xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"สั่งใช้กม.ปฏิบัติการเข้ม ล้างมาเฟีย-อาวุธสงคราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (26 ต.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลว่า กำลังจะมีการออกคำสั่งภายในวันที่ 26 ต.ค.หรือ 27 ต.ค. ซึ่งรอเพียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ลงนามแต่งตั้งคณะทำงาน โดยมีตนทำหน้าที่เป็นประธาน และมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการทำงานสู่ระดับล่างต่อไป
ส่วนนโยบายจะเน้นการควบคุมอาวุธสงครามเป็นส่วนใหญ่ และสิ่งที่ทำให้เกิดอิทธิพลในท้องถิ่น จนทำให้เกิดความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน
เมื่อถามว่า แสดงว่ายังมีตกค้างอยู่ภายหลังจากที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้นำอาวุธมาคืนต่อรัฐแล้ว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อาจจะมี หรือไม่มีก็ได้ ตนก็ไม่ทราบ แต่ที่สำคัญเราไม่อยากให้มีอาวุธสงคราม เพราะถ้ามี ก็จะนำมาใช้กันจนเกิดความไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังพิจารณาออกกฎหมายเรื่องการพกพา หรือนำพาอาวุธ พร้อมทั้งปฏิเสธว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้มีการแจ้งเตือนว่ามีการก่อเหตุความวุ่นวาย เพียงแต่เราพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการเสียชีวิต ตลอดจนถึงไม่ให้มีภาพความขัดแย้งต่างๆ ในส่วนของกลุ่มมาเฟียตามสถานบันเทิงต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ก็ดูอยู่ เพราะจะมีไม่ได้ ถ้ามีผู้บังคับหน่วยทั้งตำรวจ และทหาร ต้องรับผิดชอบ

** "บิ๊กตู่"ยันไม่เกี่ยวเสื้อแดงเคลื่อนไหว

ต่อมาเวลา 15.45 น. วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการปราบปรามมาเฟีย ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องลงนามว่า
" ทำไมต้องมีคณะกรรมการชุดดังกล่าว ในเมื่อหน้าที่ของทุกคนก็มีอยู่แล้ว เพียงแต่ให้ทุกคนไปเข้มงวดในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ต้องถึงกับไปทำเป็นบัญชีดำ บัญชีแดง อะไรขึ้นมา ในทุกพื้นที่ก็สามารถตรวจค้น จับกุม ทั้งเรื่องอาวุธสงคราม ก็มีการทำหน้าที่กันอยู่แล้ว เดี๋ยวก็จะมากล่าวหากันอีกว่าใช้มาตรการนอกกฎหมายอีก ไม่ทำ เพราะกฎหมายมีอยู่แล้ว มีการตรวจค้นจับกุมในพื้นที่ไหน ก็ไปว่ากันตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ก็ได้สั่งการไปแล้ว ทำให้ชัดเจนกันมากขึ้น ทั้ง คสช. และตำรวจ ต้องร่วมมือกัน ในการสืบจับแต่ละพื้นที่ก็ต้องมีการข่าวกันอยู่แล้ว ต้องหาข้อมูลได้ โดยเฉพาะคนที่ทำความผิด"
เมื่อถามว่า มีสิ่งบอกเหตุอะไร ทำไมจึงตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่อยู่ดีๆ เพียงแต่ตนเห็นว่า มีการใช้ อาวุธสงคราม อาวุธปืนยิงแม้กระทั่งลูกหนี้ ตนทนไม่ได้ อยู่ดีๆ ก็เอาปืนมายิงคนเล่น ยิงเข้าบ้านคน ขนาดรัฐบาลนี้ยังเป็นอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ตนต้องคำนึงถึงมากกว่าอย่างอื่นๆ ไม่ได้หมายความว่า จะไปไล่ล่าใคร หรือไปไล่ล่าฝ่ายการเมือง อย่าไปเอามาพันกัน เรื่องนี้ถือเป็นกฎหมายปกติ มันจะต้องไม่มีอาชญากรรม การใช้อาวุธสงคราม ช่วงที่ผ่านมายังมีการใช้อาวุธสงครามยิงคนตายอยู่ แสดงว่ามีการลักลอบรั่วไหลในเรื่องอาวุธสงคราม ก็ต้องจับกุมให้ได้
เมื่อถามว่า การเน้นย้ำนโยบายดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีข่าวว่าจะนัดรวมตัวให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "มันจะไปเกี่ยวอะไร ผมไม่ได้ให้ความสนใจอยู่แล้ว คุณอย่าเอามาโยงกับผม ต่อไปนี้ อย่าเอาเรื่องเหล่านั้นมาโยงกับผมอีก จะผิดหรือถูก ก็ให้ไปอยู่ในศาล สื่อมาถามผมทุกวันก็ทะเลาะกันอยู่แบบนี้ ไอ้ผมก็อดไม่ได้ที่จะตอบ แต่ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่ตอบแล้ว เพราะเขาไม่ใช่คู่กรณีกับผม เขาไปเป็นคู่กรณีกับกระบวนการยุติธรรม วันนี้ถ้าอยากจะทำอะไรก็ทำไป ถ้าสังคมยอมรับได้ ผมก็รับได้ จะมาชวนกันต่อต้านอะไรตรงไหน กฎหมายเขาว่าอย่างไร ถ้าผิดกฎหมาย ผมก็จับกุม " นายกรัฐมนตรี กล่าว

** ผบ.เหล่าทัพขานรับแผนลุยมาเฟีย

พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผลการประชุมสภากลาโหม ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เน้นย้ำ หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เป็นรูปธรรม และเห็นผลภายใน 6 เดือน โดยคณะทำงานประกอบด้วย กระทรวงกลาโหม มหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เน้น ปราบปรามอาวุธสงครามให้สิ้นซาก พร้อมให้ทุกส่วนราชการและประชาชนให้การสนับสนุน ร่วมแจ้งแบะแส หากพบจะดำเนินตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมถึงการเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการสกัดกั้นยาเสพติด ไม่ให้เข้ามาพื้นที่ภายใน และ กำชับกำลังพลไม่ให้ไปเกี่ยวข้อง ตลอดจนถึงการเพิ่มมาตรการเข้มข้นดูแล บังคับใช้กฎหมาย ในการป้องกันการค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าเมือง ทั้งกอง กำลังตามแนวชายแดนในทางบก และทางน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวทวีความรุนแรงขึ้นมาอีก

**"จักรทิพย์"ฟุ้งมีข้อมูลมาเฟียทุกระดับ

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึง การประชุมเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่หลักในการปราบรามผู้มีอิทธิพล เรามีข้อมูลของผู้มีอิทธิพล มาเฟีย และมือปืนรับจ้างในทุกภาค ทั้งข้อมูลในระดับท้องถิ่น และระดับจังหวัด มีข้อมูลพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ขณะนี้รอให้ พล.อ.ประวิตร เรียกประชุมเพื่อตั้งคณะกรรมการเท่านั้น สำหรับกรณีมือปืนรับจ้าง ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ที่ปรึกษา (สบ 10) ไปดำเนินการ
" เรื่องพวกนี้ ผมหลับตาก็เห็นหมดแล้ว ผมรู้ทั้งหมดว่าจังหวัดไหน เป็นอย่างไร เคยบอกไปแล้วว่า นักเลง ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แต่ละจังหวัดที่มีปัญหาอยู่ อย่ามามีปัญหากับผม ให้เบาๆลงหน่อย จะมาทำตัวมีอิทธิพลเหมือนสมัยก่อนไม่ได้ ส่วนกลุ่มที่มีการจับตาเป็นพิเศษนั้น เป็นเมืองหลักๆ ที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้ ผมว่าเหตุการณ์ผู้มีอิทธิพลได้ลดน้อยลงไปบ้างแล้ว เช่น จ.ชลบุรี จ.ลพบุรี จ.เพชรบุรี ส่วนผู้มีอิทธิพลใน จ.ชัยนาท เชื่อว่าเขาไม่กล้าทำอะไร" ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ตนได้กำชับไปแล้วว่า ใครที่ออกมารังแก ทำร้ายประชาชนโดยที่ไม่มีเหตุอันควร จะไม่เอาไว้แน่นอน บอกเขาไปแล้วว่า ให้อยู่เฉยๆ ให้ทำความดีบ้าง บอกไปแล้วหลายกลุ่ม ส่วนจะมีการนำข้อมูลผู้มีอิทธิพลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนั้น ส่งต่อไปให้ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กระทรวงยุติธรรม (ป.ป.ท.) หรือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ เพราะดูเหมือนจะมีนักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลด้วยนั้น หากใครก็ตามเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือระดับไหน ไปข่มขู่ประชาชน ต้องมีการดำเนินการอยู่แล้ว เพราะถือว่าประชาชน เป็นคนของตนเช่นกัน ที่ต้องดูแลทุกข์สุข ตนว่ายุคนี้พวกนักเลงผู้มีอิทธิพลไปทำอย่างอื่นจะดีกว่า จะมีประโยชน์มากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น