ภายหลังจากได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (4 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนสนามบินน้ำ คณะกรรมการป.ป.ช. ชุดใหม่ ประกอบด้วย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. นายวิทยา อาคมพิทักษ์, นางสุวณา สุวรรณจูฑะ, นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร และพล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการป.ป.ช. พร้อมด้วย นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. ทำพิธี สักการะพระภูมิเจ้าที่ และพระพุทธมงคลนาถศาสดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานป.ป.ช. และพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านหน้าสำนักงานป.ป.ช. ก่อนเข้าทำงานเป็นวันแรก
จากนั้นกรรมการชุดใหม่ ได้เข้าร่วมประชุมกับกรรมการชุดเก่าที่ยังดำรงตำแหน่ง ประกอบด้วย นายปรีชา เลิศกมลมาศ , นายณรงค์ รัฐอมฤต , น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง รวมทั้งกรรมการป.ป.ช.ที่พ้นวาระไปแล้ว คือนายวิชา มหาคุณ, นายประสาท พงษ์ศิวาภัย และ นายภักดี โพธิศิริ โดยมีการประชุมร่วมกันรวม 12 คน เพื่อส่งมอบงาน และสำนักงานที่รับผิดชอบเรื่องคดีจะมีการรายงานความคืบหน้าคดีสำคัญที่จะต้องดำเนินงานต่อ หลังจากนั้นกรรมการแต่ละคนจึงเข้าห้องทำงาน
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวถึง แนวทางการทำงานว่า กรรมการป.ป.ช.ชุดใหม่ และชุดเก่า จะหารือกันเพื่อรับทราบถึงการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงคดีที่ค้างอยู่ เพื่อเร่งรัดให้มีความชัดเจนขึ้น หากคดีใดมีมูลความผิดก็ดำเนินการ หากคดีใดไม่มีมูลความผิด ก็ตีตกไป ก่อนจะเชิญส่วนราชการใน ป.ป.ช. กำหนดทิศทางการทำงานให้ชัดเจน ตามหลักการทำงานแบบมืออาชีพ ซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตามคำขวัญของสำนักงานป.ป.ช. โดยตนคิดว่าจะสามารถนำความรู้ และประสบการณ์การทำงานตำรวจมาปรับใช้กับการทำงานในหน้าที่ป.ป.ช.ได้
"เราจะร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้การทุจริตน้อยลง โดยเน้นการป้องปราม สร้างการรับรู้ และเชื่อว่าในยุคโซเชียลมีเดีย และสื่อมวลชนกระแสหลักมีความเข้มแข็ง ก็จะช่วยตรวจสอบการทำงานของป.ป.ช.ให้มีความโปร่งใส สุจริต อย่างแท้จริงได้ ไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนแล้ว เพราะต้องทำงานอย่างเต็มที่" ประธาน ป.ป.ช. กล่าว
สำหรับการตรวจสอบการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่ล่าสุดกระทรวงกลาโหม ไม่พบการทุจริต ป.ป.ช.จะเข้าร่วมตรวจสอบกรณีดังกล่าวหรือไม่นั้น ยอมรับว่าคดีดังกล่าวส่วนราชการและหน่วยงานอื่นได้ดำเนินการตรวจสอบไปแล้ว สำหรับ ป.ป.ช.เองก็มีอำนาจหน้าที่ และพร้อมจะดำเนินการ แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
**"ปรีชา"เชื่อ"อุดมเดช" ไม่โกง
พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่จะต้องนำผลการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ส่งให้กับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะผลสอบดังกล่าว ต้องส่งให้กองทัพบก ในส่วนของ สตง.จะเข้ามาตรวจสอบอยู่แล้ว คงไม่จำเป็นต้องส่งให้ ยืนยันว่า การตรวจสอบดังกล่าวไม่ใช่เป็นการหาผู้กระทำความผิด ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกเรื่องแล้ว
ส่วนการดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้ความเป็นธรรมกับพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะประธานมูลนิธิราชภักดิ์ หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ส่วนที่ฝ่ายการเมืองยังหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาโจมตีอยู่นั้น ยอมรับว่ายังมีคนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง
"เท่าที่ผมได้สัมผัสช่วงที่ดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.ของ พล.อ.อุดมเดชนั้น เป็นคนที่มีความตั้งใจทำงานจริงจัง ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าจะมีการทุจริตนั้น คิดว่าไม่น่าจะมี ส่วนคนอื่นจะทุจริตหรือไม่ ผมไม่ทราบ ยืนยันว่าในส่วนของ พล.อ.อุดมเดช ไม่น่าจะมี อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่คณะกรรมการฯได้ออกมาแถลงข่าวแล้ว ถือว่าทุกภาคส่วนก็ได้รับทราบ ไม่จำเป็นต้องทำหนังสือปกขาวเพื่อชี้แจงอีก คงจะเหลือเพียงแค่ประเด็นเดียว คือ การหาคนผิด แต่ประเด็นดังกล่าวคิดว่า หน่ายงานที่เกี่ยวข้องคงเข้ามาดำเนินการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา เพราะโครงการอุทยานราชภักดิ์ เป็นโครงการเร่งด่วน ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 8 เดือน" พล.อ.ปรีชา กล่าว
จากนั้นกรรมการชุดใหม่ ได้เข้าร่วมประชุมกับกรรมการชุดเก่าที่ยังดำรงตำแหน่ง ประกอบด้วย นายปรีชา เลิศกมลมาศ , นายณรงค์ รัฐอมฤต , น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง รวมทั้งกรรมการป.ป.ช.ที่พ้นวาระไปแล้ว คือนายวิชา มหาคุณ, นายประสาท พงษ์ศิวาภัย และ นายภักดี โพธิศิริ โดยมีการประชุมร่วมกันรวม 12 คน เพื่อส่งมอบงาน และสำนักงานที่รับผิดชอบเรื่องคดีจะมีการรายงานความคืบหน้าคดีสำคัญที่จะต้องดำเนินงานต่อ หลังจากนั้นกรรมการแต่ละคนจึงเข้าห้องทำงาน
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวถึง แนวทางการทำงานว่า กรรมการป.ป.ช.ชุดใหม่ และชุดเก่า จะหารือกันเพื่อรับทราบถึงการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงคดีที่ค้างอยู่ เพื่อเร่งรัดให้มีความชัดเจนขึ้น หากคดีใดมีมูลความผิดก็ดำเนินการ หากคดีใดไม่มีมูลความผิด ก็ตีตกไป ก่อนจะเชิญส่วนราชการใน ป.ป.ช. กำหนดทิศทางการทำงานให้ชัดเจน ตามหลักการทำงานแบบมืออาชีพ ซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตามคำขวัญของสำนักงานป.ป.ช. โดยตนคิดว่าจะสามารถนำความรู้ และประสบการณ์การทำงานตำรวจมาปรับใช้กับการทำงานในหน้าที่ป.ป.ช.ได้
"เราจะร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้การทุจริตน้อยลง โดยเน้นการป้องปราม สร้างการรับรู้ และเชื่อว่าในยุคโซเชียลมีเดีย และสื่อมวลชนกระแสหลักมีความเข้มแข็ง ก็จะช่วยตรวจสอบการทำงานของป.ป.ช.ให้มีความโปร่งใส สุจริต อย่างแท้จริงได้ ไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนแล้ว เพราะต้องทำงานอย่างเต็มที่" ประธาน ป.ป.ช. กล่าว
สำหรับการตรวจสอบการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่ล่าสุดกระทรวงกลาโหม ไม่พบการทุจริต ป.ป.ช.จะเข้าร่วมตรวจสอบกรณีดังกล่าวหรือไม่นั้น ยอมรับว่าคดีดังกล่าวส่วนราชการและหน่วยงานอื่นได้ดำเนินการตรวจสอบไปแล้ว สำหรับ ป.ป.ช.เองก็มีอำนาจหน้าที่ และพร้อมจะดำเนินการ แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
**"ปรีชา"เชื่อ"อุดมเดช" ไม่โกง
พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่จะต้องนำผลการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ส่งให้กับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะผลสอบดังกล่าว ต้องส่งให้กองทัพบก ในส่วนของ สตง.จะเข้ามาตรวจสอบอยู่แล้ว คงไม่จำเป็นต้องส่งให้ ยืนยันว่า การตรวจสอบดังกล่าวไม่ใช่เป็นการหาผู้กระทำความผิด ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกเรื่องแล้ว
ส่วนการดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้ความเป็นธรรมกับพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะประธานมูลนิธิราชภักดิ์ หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ส่วนที่ฝ่ายการเมืองยังหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาโจมตีอยู่นั้น ยอมรับว่ายังมีคนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง
"เท่าที่ผมได้สัมผัสช่วงที่ดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.ของ พล.อ.อุดมเดชนั้น เป็นคนที่มีความตั้งใจทำงานจริงจัง ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าจะมีการทุจริตนั้น คิดว่าไม่น่าจะมี ส่วนคนอื่นจะทุจริตหรือไม่ ผมไม่ทราบ ยืนยันว่าในส่วนของ พล.อ.อุดมเดช ไม่น่าจะมี อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่คณะกรรมการฯได้ออกมาแถลงข่าวแล้ว ถือว่าทุกภาคส่วนก็ได้รับทราบ ไม่จำเป็นต้องทำหนังสือปกขาวเพื่อชี้แจงอีก คงจะเหลือเพียงแค่ประเด็นเดียว คือ การหาคนผิด แต่ประเด็นดังกล่าวคิดว่า หน่ายงานที่เกี่ยวข้องคงเข้ามาดำเนินการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา เพราะโครงการอุทยานราชภักดิ์ เป็นโครงการเร่งด่วน ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 8 เดือน" พล.อ.ปรีชา กล่าว
