ผู้จัดการรายวัน 360 - กองปราบเตรียมตรวจสอบคำให้การของพยานคดี "เสี่ยชูวงษ์" เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำใหม่ พร้อมเจาะลึกรายละเอียดทุกส่วน ตั้งแต่สาเหตุการใช้รถเลกซัส และเจ้าหน้าที่อาสาร่วมกตัญญูที่เข้าถึงผู้บาดเจ็บคนแรก
วานนี้ (7 ม.ค.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รักษาการ ผบก.ป. เปิดเผยถึง ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตปริศนาของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ว่า ได้เรียกคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กก.1บก.ป. ประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยคดีที่เกี่ยวข้องกับนายชูวงษ์ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือคดีในส่วนของหุ้นที่พบว่ามีการโอนโดยพิรุธ และคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ซึ่งในส่วนของหุ้นนั้น ได้กำชับให้คณะทำงานแกะคำให้การของพยานให้ละเอียด ทั้งในส่วนของโบรกเกอร์ผู้ดูแลหุ้นของนายชูวงษ์ รวมถึงคำให้การของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยละเอียด เพื่อหาข้อมูลว่ามีมูลเหตุเชื่อมโยงไปถึงการเสียชีวิตของนายชูวงษ์หรือไม่
ทั้งนี้ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี เสี่ยรับเหมาหมื่นล้าน ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ขณะนั่งโดยสารรถยนต์เล็กซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กท. ของพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต สส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ ซึ่งอาสาขับรถคนดังกล่าวไปส่งนายชูวงษ์ที่บ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา
ส่วนคดีการเสียชีวิตนั้น จะต้องแกะคำให้การของผู้ถูกกล่าวหา หรือ พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งเป็นเจ้าของรถคันที่เกิดเหตุในกรณีการนำรถคันดังกล่าวมาใช้ก่อนเกิดอุบัติเหตุว่าเพราะเหตุใดต้องเป็นรถคันดังกล่าว รวมถึงนำคำให้การของพยานในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบใหม่ตั้งแต่ต้น เริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่อาสาร่วมกตัญญูที่ไปถึงที่เกิดเหตุเป็นคนแรกว่าขณะนั้นชีพจรของนายชูวงษ์ยังมีอยู่ หรือเพียงแค่ชีพจรอ่อนลง ซึ่งต้องเจาะลึกในรายละเอียดแต่ละส่วน อย่างไรก็ตามยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
"ยอมรับว่าคดีดังกล่าวค่อนข้างยากเนื่องจากศพก็ถูกเผาไปแล้ว และพยานหลักฐานก็เสียหายไปมาก ส่วนผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนั้นขณะนี้ได้มาแล้ว ซึ่งได้นำผลดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยวิเคราะห์ พบว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากจะกระทบการทำงานของเจ้าหน้าที่"
วานนี้ (7 ม.ค.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รักษาการ ผบก.ป. เปิดเผยถึง ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตปริศนาของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ว่า ได้เรียกคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กก.1บก.ป. ประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยคดีที่เกี่ยวข้องกับนายชูวงษ์ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือคดีในส่วนของหุ้นที่พบว่ามีการโอนโดยพิรุธ และคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ซึ่งในส่วนของหุ้นนั้น ได้กำชับให้คณะทำงานแกะคำให้การของพยานให้ละเอียด ทั้งในส่วนของโบรกเกอร์ผู้ดูแลหุ้นของนายชูวงษ์ รวมถึงคำให้การของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยละเอียด เพื่อหาข้อมูลว่ามีมูลเหตุเชื่อมโยงไปถึงการเสียชีวิตของนายชูวงษ์หรือไม่
ทั้งนี้ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี เสี่ยรับเหมาหมื่นล้าน ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ขณะนั่งโดยสารรถยนต์เล็กซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กท. ของพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต สส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ ซึ่งอาสาขับรถคนดังกล่าวไปส่งนายชูวงษ์ที่บ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา
ส่วนคดีการเสียชีวิตนั้น จะต้องแกะคำให้การของผู้ถูกกล่าวหา หรือ พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งเป็นเจ้าของรถคันที่เกิดเหตุในกรณีการนำรถคันดังกล่าวมาใช้ก่อนเกิดอุบัติเหตุว่าเพราะเหตุใดต้องเป็นรถคันดังกล่าว รวมถึงนำคำให้การของพยานในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบใหม่ตั้งแต่ต้น เริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่อาสาร่วมกตัญญูที่ไปถึงที่เกิดเหตุเป็นคนแรกว่าขณะนั้นชีพจรของนายชูวงษ์ยังมีอยู่ หรือเพียงแค่ชีพจรอ่อนลง ซึ่งต้องเจาะลึกในรายละเอียดแต่ละส่วน อย่างไรก็ตามยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
"ยอมรับว่าคดีดังกล่าวค่อนข้างยากเนื่องจากศพก็ถูกเผาไปแล้ว และพยานหลักฐานก็เสียหายไปมาก ส่วนผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนั้นขณะนี้ได้มาแล้ว ซึ่งได้นำผลดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยวิเคราะห์ พบว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากจะกระทบการทำงานของเจ้าหน้าที่"