อึ้ง!นายอำเภอกล่อมชาวหนองจาน แบ่งที่ให้เขมร จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน

“วีระ สมความคิด” ซัดรัฐไม่จริงใจช่วย หลอกชาวบ้านหนองจานซ้ำซาก เผยผู้ว่าฯ สระแก้ว จนปัญญาไล่เขมรรุกที่ เจ็บแสบนายอำเภอลงกล่อมชาวบ้านยอมแบ่งที่ให้เขมร บอกจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Veera Somkwamkid ถึงกรณีที่รัฐบาลรับปากจะจัดการปัญหาที่ดินบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว . หลังถูกชาวกัมพูชาเข้ามายึดไม่ให้ชาวไทยเข้าไปทำกิน ว่า นับจากวันที่ 28 ก.ค.58 จนถึงวันนี้ 3 ต.ค.58 เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่รัฐบาลได้ทำบันทึกข้อตกลงกับชาวบ้านหนองจาน (บริเวณหลักเขตแดนไทย - กัมพูชา หลักเขตที่ 46 - 48 ) ยืนยันจะดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับที่ทำกิน

โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วดำเนินการจัดการปัญหาที่พิพาท จัดให้มีการประชุมร่วมระหว่างภาครัฐของไทยและกัมพูชา และประชาชนที่ได้รับผลกระทบภายใน 10 วัน หากที่ดินแปลงใดไม่สามารถตกลงกันได้ ทางจังหวัดสระแก้วจะจัดการที่ดินทำกินให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบโดยชั่วคราวตามสมควร แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้าน

ทำไมต้องหลอกลวงชาวบ้านซ้ำซากเช่นนี้ ชาวบ้านตามแนวชายแดนเขาไม่ใช่คนไทยหรือ? เขาเกิดบนแผ่นดินไทยมาจนอายุกว่าห้าสิบปี บางคนอายุมากกว่าเจ็ดสิบปี เสียภาษีทั้งทางตรงทางอ้อมให้แก่รัฐบาลไทยมาโดยตลอด แต่ทำไมได้รับการปฏิบัติจากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เหมือนพวกเขาไม่ใช่พลเมืองไทย

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม58 ป้าน้อย(นางสุบิน เที่ยงลาย) ได้แจ้งให้ทราบว่านายอำเภอและปลัดอำเภอโคกสูง ได้มาพบที่บ้านและแจ้งว่าทางจังหวัดสระแก้วไม่สามารถไปเอาที่นามาคืนให้แก่ชาวบ้าน เนื่องจากกัมพูชาไม่ยอม และพยายามโน้มน้าวให้ป้าน้อยยอมแบ่งที่นาของตัวเองให้แก่กัมพูชา จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน

นายอำเภอโคกสูงของไทย มาหว่านล้อมให้ชาวบ้านคนไทย ที่ถูกกัมพูชาบุกรุกเข้ามาแย่งยึดที่นาของตนเอง ต้องยอมยกแผ่นดินให้กัมพูชาเสียโดยดี เพราะนายอำเภอ ผู้ว่าฯสระแก้ว รวมถึงทหารและ ต.ช.ด. ทั้งหมด ไม่มีความสามารถไปไล่กัมพูชาให้ออกไปจากแผ่นดินไทยได้ ป้าน้อยบอกว่า เจ็บปวดหัวใจที่สุด นึกไม่ถึงว่านายอำเภอคนไทยจะกล้าพูดเช่นนี้ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหมดที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่มีความสามารถไปเอาแผ่นดินไทยคืนมา ที่สำคัญไม่มีความจริงจังและไม่มีความจริงใจในการช่วยเหลือชาวบ้านแล้วยังจะมาบังคับให้ชาวบ้านยอมยกแผ่นดินให้ต่างชาติอีก

สำหรับสื่อมวลชนไทย นักข่าวก็ไม่ค่อยให้ความสนใจกับความเดือดร้อนของชาวบ้านหนองจานสักเท่าใด แต่กับเรื่องในครอบครัวของดาราบางคน ที่ไม่ได้มีสาระประโยชน์อะไรกับสังคมสักเท่าใด สื่อกลับแย่งกันไปนำเสนอข่าวกันอย่างมากมาย เรื่องอธิปไตย เรื่องของการสูญเสียแผ่นดิน แทบจะหาสื่อที่กล้านำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาได้น้อยมาก เกิดเป็นคนไทยแล้วไม่ช่วยกันรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้ให้ลูกหลาน จะรอให้ต่างชาติเข้ามาช่วยรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้เช่นนั้นหรือ?

***ชาวบ้านหนองจานร้องนายกฯ แก้ปัญหา

เมื่อเดือน ก.ค.58 ที่ผ่านมา นายวีระ สมความคิด ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Veera Somkwamkid" โดย มีเนื้อหาระบุว่า วบ้านในจังหวัดสระแก้วที่ได้รับความเดือดร้อนจกาการที่ทหารและชาวกัมพูชาได้บุกรุกเข้ามาแย่งที่ดินทำกิน บริเวณหลักเขตแดนที่ 46 -48 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และได้เคยเดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้วแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า และในวันที่ 28 ก.ค.58 นี้ชาวบ้านจะเดินทางมาทวงพบนายกฯ อีกครั้ง โดยเนื้อหาจากเฟซบุ๊กมีดังนี้

ขอแจ้งให้รัฐบาลทราบโดยด่วน วันอังคารที่ 28 ก.ค.58 ชาวบ้านหนองจานที่เดือดร้อนจากการถูกทหารและชาวบ้านกัมพูชาบุกรุกเข้ามาแย่งที่ดินทำกิน บริเวณหลักเขตแดนที่ 46 -48 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ชาวบ้านที่เคยเดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายกฯพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.58 (เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว) แต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใดทั้งสิ้น ความจริงในรัฐบาลนี้ชาวบ้านหนองจานที่เดือดร้อนได้เคยยื่นเรื่องต่อรัฐบาลผ่าน ศูนย์ดำรงธรรมของ จ.สระแก้ว และยื่นผ่านกองกำลังบูรพาถึงหัวหน้า คสช. ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.2557 (หลักฐานตามภาพที่ส่งมานี้) เป็นเวลาเกือบหนึ่งปี ที่ชาวบ้านได้อดทนรอการช่วยเหลือจากรัฐบาลนี้

ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้แจ้งกับผมว่า พวกเขาหมดความอดทนแล้วเมื่อไม่มีรัฐบาลใดให้ความสนใจที่จะช่วยเหลือชาวบ้านจะรวมตัวกันเดินทางมาพบนายกฯประยุทธเป็นครั้งสุดท้าย ในวันอังคารที่ 28 ก.ค.นี้ ถ้านายกฯประยุทธยังมองไม่เห็นถึงความเสียหายที่เกิดจากการเสียอธิปไตยให้แก่กัมพูชา และยังปล่อยให้ชาวบ้านจำนวนนับร้อยกว่าชีวิตต้องทนรับชะตากรรมตามลำพัง มีชาวบ้านที่เดือดร้อนบางคนประกาศว่าถ้ามาครั้งนี้แล้ว นายกฯยังไม่ช่วยเขาจะไม่กลับบ้านจะไม่ได้กลับไปทำบุญเข้าพรรษาเหมือนคนไทยทั่วไป เขาจะวิ่งลงถนนให้รถชนตายมันหน้าทำเนียบนั่นแหละ ให้เป็นข่าวดังไปทั่วโลกว่าชาวบ้านคนไทยจนๆที่อยู่ติดชายแดน ซึ่งถูกชาวกัมพูชาเข้ามาบุกรุกแย่งที่ดินทำกิน

รัฐบาลไทยนอกจากจะไม่มีความสามารถขับไล่ผู้บุกรุกให้ออกจากแผ่นดินไทยแล้ว ก็ยังไม่มีความจริงใจในการให้ความช่วยเหลือตามสมควร ชาวบ้านต้องแบกรับความทุกข์ยากมานานนับสิบปี แต่กลับไม่มีรัฐบาลใดสนใจที่จะช่วยเหลือ จนชาวบ้านทนต่อไปอีกไม่ไหว ต้องทำการฆ่าตัวตายหน้าทำเนียบรัฐบาล ดังนั้น เหลือเวลาอีกเพียง 2 วัน รัฐบาลจะเลือกวิธีใด 1.รีบช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่เดือดร้อนทันทีซึ่งทำได้ไม่ยากอะไรเลย หรือ 2. ปล่อยให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนเสียหายจากกรณีดังกล่าว ต้องอดทนอยู่ด้วยความเดือดร้อน ทุกข์ยากลำบากและความคับแค้นในจิตใจต่อไป

หากมีชาวบ้านคนใดที่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างอดสูใจได้อีกต่อไป แล้วเขาเลือกการฆ่าตัวตายเพื่อให้หลุดพ้นจากความคับแค้นใจ ก็ปล่อยให้เขาตายไป(เช่นนั้นหรือ?) ในสามัญสำนึกของบรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลายคงเห็นชีวิตและความตายของชาวบ้านจนๆ มีค่าและมีความสำคัญน้อยกว่าตำแหน่งและผลประโยชน์ความสุขความสบายที่ท่านทั้งหลายกำลังหลงติดอยู่ในขณะนี้ใช่หรือไม่? อย่าลืมนะทุกข์ของคนจนผู้ทุกข์ยากก็คือทุกข์ของแผ่นดิน ถ้าผู้มีอำนาจยังเลือกเอาแต่รักษาผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง มากกว่าการปกป้องรักษาผลประโยชน์ให้แก่ชาติและประชาชน น้ำตาและเลือดของชาวบ้านที่คับแค้นและทุกข์ทนมาเป็นเวลานาน คงได้นองแผ่นดินไทยหน้าทำเนียบรัฐบาล

ส่วนวันที่ 23 มิ.ย.58 กลุ่มเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น นำโดยนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายฯ ได้นำราษฎรจากบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ศูนย์บริการประชาชน ภายในสำนักงาน ก.พ. เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐผู้รับผิดชอบปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของราษฎร ที่ไม่สามารถอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินได้ เนื่องจากกรณีทหารกัมพูชาเข้ายึดครองพื้นที่ในเขตแดนไทย โดยมีนายพีระ ทองโพธิ์ ผอ.ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เป็นตัวแทนรัฐบาลรับเรื่อง

นายวีระ กล่าวว่า ชาวบ้านหนองจาน ได้มาร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากตน ตนจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบเมื่อวันที่ 17-19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการตรวจสอบจากชาวบ้าน ทำให้เชื่อได้ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่หลายหน่วยงานเข้าข่ายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐบาลและประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้เคยยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งการที่พวกตนออกมาเรียกร้อง ยังทำให้ถูกคุกคามและกดดันอย่างหนัก จากผู้ปกครองส่วนภูมิภาคและฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าที่ดินจุดเกิดเหตุที่คนไทยถูกทางการกัมพูชาจับกุมนั้น เป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ จึงขอความเป็นธรรมจากนายกฯ และรัฐบาลช่วยชดเชยความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน และเป็นการปกป้องอธิปไตยของประเทศอีกด้วย.