xs
xsm
sm
md
lg

คุกตลอดชีวิต“สมชาย”มือฆ่าหั่นศพครูสอนญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360 - ศาลพิพากษาประหารชีวิต “สมชาย แก้วบางยาง” อดีตสามีพรชนก ฆ่าหั่นศพครูสอนภาษาญี่ปุ่น ส่วน “พรชนก” เจอคุก 48 ปี ร่วมซ่อนเร้นศพ - ลักบัตร เอทีเอ็มเบิกเงินกว่า 7.2 แสน แต่รับสารภาพลดโทษเหลือจำคุกสมชายตลอดชีวิต และจำคุกพรชนก 20 ปี

วานนี้ (14 ม.ค.) ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดพิพากษาคดีฆ่าหั่นศพครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น หมายเลขดำ อ.4330/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 49 ปี อาชีพรับจ้าง และนางพรชนก ไชยะปะ อายุ 49 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ทั้งคู่เป็นสามีภรรยา ชาวสมุทรปราการ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 - 2 ในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา หน่วงเหนี่ยวกักขัง ซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย ลักทรัพย์ในเวลาเคหสถานในเวลากลางคืน มีไว้เพื่อนำออก และใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น

โดยเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย. - 13 ต.ค. 57 จำเลย ร่วมกันวางแผนใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวแทงและฟัน นายโยชิโนริ ชิมาโตะ (YOSHINORI SHIMATO) ครูสอนภาษาญี่ปุ่น อายุ 79 ปี ซึ่งมีอาการป่วยนอนอยู่บนเตียงภายในบ้าน จ.สมุทรปราการ แล้วจับศีรษะ กดกับหมอนจนขาดใจตาย ก่อนหั่นชำแหละชิ้นส่วนอวัยวะเป็นชิ้น ๆ ใส่ถุงถ่วงด้วยทรายนำไปทิ้งที่คลองนางทิ้ง หมู่ 7 ที่ตำบลและอำเภอบางบ่อ จ.สมุทรปราการ แล้ว จำเลยร่วมกันเอาทรัพย์สินรวม 41,500 บาทของผู้ตายไป และยังใช้บัตรธนาคารต่าง ๆ กดเอาเงินสดของผู้ตายไปอีกรวม 520,000 บาท โดยอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลย เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 57

โดย นายสมชาย จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพว่าฆ่าผู้ตายจนถึงแก่ความตายจริง แต่ไม่ได้ฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และรับสารภาพข้อหาซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย ข้อหาลักทรัพย์ เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าสะพาย สมุดเงินฝากธนาคาร กระเป๋าเงินแบบหนัง เงินสด 3,000 บาท และทรัพย์สินอื่น รวม 45,390 บาท ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ และนางพรชนก จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพข้อหาใช้บัตรเอทีเอ็ม ชนิดบัตรเดบิต ธ.กรุงเทพ สำนักงานใหญ่ สีลม ของผู้ตายไปใช้เพื่อประโยชน์ของการชำระสินค้า หรือเบิกเงินสด โดยจำเลยที่ 2 เลือกใช้บัตรเบิกถอนเงินสดผู้ตาย 15 ครั้ง รวมเป็นเงิน 7.2 แสนบาท ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ

จากการพิเคราะห์หลักฐาน ศาลได้มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตนายสมชาย จำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, จำคุก 1 ปีฐานร่วมกันซ่อนเร้าทำลายศพฯ และจำคุก 2 กระทงละ 2 ปีรวม 4 ปี ฐานลักทรัพย์และเอาไปซึ่งเอกสาร ตามมาตรา 334 รวมจำคุกจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 ให้จำคุก 1 ปี ฐานซ่อนเร้นทำลายศพปี, จำคุก 2 ปี ฐานลักบัตรอิเล็กทรอนิกส์ฯ และ จำคุก 15 กระทง ๆ ละ 3 ปี รวม 45 ปี ฐานลักบัตรอิเล็กทรอนิกส์ฯ

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพมีเหตุควรลดโทษให้เฉพาะข้อหาที่รับสารภาพ กระทงละกึ่งนึ่ง จึงให้จำคุกตลอดชีวิต นายสมชาย จำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นฯ, จำคุก 6 เดือน ฐานร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพฯ และจำคุก 2 ปี ฐานลักทรัพย์และเอาไปซึ่งเอกสาร แต่เมื่อลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้วไม่อาจรวมโทษจำคุกกระทงอื่นได้อีก จึงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ตลอดชีวิต ส่วน นางพรชนก จำเลยที่ 2 ให้จำคุก 1 ปี ฐานลักบัตรอิเล็กทรอนิกส์ และฐานมีและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งของผู้อื่นโดยมิชอบ ให้จำคุก 22 ปี 6 เดือน ส่วนข้อหาซ่อนเร้นทำลายศพคงจำคุก 1 ปี รวมจำคุกทั้งสิ้น 24 ปี 6 เดือน แต่เมื่อรวมโทษจำเลยที่ 2 ทุกกระทงความผิดแล้วตามกฎหมายให้จำคุกสูงสุด เป็นเวลา 20 ปี ให้นายสมชาย จำเลยที่ 1 คืนเงินที่ลักไปทรัพย์รวม 45,390 บาท และนางพรชนก จำเลยที่ 2 คืนเงิน 7.2 แสนบาท ให้นายเท็ตซูโอะ บุตรชายของผู้ตาย ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง

ภายหลัง นายนิติรัฐ วังออมทรัพย์ ทนายความของ นายสมชาย จำเลยที่ 1 กล่าวว่า ศาลไม่ได้ลงโทษในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน ซึ่งเป็นข้อหาหนัก และศาลยังได้ลดโทษให้กึ่งหนึ่งจากโทษประหารชีวิตก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล จึงค่อนข้างพอใจกับผลคำพิพากษาในวันนี้ ส่วนจะอุทธรณ์คดีหรือไม่นั้น จะต้องศึกษาสำนวนและปรึกษาจำเลยที่ 1 อีกครั้งว่าพอใจผลคำพิพากษาในข้อหาใดบ้าง

ด้าน นายอนุสร รุ่งเรือง ทนายความของนางพรชนก จำเลยที่ 2 กล่าวว่า จำเลยได้รับสารภาพในข้อหาใช้บัตรเอทีเอ็มของผู้ตายตั้งแต่แรก ผลคำพิพากษาของศาลที่ออกมาในครั้งนี้จึงพอใจแล้ว และจำเลยที่ 2 จะไม่อุทธรณ์คดี หลังจากนี้จะทำเรื่องขออภัยโทษ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทางพนักงานอัยการจะอุทธรณ์คดีในส่วนของจำเลยที่ 2
กำลังโหลดความคิดเห็น