ปีวอก “ประยุทธ์” ปิดฉาก

ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

ตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ภายในเดือนกรกฎาคม 2560 จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลง แต่เริ่มมีคำถามแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์จะประคับประคองสถานการณ์จนครบวาระหรือไม่

แรงกดดันรัฐบาลรุมล้อมมาทุกด้าน ความนิยมมีแนวโน้มลดลง เสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานดังมากขึ้น ความไม่พอใจการบริหารประเทศปะทุเป็นจุดๆ ขณะที่ผลงานการแก้ปัญหาไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอย่างรูปธรรม

นับตั้งแต่การรัฐประหารวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 ประชาชนมีความคาดหวังกับ คสช.สูงมาก และคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นอัศวินม้าขาว มาช่วยปัดเป่าความทุกข์ นำบ้านเมืองกลับสู่ความสงบสุข โดยเดินหน้าปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง

ประชาชนเปิดโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์แสดงฝีมือเต็มที่ สนับสนุนอยู่ในใจ ไม่เคยเคลื่อนไหวต่อต้านการยึดอำนาจ ไม่เคยต่อว่าความเป็นเผด็จการ และปกป้องเสียด้วยซ้ำ

มีแต่พรรคเพื่อไทย มีแต่กลุ่มคนเสื้อแดง มีแต่กลุ่มคนนิยมอย่างงมงายนายทักษิณ ชินวัตรเท่านั้นที่จ้องสร้างความปั่นป่วน

แต่ 1 ปีเศษที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำให้ประชาชนสมหวัง เพราะไม่ได้แก้ปัญหาหลักๆ แต่อย่างใด ไม่ว่าปัญหาการทุจริต ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และยังไม่เริ่มต้นปฏิรูปอะไรสักอย่าง

ไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสิ้นบุญลงจากอำนาจเมื่อไหร่ แต่มีคำสบประมาทกันแล้ว การรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค.56 คง “เสียของ” ไม่แตกต่างจากการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2549 ของคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ที่นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

เพราะยึดอำนาจมาแล้ว และประชาชนส่งเสียงเชียร์กันสนั่นประเทศ แต่กลับไม่ได้แก้ปัญหาสักเท่าไหร่

การรัฐประหารจึงเป็นเพียงการตัดตอนระบอบทักษิณไว้ชั่วคราวเท่านั้น และถ้าคืนอำนาจ เปิดให้เลือกตั้งใหม่ เชื่อกันบรรดาผีดิบจะคืนชีพ ประเทศกลับสู่วงจรอุบาทว์เหมือนเก่า นักการเมืองเลวๆกลับมาสร้างความวิบัติอีกครั้ง

อีกประมาณ 1 ปี 7 เดือน ตามโรดแมป คสช. ไม่มีใครคาดหวังแล้วว่า ปัญหาเรื้อรังต่างๆของประเทศจะได้รับการแก้ไข เพราะที่ผ่านมากว่า 1 ปี ประเทศยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมืองหรือสังคม จึงไม่มีหลักประกันความมั่นใจว่า ช่วงเวลาที่เหลือ พล.อ.ประยุทธ์จะเอาจริง

ไม่มีใครคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเปลี่ยนพฤติกรรม โดยพูดน้อยลง แต่ลงมือปฏิบัติมากขึ้น

ถ้าการบริหารประเทศไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ถ้าปัญหาเรื้อรังทั้งหลายไม่มีการแก้ไข ไม่มีการปฏิรูปอะไรเลย โดยการเมืองยังฟอนเฟะ สังคมยังไร้ความสงบ การทุจริตยังดำรงอยู่ต่อไป และไม่มีการผ่าตัดในระบบราชการ ขณะที่ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงขึ้น ประชาชนคงหมดศรัทธาพล.อ.ประยุทธ์

ปี 25259 นายทักษิณและลูกสมุน คงเปิดยุทธการถล่ม พล.อ.ประยุทธ์หนัก เพราะประเมินแล้วว่า ประชาชนที่เคยปกป้องรัฐบาละเริ่ม “ตีจาก” จุดอ่อนของรัฐบาลมีมากขึ้น และล้มเหลวในการแก้ปัญหา

คนเบื่อหน่ายแล้วสำหรับการแก้ปัญหาในลักษณะจดๆ จ้องๆ เอียนกับทำงานลักษณะขี้เยี่ยวไม่สุด และไม่เข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ติดขัดอะไร

ทำไมปัญหาที่แก้ง่ายๆ พล.อ.ประยุทธ์จึงแก้ไม่ได้ ทั้งที่มีอำนาจอยู่เต็มมือ และเป็นไปได้หรือไม่ที่ขาดความมุ่งมั่นตั้งใจจะแก้ไขตั้งแต่แรกแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหน ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ “ตีจาก” จะอยู่ยาก ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอาการน่าเป็นห่วงแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์เข้าสู่ช่วงเวลาขาลงเต็มตัวตั้งแต่ปลายปี 58 แล้ว และถ้าไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำงาน มีความเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์อาจอยู่ไม่ถึงสิ้นปี 59

ใครจะไปจะมา การเมืองจะเป็นอย่างไรต่อ ยังไม่ต้องคิด เพราะสิ่งที่กำลังคิดและติดตามกันอยู่คือ พล.อ.ประยุทธ์จะทำตามสัญญา อยู่แก้ปัญหาจนสำเร็จลุล่วงตามโรดแมปได้อย่างไร

แค่รักษาตัวให้ผ่านพ้นปี 59 ก็ไม่ง่ายเสียแล้ว

เมื่อเข้าสู่ช่วงขาลง ไม่เคยมีผู้นำประเทศคนใดพลิกชะตากรรมได้ ต้องลงจากอำนาจทุกคน และเวลาของพล.อ.ประยุทธ์ก็สั้นลงทุกที

ปัญหาปากท้องและผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซาที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในปีวอก จะเป็นตัวเร่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ปิดฉากเร็วขึ้น