วานนี้ (5ม.ค.) นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผู้ทรงคุณวุฒิ กกต. แถลงว่า ที่ประชุมกกต.เห็นตามข้อเสนอของสำนักกฎหมายและคดี สำนักงานกกต. กรณีการดำเนินการทางกฎหมายต่อนายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการ กกต. ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 โดยแบ่งเป็น 4 ประเด็น จากการให้สัมภาษณ์ของนายภุชงค์ ที่มีการกล่าวหาว่า กกต. ทำงานเพียงแค่ 1 วัน นอกจากนั้นเอาเวลาไปเรียนหนังสือ ซึ่งกกต.เห็นว่าอาจทำให้ประชาชนเข้าใจว่ากกต.ไม่ทำงาน เบียดบังเวลาราชการ ซึ่งเป็นความเสียหายต่อสำนักงานกกต.
การให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการไปต่างประเทศของ กกต. ที่กล่าวให้ร้ายว่าแม้ไม่มีต่างประเทศเชิญ ก็มีการส่งสัญญาณไปยังต่างประเทศ เพื่อให้มีการเชิญไปดูงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นการทำให้เกิดความเสียหาย เพราะที่ผ่านมาการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ จะมีการเชิญทุกครั้ง ทั้งเป็นหนังสือเชิญ และการเชิญด้วยตัวเอง รวมทั้งการให้สัมภาษณ์ว่าหากตนผิด กกต.ก็ผิดด้วย เพราะเรื่องผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า กกต.มีผลประโยชน์แอบแฝง เป็นการทำให้สำนักงาน กกต. เสียชื่อเสียง และถูกดูหมิ่น สำนักงาน กกต.จึงต้องดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อให้ศาลพิสูจน์ความจริงว่า ใครถูก ใครผิด และให้เรื่องยุติตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดยในวันเดียวกันนี้ ประธาน กกต.ได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและคดี ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่ สน.ทุ่งสองห้องแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป
นายธนิศร์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมกกต.ยังไม่ได้พิจารณาหนังสืออุทธรณ์มติเลิกจ้างของนายภุชงค์ เพราะสำนักกฎหมาย และคดีของสำนักงานกกต. ยังไม่เสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม เพราะยังมีเวลา โดย กกต. มีอำนาจในการพิจารณาอุทธรณ์ภายใน 90 วัน จึงต้องรอให้สำนักกฎหมายและคดีฯ สรุปการดำเนินการว่า กระบวนการจะต้องมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องดังกล่าว กกต. คงให้ความเป็นธรรมกับนายภุชงค์ ส่วนการสรรหาเลขาธิการ กกต.คนใหม่นั้น จะมีการเปิดรับสมัครในวันที่ 1- 29 ก.พ. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างระเบียบ เพื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กกต. แต่คาดว่าจะมีรายละเอียดคล้ายคลึงกับระเบียบฉบับเดิม
การให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการไปต่างประเทศของ กกต. ที่กล่าวให้ร้ายว่าแม้ไม่มีต่างประเทศเชิญ ก็มีการส่งสัญญาณไปยังต่างประเทศ เพื่อให้มีการเชิญไปดูงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นการทำให้เกิดความเสียหาย เพราะที่ผ่านมาการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ จะมีการเชิญทุกครั้ง ทั้งเป็นหนังสือเชิญ และการเชิญด้วยตัวเอง รวมทั้งการให้สัมภาษณ์ว่าหากตนผิด กกต.ก็ผิดด้วย เพราะเรื่องผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า กกต.มีผลประโยชน์แอบแฝง เป็นการทำให้สำนักงาน กกต. เสียชื่อเสียง และถูกดูหมิ่น สำนักงาน กกต.จึงต้องดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อให้ศาลพิสูจน์ความจริงว่า ใครถูก ใครผิด และให้เรื่องยุติตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดยในวันเดียวกันนี้ ประธาน กกต.ได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและคดี ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่ สน.ทุ่งสองห้องแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป
นายธนิศร์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมกกต.ยังไม่ได้พิจารณาหนังสืออุทธรณ์มติเลิกจ้างของนายภุชงค์ เพราะสำนักกฎหมาย และคดีของสำนักงานกกต. ยังไม่เสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม เพราะยังมีเวลา โดย กกต. มีอำนาจในการพิจารณาอุทธรณ์ภายใน 90 วัน จึงต้องรอให้สำนักกฎหมายและคดีฯ สรุปการดำเนินการว่า กระบวนการจะต้องมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องดังกล่าว กกต. คงให้ความเป็นธรรมกับนายภุชงค์ ส่วนการสรรหาเลขาธิการ กกต.คนใหม่นั้น จะมีการเปิดรับสมัครในวันที่ 1- 29 ก.พ. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างระเบียบ เพื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กกต. แต่คาดว่าจะมีรายละเอียดคล้ายคลึงกับระเบียบฉบับเดิม