รรท.ผบช.น.สั่ง บก.น.2 สรุปข้อเท็จจริงสาเหตุ พนง.สืบสวน สน.ทุ่งสองห้องยิงตัวตาย รายงานภายใน 2 วัน ส่วนกรณีมีรายชื่อคัดค้าน ผกก.สน.ทุ่งสองห้องนั้น เชื่อว่ามีทั้งลูกน้องที่รักและไม่รัก หากย้าย ผกก.โดยยังไม่ทราบเหตุผลอาจบั่นทอนขวัญกำลังใจลูกน้อง ด้านผบก.น.2 ยังไม่ทราบล่าชื่อตำรวจขับไล่ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง
จากกรณี ร.ต.อ.ทวี หมื่นรักษ์ อายุ 32 ปี ตำแหน่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ยิงตัวตายต่อหน้าลูกเมีย คาดเครียดจากงานที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ทาง ผบช.น.สั่ง บก.น.2 เร่งสรุปข้อเท็จจริงให้ทราบภายใน 1-2 วันนี้
วานนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.กล่าวว่า อย่าใช้กระแสความรู้สึกมาตัดสินว่าใครถูกใครผิด ต้องให้ความเป็นธรรม มีหลักเกณฑ์ ถ้าสอบสวนมาแล้วชัดเจน ใครผิดลงโทษทันที ตนได้สั่ง บก.น.2 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว น่าจะทราบผลภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนกรณีที่มีกระแสความขัดแย้งจากผู้บังคับบัญชานั้น ผู้บังคับบัญชาบางคนจี้ลูกน้องให้ทำงานเพื่อประชาชน ทำให้มีลูกน้องทั้งรักและไม่รัก คนที่ไม่รักก็มาลงชื่อต่อต้านบ้าง ซึ่งทางตำรวจดูแลกันเองได้ ส่วนการสั่งย้ายลูกน้องทั้งที่ยังไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ขวัญและกำลังใจลูกน้องหายหมด
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวเพิ่มว่า ส่วนในเรื่องสำนวนและคดี อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องสอบสวนให้ครบทุกด้าน เรื่องส่วนตัวและปัญหาอื่นๆ ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย อยากเห็นตำรวจมีแต่ความรักและสามัคคีกัน ทำงานด้วยความมั่นใจ มีขวัญกำลังใจ ซึ่ง ร.ต.อ.ทวีเป็นคนดี มีความตั้งใจ เราก็ต้องช่วยดูแลครอบครัวต่อไป ซึ่งน่าจะเครียดเรื่องงานด้วย และมีปัญหาอื่นๆ ผสมกันอีกหลายเรื่อง ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ตายและผู้เกี่ยวข้องด้วยทุกคน
วานนี้ (1ก.พ.) เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดกระแสข่าวการล่ารายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะขอให้มีการพิจรณาโยกย้ายพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้องนอกพื้นที่นั้น ว่า ขณะนี้ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) และ บก.น.2 ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ยืนยันว่า ยังไม่มีคำสั่งย้ายพ.ต.อ.เติมเผ่า ในตอนนี้ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้พ.ต.อ.กิตภัท เพ็งรุ่ง รองผบก.น.2 มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน ว่า มีการกดดันผู้ใต้บังคับบัญชาจนต้องฆ่าตัวตายจริงหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานการกดดันผู้ใต้บังคับบัญชา
ส่วนกรณีการตรวจสอบคดีรถจำนำโดยผิดกฎหมาย จำนวน 204 คัน ที่ยึดได้จากห้างดังย่านหลักสี่ พ.ต.ต.เจริญ ระบุว่า ปัญหาที่ยังคืนรถไม่ได้ เนื่องจากมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์กัน โดยบริษัทไฟแนนซ์แจ้งมาว่า รถบางคันถูกยักยอกมา ทำให้พนักงานสอบสวนต้องระงับการคืนรถไว้ก่อน
ส่วนกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ หรือ กต.ตร. ออกมาเปิดเผยว่า มีนายตำรวจจะฆ่าตัวตายเพิ่ม หากพ.ต.อ.เติมเผ่า ยังไม่ถูกย้ายนั้น ก็ยังไม่ได้รับรายงานเช่นกัน มีเพียงส่วนที่นายสิระระบุว่า จะนำเอกสารเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้กำกับที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มามอบให้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามในวันนี้พล.ต.ต.เจริญ ได้เดินทางมาเป็นประธานประชุมมอบนโยบายของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หลังเกิดปัญหาการต่อต้านขอให้ย้ายผกก.สน.ทุ่งสองห้องออกนอกพื้นที่ โดยจากเดิมการประชุมในวันนี้จะมี พันตำรวจเอกเติมเผ่า เป็นประธานการประชุม แต่มีกระแสข่าวว่า ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องไม่ต้องการประชุมกับพ.ต.อ.เติมเผ่าโดยตรง ทำให้ระดับผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ต้องลงมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องด้วยตนเอง
จากกรณี ร.ต.อ.ทวี หมื่นรักษ์ อายุ 32 ปี ตำแหน่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ยิงตัวตายต่อหน้าลูกเมีย คาดเครียดจากงานที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ทาง ผบช.น.สั่ง บก.น.2 เร่งสรุปข้อเท็จจริงให้ทราบภายใน 1-2 วันนี้
วานนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.กล่าวว่า อย่าใช้กระแสความรู้สึกมาตัดสินว่าใครถูกใครผิด ต้องให้ความเป็นธรรม มีหลักเกณฑ์ ถ้าสอบสวนมาแล้วชัดเจน ใครผิดลงโทษทันที ตนได้สั่ง บก.น.2 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว น่าจะทราบผลภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนกรณีที่มีกระแสความขัดแย้งจากผู้บังคับบัญชานั้น ผู้บังคับบัญชาบางคนจี้ลูกน้องให้ทำงานเพื่อประชาชน ทำให้มีลูกน้องทั้งรักและไม่รัก คนที่ไม่รักก็มาลงชื่อต่อต้านบ้าง ซึ่งทางตำรวจดูแลกันเองได้ ส่วนการสั่งย้ายลูกน้องทั้งที่ยังไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ขวัญและกำลังใจลูกน้องหายหมด
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวเพิ่มว่า ส่วนในเรื่องสำนวนและคดี อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องสอบสวนให้ครบทุกด้าน เรื่องส่วนตัวและปัญหาอื่นๆ ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย อยากเห็นตำรวจมีแต่ความรักและสามัคคีกัน ทำงานด้วยความมั่นใจ มีขวัญกำลังใจ ซึ่ง ร.ต.อ.ทวีเป็นคนดี มีความตั้งใจ เราก็ต้องช่วยดูแลครอบครัวต่อไป ซึ่งน่าจะเครียดเรื่องงานด้วย และมีปัญหาอื่นๆ ผสมกันอีกหลายเรื่อง ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ตายและผู้เกี่ยวข้องด้วยทุกคน
วานนี้ (1ก.พ.) เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดกระแสข่าวการล่ารายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะขอให้มีการพิจรณาโยกย้ายพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้องนอกพื้นที่นั้น ว่า ขณะนี้ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) และ บก.น.2 ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ยืนยันว่า ยังไม่มีคำสั่งย้ายพ.ต.อ.เติมเผ่า ในตอนนี้ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้พ.ต.อ.กิตภัท เพ็งรุ่ง รองผบก.น.2 มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน ว่า มีการกดดันผู้ใต้บังคับบัญชาจนต้องฆ่าตัวตายจริงหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานการกดดันผู้ใต้บังคับบัญชา
ส่วนกรณีการตรวจสอบคดีรถจำนำโดยผิดกฎหมาย จำนวน 204 คัน ที่ยึดได้จากห้างดังย่านหลักสี่ พ.ต.ต.เจริญ ระบุว่า ปัญหาที่ยังคืนรถไม่ได้ เนื่องจากมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์กัน โดยบริษัทไฟแนนซ์แจ้งมาว่า รถบางคันถูกยักยอกมา ทำให้พนักงานสอบสวนต้องระงับการคืนรถไว้ก่อน
ส่วนกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ หรือ กต.ตร. ออกมาเปิดเผยว่า มีนายตำรวจจะฆ่าตัวตายเพิ่ม หากพ.ต.อ.เติมเผ่า ยังไม่ถูกย้ายนั้น ก็ยังไม่ได้รับรายงานเช่นกัน มีเพียงส่วนที่นายสิระระบุว่า จะนำเอกสารเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้กำกับที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มามอบให้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามในวันนี้พล.ต.ต.เจริญ ได้เดินทางมาเป็นประธานประชุมมอบนโยบายของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หลังเกิดปัญหาการต่อต้านขอให้ย้ายผกก.สน.ทุ่งสองห้องออกนอกพื้นที่ โดยจากเดิมการประชุมในวันนี้จะมี พันตำรวจเอกเติมเผ่า เป็นประธานการประชุม แต่มีกระแสข่าวว่า ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องไม่ต้องการประชุมกับพ.ต.อ.เติมเผ่าโดยตรง ทำให้ระดับผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ต้องลงมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องด้วยตนเอง