นายอำเภอนครหลวง และนายบุญส่ง กลิ่นสวาทหอม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนครหลวง เข้าอำนวยการดับเพลิง ระดมรถดับเพลิงทั้ง 4 หน่วยงาน จำนวน 6 คัน และว่าจ้างรถแบ็กโฮเข้าทำการดับเพลิง พร้อมด้วยกำลังทหารในพื้นที่ ขณะนี้เวลาผ่านไป 5 ชั่วโมงเศษยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เนื่องจากกระแสลมที่พัดกระโชกแรงตลอดเวลา ทำให้เปลวที่ลุกไหม้อยู่ด้านเหนือลมพัดไปติดกองขยะท้ายลมที่อยู่ห่างไปกว่า 100 เมตร รถดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับได้
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้ความพยายามไล่ดับจากต้นลมไปหาท้ายลมเท่านั้น และการดับต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้ไฟต้นลมที่คุกรุ่นร้อนอยู่ตลอดเวลาลุกไหม้ติดไฟเป็นกลุ่มควันไฟพัดใส่เจ้าหน้าที่ที่กำลังดับไฟจะเป็นอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
เบื้องต้น นายไพรัตน์ เพชรยวน ได้สั่งการให้ นายบุญส่ง กลิ่นสวาทหอม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนครหลวง ประสานงานกับ อบต.บางเดื่อน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเทศบาลตำบลนครหลวง เข้าดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จัดเตรียมหาผ้าปิดจมูกป้องกันควันไฟไว้ด้วย หากครอบครัวใดมีเด็กเล็กควรย้ายหลบหนีกลุ่มควันไฟจะเป็นการดีที่สุด
โดยเปลวไฟที่ลุกลามนั้นได้ไหม้บ้านประชาชนไป 1 หลัง ของนายวิชอบ รับขวัญ อายุ 68 ปี บ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งติดอยู่กับบ่อขยะ เสียหายทั้งหลัง รวมถึงรถยนต์อีก 1 คัน ซึ่งตอนนี้กำลังประสานรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามา แต่เนื่องด้วยลมที่แรงทำให้การดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก ล่าสุดควบคุมเพลิงได้เมื่อช่วงเย็น
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดไฟไหม้น่าจะเกิดจากมีคนเข้าไปจุดไฟเพื่อลอกสายไฟเอาไปขายทำให้เกิดเพลิงไหม้.
เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (7 ก.พ.) ได้เกิดเหตุไฟไหม้บ่อขยะของ 4 หน่วยงานประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่ลา เทศบาลตำบลนครหลวงของ อำเภอนครหลวง บ่อขยะของเทศบาลตำบลบางปะหัน อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเทศบาลเมืองอโยธยา ซึ่งตั้งอยู่รวมกันในพื้นที่ตำบลบางระกำ อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่รวมกัน 72 ไร่
พบมีกลุ่มไฟเกิดขึ้นที่บ่อขยะในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลแม่ลา ก่อนตั้งแต่ช่วงเช้าโดยไฟลุกลามอย่างรวดเร็วไม่ทราบสาเหตุมาจากไหน ถูกกระแสลมหนาวที่พัดกระโชกแรงมากติดกองขยะที่อยู่ท้ายลม ส่วนใหญ่เป็นถุงพลาสติกอย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงลุกไหม้เป็นกลุ่มควันไฟลุกโหมไหม้สีดำมองเห็นแต่ไกล กระแสลมหนาวพัดกลุ่มควันไฟล่องปกคลุมถนนสายนครหลวง-บางปะหัน เป็นอุปสรรคทำให้ทัศนวิสัยการขับรถผ่านกลุ่มควันที่ปกคลุม ควันไฟยังพัดไปไกลอย่างน้อย 3-4 กิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชนในละแวกดังกล่าวได้รับผลกระทบจากควันไฟขยะที่พัดปกคลุม
นายไพรัตน์ เพชรยวน นายอำเภอนครหลวง และนายบุญส่ง กลิ่นสวาทหอม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนครหลวง เข้าอำนวยการดับเพลิง ระดมรถดับเพลิงทั้ง 4 หน่วยงาน จำนวน 6 คัน และว่าจ้างรถแบ็กโฮเข้าทำการดับเพลิง พร้อมด้วยกำลังทหารในพื้นที่ ขณะนี้เวลาผ่านไป 5 ชั่วโมงเศษยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เนื่องจากกระแสลมที่พัดกระโชกแรงตลอดเวลา ทำให้เปลวที่ลุกไหม้อยู่ด้านเหนือลมพัดไปติดกองขยะท้ายลมที่อยู่ห่างไปกว่า 100 เมตร รถดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับได้
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้ความพยายามไล่ดับจากต้นลมไปหาท้ายลมเท่านั้น และการดับต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้ไฟต้นลมที่คุกรุ่นร้อนอยู่ตลอดเวลาลุกไหม้ติดไฟเป็นกลุ่มควันไฟพัดใส่เจ้าหน้าที่ที่กำลังดับไฟจะเป็นอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
เบื้องต้น นายไพรัตน์ เพชรยวน ได้สั่งการให้ นายบุญส่ง กลิ่นสวาทหอม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนครหลวง ประสานงานกับ อบต.บางเดื่อน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเทศบาลตำบลนครหลวง เข้าดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จัดเตรียมหาผ้าปิดจมูกป้องกันควันไฟไว้ด้วย หากครอบครัวใดมีเด็กเล็กควรย้ายหลบหนีกลุ่มควันไฟจะเป็นการดีที่สุด
โดยเปลวไฟที่ลุกลามนั้นได้ไหม้บ้านประชาชนไป 1 หลัง ของนายวิชอบ รับขวัญ อายุ 68 ปี บ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งติดอยู่กับบ่อขยะ เสียหายทั้งหลัง รวมถึงรถยนต์อีก 1 คัน ซึ่งตอนนี้กำลังประสานรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามา แต่เนื่องด้วยลมที่แรงทำให้การดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก ล่าสุดควบคุมเพลิงได้เมื่อช่วงเย็น
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดไฟไหม้น่าจะเกิดจากมีคนเข้าไปจุดไฟเพื่อลอกสายไฟเอาไปขายทำให้เกิดเพลิงไหม้.
