วานนี้ (26 พ.ย.) ที่กองปราบปราม นายปรีชา ชินวาณิชย์ เจ้าของเต็นท์รถมือ 2 เดอะวัน ย่านถ.ศรีนครินทร์ พร้อมด้วย น.ส.ชญาดา ชินวาณิชย์ พี่สาว และทนายความ เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.5 บก.ป. และพ.ต.ต.หญิง จันทนา สาตะมาน พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายพัชราวรรธน์ หรือ โจม คำแหง สาวประเภทสอง อยู่บ้านเลขที่ 103/55 ม.5 ต.ปากพูน อ.เมืองฯ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของร้านเสื้อผ้า"พัชราภากรุ๊ป บาย พัชราวรรธน์" ใน จ.นครศรีธรรมราช ข้อหาฉ้อโกง หลังอ้างว่าน.ส.พัชราภา ไชยเชื้อ หรือ อั้ม นักแสดงชื่อดังมายืมเงินเพื่อนำไปใช้รักษาอาการป่วย โดยนำสลิปการโอนเงิน และภาพถ่ายของนายพัชราวรรธน์ มามอบไว้เป็นหลักฐาน
นายปรีชา เปิดเผยว่าตนทำธุรกิจเต็นท์รถมือ 2 โดยน.ส.ชญาดา พี่สาวของตนทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลบัญชีธุรกิจทั้งหมด ซึ่งเมื่อ 6 ปีก่อนพี่สาวได้รู้จักกับนายพัชราวรรธน์ ซึ่งเป็นแฟนคลับของอั้ม พัชราภา ด้วยกัน ต่อมานายพัชราวรรธน์ ได้อ้างว่าสนิทสนมกับนักแสดงสาวมาก ก่อนพาพี่สาวตนไปเจออั้ม พัชราภา บ่อยครั้ง ทำให้พี่สาวตนสนิทและไว้ใจ นายพัชราวรรธน์มาก กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา นายพัชราวรรธน์ มาบอกพี่สาวตนว่า อั้ม พัชราภา ป่วยเป็นมะเร็งในปากมดลูกในระยะเริ่มต้น ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก จึงให้นายพัชราวรรธน์ มายืมเงินไปเป็นค่ารักษา
จากนั้นพี่สาวตนจึงให้ยืมเงินไปครั้งแรก แสนกว่าบาท โดยโอนผ่านบัญชีของนายพัชราวรรธน์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรบินสันฯ สาขาจ.นครศรีธรรมราช ต่อมานายพัชราวรรธน์ ก็มาขอให้โอนเงินอีก 10 ครั้ง โดยอ้างว่าเอาไปรักษาดาราสาว รวมยอดเงินประมาณ 8 ล้านบาท โดยนายพัชราวรรธน์ อ้างว่า ดาราสาว ฝากมาบอกว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้ภายในเดือนพ.ย. แต่ความมาแตกเพราะเมื่อครบกำหนดที่ตนต้องใช้เงินไปหมุนเวียนในธุรกิจ จึงทวงถามพี่สาวได้รับคำตอบว่า นายพัชราวรรธน์ ขอเลื่อนคืนเงินเป็นกลางปีหน้า
"หลังพบว่าไม่ชอบมาพากล ผมจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปสอบถามกับ อั้ม พัชราภา ด้วยตัวเอง ก็ได้คำตอบว่าไม่ได้ป่วย และไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และไม่ได้ติดต่อกับนายพัชราวรรธน์ มานานแล้ว ผมจึงแน่ใจแล้วว่า พี่สาวถูกหลอก จึงพาพี่สาวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพัชราวรรธน์ " นายปรีชา กล่าว
ด้านพ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมสอบปากคำผู้เสียหาย จากนั้นจะเชิญ อั้ม พัชราภา มาสอบปากคำ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ป่วย หรือร้องขอให้นายพัชรวรรธน์ มายืมเงินไปรักษาแต่อย่างใด และจะเรียกนายพัชรวรรธน์ ผู้ถูกกล่าวหา มาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
นายปรีชา เปิดเผยว่าตนทำธุรกิจเต็นท์รถมือ 2 โดยน.ส.ชญาดา พี่สาวของตนทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลบัญชีธุรกิจทั้งหมด ซึ่งเมื่อ 6 ปีก่อนพี่สาวได้รู้จักกับนายพัชราวรรธน์ ซึ่งเป็นแฟนคลับของอั้ม พัชราภา ด้วยกัน ต่อมานายพัชราวรรธน์ ได้อ้างว่าสนิทสนมกับนักแสดงสาวมาก ก่อนพาพี่สาวตนไปเจออั้ม พัชราภา บ่อยครั้ง ทำให้พี่สาวตนสนิทและไว้ใจ นายพัชราวรรธน์มาก กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา นายพัชราวรรธน์ มาบอกพี่สาวตนว่า อั้ม พัชราภา ป่วยเป็นมะเร็งในปากมดลูกในระยะเริ่มต้น ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก จึงให้นายพัชราวรรธน์ มายืมเงินไปเป็นค่ารักษา
จากนั้นพี่สาวตนจึงให้ยืมเงินไปครั้งแรก แสนกว่าบาท โดยโอนผ่านบัญชีของนายพัชราวรรธน์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรบินสันฯ สาขาจ.นครศรีธรรมราช ต่อมานายพัชราวรรธน์ ก็มาขอให้โอนเงินอีก 10 ครั้ง โดยอ้างว่าเอาไปรักษาดาราสาว รวมยอดเงินประมาณ 8 ล้านบาท โดยนายพัชราวรรธน์ อ้างว่า ดาราสาว ฝากมาบอกว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้ภายในเดือนพ.ย. แต่ความมาแตกเพราะเมื่อครบกำหนดที่ตนต้องใช้เงินไปหมุนเวียนในธุรกิจ จึงทวงถามพี่สาวได้รับคำตอบว่า นายพัชราวรรธน์ ขอเลื่อนคืนเงินเป็นกลางปีหน้า
"หลังพบว่าไม่ชอบมาพากล ผมจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปสอบถามกับ อั้ม พัชราภา ด้วยตัวเอง ก็ได้คำตอบว่าไม่ได้ป่วย และไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และไม่ได้ติดต่อกับนายพัชราวรรธน์ มานานแล้ว ผมจึงแน่ใจแล้วว่า พี่สาวถูกหลอก จึงพาพี่สาวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพัชราวรรธน์ " นายปรีชา กล่าว
ด้านพ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมสอบปากคำผู้เสียหาย จากนั้นจะเชิญ อั้ม พัชราภา มาสอบปากคำ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ป่วย หรือร้องขอให้นายพัชรวรรธน์ มายืมเงินไปรักษาแต่อย่างใด และจะเรียกนายพัชรวรรธน์ ผู้ถูกกล่าวหา มาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
