"ยิ่งลักษณ์"พร้อมพวก อดีตส.ส.อีสาน เดินสายทำบุญที่ขอนแก่น คสช.คุมเข้ม หวั่นเคลื่อนไหวแฝงการเมือง ยึดปฏิทินปีใหม่ นช.ทักษิณ ห้ามปูขึ้นรถแห่พบปะชาวบ้าน ให้เดินทักทายแทน พท.ร่อนหนังสือถึง "บิ๊กตู่"เบรกคำสั่งห้ามแจกปฏิทิน "แม้ว-ปู"ยันอดีตนายกฯ สื่อถึงความผูกพันต่อประชาชน ไม่ผิดก.ม. ด้านมท.1 ระบุแจกได้ ถ้าไม่เกี่ยวการเมือง
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (4 ม.ค.) ที่บริเวณภายในตลาดสดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยอดีตรัฐมนตรี และอดีตส.ส.ในสังกัดของพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะประชาชนตามกำหนดตารางการเดินสายทำบุญ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2559 โดยร่วมรับประทานร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งสมาชิกสภา อบจ. และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ร้านกาแฟสะอิ้ง ร้านจำหน่ายอาหารเช้า ชื่อดังใน อ.บ้านไผ่ ก่อนที่จะเดินพบปะพ่อค้าแม่ค้า ริมสองฟากฝั่งถนน
โดยระหว่างพบปะชาวบ้าน บรรดาอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้เดินแจกปฏิทิน สวัสดีปีใหม่ 2559 ของ นช.ทักษิณ ชินวัตร ให้แก่ประชาชนมายืนรอต้อนรับ และรอถ่ายภาพกับน.ส.ยิ่งลักษณ์
ทั้งนี้ ในช่วงของการลงพื้นที่พบปะประชาชนในเขตเทศบาเมืองบ้านไผ่ พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ และ พ.ท.พิทักษ์พล ชุศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น ได้นำกำลังตำรวจ-ทหาร และฝ่ายปกครอง รวมกว่า 100 นาย ประจำตามจุดต่างๆ และตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมของคณะน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อไม่ให้ขัดคำสั่งของคสช. พร้อมกันนั้น ได้ทำการยึดปฏิทินสวัสดีปีใหม่ที่มีรูปภาพของ นช.ทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมลายเซ็น ที่นำมาแจกจ่าย รวมกว่า 10 ชุด
ขณะที่อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เตรียมรถแห่ เพื่อนำน.ส.ยิ่งลักษณ์ ขึ้นรถแห่ไปโดยรอบเขตเทศบาลบ้านไผ่ เพื่อสวัสดีปีใหม่กับชาวบ้านไผ่ แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไม่อนุญาต ภายหลังพบปะชาวบ้านแล้ว คณะได้เดินทางเข้ากราบขอพร พระเจ้าใหญ่ผือบัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของคนบ้านไผ่ ที่วัดบูรณสิทธิ์ บ้านหนองร้านหญ้า อ.บ้านไผ่ จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารกลางวัน กับชาวชุมชนที่ร้านบะหมี่กวงตัง และเดินทางไปร่วมทำบุญเนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2559 ตามที่ อดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้กำหนดไว้
ในโอกาสที่เดินทางไปขอนแก่นครั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่ บ.โคกสี ต.โคกสี อ.เมืองขอนแก่น ได้เชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานประกอบพิธีตัดลูกนิมิต และสมโภชศาลาการเปรียญ ที่วัดโพธิ์ชัย ต.กระนวน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ถือเป็นการเสร็จสิ้นการเดินสายทำบุญที่ จ.ขอนแก่น
มท.1ยันแจกได้ถ้าไม่เกี่ยวการเมือง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าสามารถแจกได้หากไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ถือว่าไม่เป็นไร แต่ก็ต้องพิจารณากันด้วยว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ เพราะโดยปกติแล้วตนไม่เคยเห็นใครทำปฏิทิน โดยเอารูปภาพของตัวเองมาใส่ในปฏิทินในลักษณะนี้
พท.ร่อนถึงบิ๊กตู่ร้องยึดปฎิทิน
พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยเนื้อหาระบุว่า การกระทำของผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งปฏิทินดังกล่าว เป็นภาพถ่ายปกติของทั้งสองคน ซึ่งทั้งสองมีความผูกพันกับประชาชน การจัดทำปฏิทินเพื่อสื่อสารถึงความรักและความผูกพันระหว่างกันจึงไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย กระทบต่อความสงบเรียบร้อย หรือเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ดังที่ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ดกล่าวอ้าง จึงขอให้นายกฯ และหัวหน้า คสช.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และสั่งการไปยังผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ดและจังหวัดอื่น ๆ ให้ยุติการกระทำดังกล่าว
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (4 ม.ค.) ที่บริเวณภายในตลาดสดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยอดีตรัฐมนตรี และอดีตส.ส.ในสังกัดของพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะประชาชนตามกำหนดตารางการเดินสายทำบุญ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2559 โดยร่วมรับประทานร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งสมาชิกสภา อบจ. และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ร้านกาแฟสะอิ้ง ร้านจำหน่ายอาหารเช้า ชื่อดังใน อ.บ้านไผ่ ก่อนที่จะเดินพบปะพ่อค้าแม่ค้า ริมสองฟากฝั่งถนน
โดยระหว่างพบปะชาวบ้าน บรรดาอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้เดินแจกปฏิทิน สวัสดีปีใหม่ 2559 ของ นช.ทักษิณ ชินวัตร ให้แก่ประชาชนมายืนรอต้อนรับ และรอถ่ายภาพกับน.ส.ยิ่งลักษณ์
ทั้งนี้ ในช่วงของการลงพื้นที่พบปะประชาชนในเขตเทศบาเมืองบ้านไผ่ พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ และ พ.ท.พิทักษ์พล ชุศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น ได้นำกำลังตำรวจ-ทหาร และฝ่ายปกครอง รวมกว่า 100 นาย ประจำตามจุดต่างๆ และตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมของคณะน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อไม่ให้ขัดคำสั่งของคสช. พร้อมกันนั้น ได้ทำการยึดปฏิทินสวัสดีปีใหม่ที่มีรูปภาพของ นช.ทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมลายเซ็น ที่นำมาแจกจ่าย รวมกว่า 10 ชุด
ขณะที่อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เตรียมรถแห่ เพื่อนำน.ส.ยิ่งลักษณ์ ขึ้นรถแห่ไปโดยรอบเขตเทศบาลบ้านไผ่ เพื่อสวัสดีปีใหม่กับชาวบ้านไผ่ แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไม่อนุญาต ภายหลังพบปะชาวบ้านแล้ว คณะได้เดินทางเข้ากราบขอพร พระเจ้าใหญ่ผือบัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของคนบ้านไผ่ ที่วัดบูรณสิทธิ์ บ้านหนองร้านหญ้า อ.บ้านไผ่ จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารกลางวัน กับชาวชุมชนที่ร้านบะหมี่กวงตัง และเดินทางไปร่วมทำบุญเนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2559 ตามที่ อดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้กำหนดไว้
ในโอกาสที่เดินทางไปขอนแก่นครั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่ บ.โคกสี ต.โคกสี อ.เมืองขอนแก่น ได้เชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานประกอบพิธีตัดลูกนิมิต และสมโภชศาลาการเปรียญ ที่วัดโพธิ์ชัย ต.กระนวน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ถือเป็นการเสร็จสิ้นการเดินสายทำบุญที่ จ.ขอนแก่น
มท.1ยันแจกได้ถ้าไม่เกี่ยวการเมือง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าสามารถแจกได้หากไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ถือว่าไม่เป็นไร แต่ก็ต้องพิจารณากันด้วยว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ เพราะโดยปกติแล้วตนไม่เคยเห็นใครทำปฏิทิน โดยเอารูปภาพของตัวเองมาใส่ในปฏิทินในลักษณะนี้
พท.ร่อนถึงบิ๊กตู่ร้องยึดปฎิทิน
พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยเนื้อหาระบุว่า การกระทำของผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งปฏิทินดังกล่าว เป็นภาพถ่ายปกติของทั้งสองคน ซึ่งทั้งสองมีความผูกพันกับประชาชน การจัดทำปฏิทินเพื่อสื่อสารถึงความรักและความผูกพันระหว่างกันจึงไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย กระทบต่อความสงบเรียบร้อย หรือเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ดังที่ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ดกล่าวอ้าง จึงขอให้นายกฯ และหัวหน้า คสช.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และสั่งการไปยังผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ดและจังหวัดอื่น ๆ ให้ยุติการกระทำดังกล่าว