วานนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และอาสาสมัครตำรวจ รวมทั้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่) กว่า 100 นาย นำโดยพ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.หาดใหญ่ กระจายกำลังออกกวาดล้าง และจับกุมกลุ่มวัยรุ่นขี่รถซิ่งในเขตตัวเมืองหาดใหญ่ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีวางกำลังเป็นโครงข่ายใยแมงมุม ดักต้อนกลุ่มวัยรุ่นขี่รถซิ่งทั่วเมืองหาดใหญ่ 3 จุด ประกอบด้วย ถนนราษฎร์อุทิศ หรือเขต 8 ถนนเพชรเกษม หน้าที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ และถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ หน้าสนามกีฬาจิรนครหาดใหญ่ สามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่นขี่รถซิ่งได้ 70 คน เป็นชาย 63 คน และหญิง 7 คน ส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชน และบางส่วนมากันเป็นคู่ๆชายหญิง ยึดรถจักรยานยนต์ 45 คัน และระหว่างการจับกุมมีตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเกือบ 10 นาย เนื่องจากถูกกลุ่มวัยพยายามพุ่งชน ขณะที่ตำรวจเข้าจับกุม และยังยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ได้ 1 กระบอก และอาวุธมีด 1 เล่ม
พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นครั้งใหญ่ในรอบปีนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดมกำลังกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อทิ้งระยะไปกลุ่มวัยรุ่นขี่รถซิ่งก็จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ทั้งแข่งรถในทาง และรวมกลุ่มตระเวนขับรถซิ่งไปทั่วเมืองหาดใหญ่ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และผู้ที่พักผ่อนอยู่กับบ้านเนื่องจากส่งเสียงดัง
โดยหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อคัดแยกและตรวจสอบประวัติว่ามีคดีติดตัว หรือมีหมายจับติดตัวหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบรถทุกคันอย่างละเอียด ว่ามีการแจ้งสูญหาย หรือมีคันไหนบ้างที่เป็นรถที่ถูกขโมยมา และจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด พร้อมเชิญผู้ปกครองมารับทราบ ส่วนรถของกลางจะทำการยึดเอาไว้ และหากพบเด็กคนใดกระทำความผิดซ้ำ ผู้ปกครองต้องมีความผิดตามกฎหมายด้วย
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีใน 2 ข้อหาคือ แข่งรถในทางสาธารณะ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า1 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาต และข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นในจำนวนนี้ถูกแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง 1 คน
ต่อมาช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ได้สรุปผลการจับกุมโดยสามารถยึดรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 45 คัน จับกุมเด็กแว้นได้ 69 คน แยกเป็นผู้ใหญ่ 24 คน เด็กและเยาวชน 45 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ชาย 63 คน และหญิง 6 คน และจากการนำตัวมาตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดพบว่ามีสารเสพติดจำนวน 12 คน ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ยึดได้ พบว่า มีรถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่ถูกขโมยมา และตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ยังคงควบคุมตัวกลุ่มเด็ก และเยาวชนขี่รถซิ่งเพื่อรอแจ้งข้อดำเนินคดีที่ สภ.หาดใหญ่ โดยมีผู้ปกครอง และญาติเดินทางมาเยี่ยมจนแน่นโรงพัก และห้องขัง
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงศ์ กิตติธิรางกูร พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้างานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อกลุ่มเด็ก และเยาวชนขี่รถซิ่งตามความผิดของแต่ละคน ซึ่งมีทั้งข้อหาแข่งรถในทางสาธารณะ ให้การสนับสนุนแข่งรถในทางสาธารณะ ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งบางคนถูกแจ้งทั้ง 3 ข้อหา เนื่องจากมีความผิดซ้ำซ้อน และเจ้าหน้าที่จะนำตัวเด็กทั้งหมดส่งฟ้องศาล วันนี้ (23 พ.ย.)
นอกจากจะดำเนินคดีต่อเด็กทั้งหมดแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีต่อผู้ปกครองของเด็ก และเยาวชนทั้ง 45 คนด้วย เนื่องจากมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน และปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท และจะเรียกผู้ปกครองมาสอบสวน และแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ปกครองมีความผิดและต้องรับผิดชอบด้วย เพราะมีหน้าที่ดูแลสั่งสอนบุตรหลานให้เป็นคนดี แต่กลับปล่อยปละละเลย ซึ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริม และยินยอมให้เยาวชนมารวมกลุ่มกันกระทำความผิด
โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีวางกำลังเป็นโครงข่ายใยแมงมุม ดักต้อนกลุ่มวัยรุ่นขี่รถซิ่งทั่วเมืองหาดใหญ่ 3 จุด ประกอบด้วย ถนนราษฎร์อุทิศ หรือเขต 8 ถนนเพชรเกษม หน้าที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ และถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ หน้าสนามกีฬาจิรนครหาดใหญ่ สามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่นขี่รถซิ่งได้ 70 คน เป็นชาย 63 คน และหญิง 7 คน ส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชน และบางส่วนมากันเป็นคู่ๆชายหญิง ยึดรถจักรยานยนต์ 45 คัน และระหว่างการจับกุมมีตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเกือบ 10 นาย เนื่องจากถูกกลุ่มวัยพยายามพุ่งชน ขณะที่ตำรวจเข้าจับกุม และยังยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ได้ 1 กระบอก และอาวุธมีด 1 เล่ม
พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นครั้งใหญ่ในรอบปีนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดมกำลังกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อทิ้งระยะไปกลุ่มวัยรุ่นขี่รถซิ่งก็จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ทั้งแข่งรถในทาง และรวมกลุ่มตระเวนขับรถซิ่งไปทั่วเมืองหาดใหญ่ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และผู้ที่พักผ่อนอยู่กับบ้านเนื่องจากส่งเสียงดัง
โดยหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อคัดแยกและตรวจสอบประวัติว่ามีคดีติดตัว หรือมีหมายจับติดตัวหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบรถทุกคันอย่างละเอียด ว่ามีการแจ้งสูญหาย หรือมีคันไหนบ้างที่เป็นรถที่ถูกขโมยมา และจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด พร้อมเชิญผู้ปกครองมารับทราบ ส่วนรถของกลางจะทำการยึดเอาไว้ และหากพบเด็กคนใดกระทำความผิดซ้ำ ผู้ปกครองต้องมีความผิดตามกฎหมายด้วย
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีใน 2 ข้อหาคือ แข่งรถในทางสาธารณะ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า1 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาต และข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นในจำนวนนี้ถูกแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง 1 คน
ต่อมาช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ได้สรุปผลการจับกุมโดยสามารถยึดรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 45 คัน จับกุมเด็กแว้นได้ 69 คน แยกเป็นผู้ใหญ่ 24 คน เด็กและเยาวชน 45 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ชาย 63 คน และหญิง 6 คน และจากการนำตัวมาตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดพบว่ามีสารเสพติดจำนวน 12 คน ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ยึดได้ พบว่า มีรถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่ถูกขโมยมา และตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ยังคงควบคุมตัวกลุ่มเด็ก และเยาวชนขี่รถซิ่งเพื่อรอแจ้งข้อดำเนินคดีที่ สภ.หาดใหญ่ โดยมีผู้ปกครอง และญาติเดินทางมาเยี่ยมจนแน่นโรงพัก และห้องขัง
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงศ์ กิตติธิรางกูร พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้างานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อกลุ่มเด็ก และเยาวชนขี่รถซิ่งตามความผิดของแต่ละคน ซึ่งมีทั้งข้อหาแข่งรถในทางสาธารณะ ให้การสนับสนุนแข่งรถในทางสาธารณะ ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งบางคนถูกแจ้งทั้ง 3 ข้อหา เนื่องจากมีความผิดซ้ำซ้อน และเจ้าหน้าที่จะนำตัวเด็กทั้งหมดส่งฟ้องศาล วันนี้ (23 พ.ย.)
นอกจากจะดำเนินคดีต่อเด็กทั้งหมดแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีต่อผู้ปกครองของเด็ก และเยาวชนทั้ง 45 คนด้วย เนื่องจากมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน และปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท และจะเรียกผู้ปกครองมาสอบสวน และแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ปกครองมีความผิดและต้องรับผิดชอบด้วย เพราะมีหน้าที่ดูแลสั่งสอนบุตรหลานให้เป็นคนดี แต่กลับปล่อยปละละเลย ซึ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริม และยินยอมให้เยาวชนมารวมกลุ่มกันกระทำความผิด