เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (26ต.ค.) นายธวัชไชย สนธิวนิช ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ในฐานะตุลาการเจ้าของสำนวนในคดีที่ นางชนัญญา สิงห์โต กับพวกรวม 62 คน ซึ่งเป็นผู้ค้าย่านสะพานเหล็ก ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 เพื่อขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งกรุงเทพมหานคร ผ่านเขตพระนคร และ เขตสัมพันธ์วงศ์ให้มีการรื้อถอนอาคาร และร้านค้าตลาดสะพานหัน และสะพานเหล็ก บริเวณคลองโอ่งอ่าง และยุติการรื้อถอน เพื่อให้ผู้ค้าได้ประกอบการค้าอย่างปกติสุข ได้อออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จากฝ่ายผู้ค้าที่ เป็นผู้ฟ้องคดี
หลังการไต่สวนนานชั่วโมงเศษ นายวีรวัฒน์ อบโอ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า ศาลได้ไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากผู้ค้าฯโดยสอบถามข้อเท็จจริงว่า สถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้เป็นอย่างไร การไล่รื้อมีหรือไม่ อย่างไร ซึ่งทางผู้ค้าก็ได้ยืนยันว่า การค้าขายในย่านสะพานหัน สะพานเหล็ก แต่เดิมเป็นการทำสัญญาเช่ากับบริษัทเอกชน ก่อนจะมาเป็นการทำสัญญาเช่ากับกรุงเทพมหานคร ไม่ได้เป็นการบุกรุกที่สาธารณะ และเห็นว่ามีคำสั่งทางปกครองในการรื้อถอน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลก็จะนำข้อมูลที่ได้จากการไต่สวน เสนอต่อองค์คณะเพื่อพิจารณาว่า คำฟ้องอยู่ ในเขตอำนาจศาลปกครองที่จะรับคำฟ้องไว้พิจารณาวินิจฉัย หรือไม่ และจะต้องมีการไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา คือ สั่งระงับการรื้อถอนของกรุงเทพมหานครไว้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตามที่ผู้ฟ้องคดีร้องขอหรือไม่ หากเห็นว่ามีความจำเป็น ก็จะมีการเรียกไต่สวนสองฝ่าย โดยทางตุลาการ ก็ได้แจ้งว่าจะเร่งพิจารณาเพราะทราบแล้วว่า ทางกรุงเทพมหานคร มีการไล่รื้ออย่างต่อเนื่อง และมีความเสียหายเกิดขึ้นกับผู้ค้าแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไต่สวนดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ กลุ่มผู้ค้าฯรวม 62 คน นำโดย นางชนัญญา ได้ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร และรมว.มหาดไทย เพิ่มเติม เป็นอีกคดีหนึ่ง จากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. กลุ่มผู้ค้ารวม 48 คน นำโดยนายสุรัตน์ ลิ้มอัครอังกูร ได้ยื่นฟ้องไปแล้ว โดยผู้ฟ้องคดีจากทั้งสองคดี ก็ได้เข้าให้ข้อมูลกับศาล
หลังการไต่สวนนานชั่วโมงเศษ นายวีรวัฒน์ อบโอ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า ศาลได้ไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากผู้ค้าฯโดยสอบถามข้อเท็จจริงว่า สถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้เป็นอย่างไร การไล่รื้อมีหรือไม่ อย่างไร ซึ่งทางผู้ค้าก็ได้ยืนยันว่า การค้าขายในย่านสะพานหัน สะพานเหล็ก แต่เดิมเป็นการทำสัญญาเช่ากับบริษัทเอกชน ก่อนจะมาเป็นการทำสัญญาเช่ากับกรุงเทพมหานคร ไม่ได้เป็นการบุกรุกที่สาธารณะ และเห็นว่ามีคำสั่งทางปกครองในการรื้อถอน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลก็จะนำข้อมูลที่ได้จากการไต่สวน เสนอต่อองค์คณะเพื่อพิจารณาว่า คำฟ้องอยู่ ในเขตอำนาจศาลปกครองที่จะรับคำฟ้องไว้พิจารณาวินิจฉัย หรือไม่ และจะต้องมีการไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา คือ สั่งระงับการรื้อถอนของกรุงเทพมหานครไว้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตามที่ผู้ฟ้องคดีร้องขอหรือไม่ หากเห็นว่ามีความจำเป็น ก็จะมีการเรียกไต่สวนสองฝ่าย โดยทางตุลาการ ก็ได้แจ้งว่าจะเร่งพิจารณาเพราะทราบแล้วว่า ทางกรุงเทพมหานคร มีการไล่รื้ออย่างต่อเนื่อง และมีความเสียหายเกิดขึ้นกับผู้ค้าแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไต่สวนดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ กลุ่มผู้ค้าฯรวม 62 คน นำโดย นางชนัญญา ได้ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร และรมว.มหาดไทย เพิ่มเติม เป็นอีกคดีหนึ่ง จากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. กลุ่มผู้ค้ารวม 48 คน นำโดยนายสุรัตน์ ลิ้มอัครอังกูร ได้ยื่นฟ้องไปแล้ว โดยผู้ฟ้องคดีจากทั้งสองคดี ก็ได้เข้าให้ข้อมูลกับศาล