ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”จับมือเครือสหพัฒน์สร้างโอกาสค้าขายให้ SMEs เปิดให้ใช้ตรา Thailand BEST และพัฒนาเว็บไซต์นำสินค้าขายออนไลน์ คาดสินค้า SMEsเปิดตัวสู่ตลาดในประเทศและต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นแน่
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับเครือสหพัฒน์ว่า กระทรวงฯ ได้ร่วมมือกับเครือสหพัฒน์ในการยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้เป็นที่ยอมรับของตลาดภายในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยการใช้ตราสัญลักษณ์ Thailand BEST เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ของไทย
โดยแนวทางในการดำเนินการ จะเปิดโอกาสให้ SMEsที่ได้รับการคัดเลือก สามารถใช้ตราสัญลักษณ์ Thailand BEST เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการบริโภคสินค้ามากขึ้น และสร้างโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยังได้จัดทำเว็บไซต์ thailandbest.go.th เพื่อใช้เป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand BEST ในลักษณะ B2C ซึ่งจะทำให้ SMEs มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคก็มีช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีได้เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงฯ และเครือสหพัฒน์จะร่วมกันประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ บริหารจัดการด้านการตลาด การขนส่ง และการชำระเงินออนไลน์แบบครบวงจร เพื่อผลักดันให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักและมีคนเข้ามาใช้บริการต่อไป
“การผลักดันเว็บไซต์ thailandbest.go.th เป็นการสร้างโอกาสให้กับ SMEs ในการเข้าสู่ระบบการค้าออนไลน์ และขายสินค้าส่งตรงไปยังผู้บริโภค ซึ่งแตกต่างจากเว็บไซต์ thaitrade.com ที่กระทรวงพาณิชย์มีอยู่ เพราะ thaitrade.com เป็นการซื้อขายแบบ B2B หรือธุรกิจต่อธุรกิจ ที่ต้องสั่งซื้อทีละมากๆ แต่ต่อไป ถ้า SMEs ที่ขายอยู่ใน thailandbest.go.th มีความเข้มแข็งแล้ว สามารถจะพัฒนาไปสู่การขายแบบ B2B ก็ได้”นางอภิรดีกล่าว
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า เครือสหพัฒน์ยินดีมอบตราสัญลักษณ์ Thailand BEST ที่เครือสหพัฒน์เป็นผู้ริเริ่มและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2541 ให้กับกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันดำเนินโครงการ Thailand BEST เพื่อยกระดับสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยให้มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และใช้เป็นช่องทางการค้าขายออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้สินค้าไทยเปิดตัวสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในขณะนี้ เชื่อว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจได้พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยน่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้หรือประมาณต้นปี 2559
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับเครือสหพัฒน์ว่า กระทรวงฯ ได้ร่วมมือกับเครือสหพัฒน์ในการยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้เป็นที่ยอมรับของตลาดภายในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยการใช้ตราสัญลักษณ์ Thailand BEST เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ของไทย
โดยแนวทางในการดำเนินการ จะเปิดโอกาสให้ SMEsที่ได้รับการคัดเลือก สามารถใช้ตราสัญลักษณ์ Thailand BEST เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการบริโภคสินค้ามากขึ้น และสร้างโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยังได้จัดทำเว็บไซต์ thailandbest.go.th เพื่อใช้เป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand BEST ในลักษณะ B2C ซึ่งจะทำให้ SMEs มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคก็มีช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีได้เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงฯ และเครือสหพัฒน์จะร่วมกันประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ บริหารจัดการด้านการตลาด การขนส่ง และการชำระเงินออนไลน์แบบครบวงจร เพื่อผลักดันให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักและมีคนเข้ามาใช้บริการต่อไป
“การผลักดันเว็บไซต์ thailandbest.go.th เป็นการสร้างโอกาสให้กับ SMEs ในการเข้าสู่ระบบการค้าออนไลน์ และขายสินค้าส่งตรงไปยังผู้บริโภค ซึ่งแตกต่างจากเว็บไซต์ thaitrade.com ที่กระทรวงพาณิชย์มีอยู่ เพราะ thaitrade.com เป็นการซื้อขายแบบ B2B หรือธุรกิจต่อธุรกิจ ที่ต้องสั่งซื้อทีละมากๆ แต่ต่อไป ถ้า SMEs ที่ขายอยู่ใน thailandbest.go.th มีความเข้มแข็งแล้ว สามารถจะพัฒนาไปสู่การขายแบบ B2B ก็ได้”นางอภิรดีกล่าว
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า เครือสหพัฒน์ยินดีมอบตราสัญลักษณ์ Thailand BEST ที่เครือสหพัฒน์เป็นผู้ริเริ่มและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2541 ให้กับกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันดำเนินโครงการ Thailand BEST เพื่อยกระดับสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยให้มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และใช้เป็นช่องทางการค้าขายออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้สินค้าไทยเปิดตัวสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในขณะนี้ เชื่อว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจได้พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยน่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้หรือประมาณต้นปี 2559
