ASTVผู้จัดการรายวัน - ผบ.ตร.ไม่ชี้ชัดกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าทางมาเลเซียได้ควบคุม “ชายเสื้อเหลือง” มือวางระเบิดแยกราชประสงค์ และผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เหตุยังไม่มีการประสานงานและยืนยันจากทางมาเลเซีย แต่หากมีการจับกุมจริงต้องดำเนินตามกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้านโฆษก สตช. สอดรับยังไม่ฟันธง อยู่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ขณะที่ "ประวิตร" จี้ตร.ประสานมาเลเซียจับมือวางระเบิดราชประสงค์ ส่วน 2 นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง "เยิ่นต๊ะหัว-หมีเซี๊ยะ" กราบสักการะองค์ท้าวมหาพรหม เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดและกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองไทย
วานนี้ (22 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าว ถึงความคืบหน้าคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร กรณีที่มีการกล่าวอ้างทางมาเลเซียได้ควบคุมตัวชายเสื้อเหลืองได้ ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลดังกล่าว เพราะยังไม่ได้รับการประสานงานมา ขณะเดียวกันไม่กล้าที่จะยืนยันข้อมูลหรือข่าวสารเหล่านั้น แต่สามารถบอกสื่อมวลชนได้ว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทำหน้าที่ในทุกมิติ ครอบคลุมเพื่อให้ได้ผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้
"ในรายละเอียดตนไม่สามารถชี้แจงหรือยืนยันข้อมูลข่าวสารได้ ส่วนจะมีการควบคุมตัวชายเสื้อเหลืองไว้จริงหรือไม่ตนยังไม่ทราบในเรื่องนี้ และไม่ยืนยันว่ามีการควบคุมไว้หรือไม่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีข่าวออกมาขนาดนี้ได้มีการสอบถามไปทางมาเลเซียถึงความชัดเจนกับการควบคุมตัวใครหรือไม่อย่างไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า กรณีที่เป็นข่าวทางเราก็ดำเนินการตามหน้าที่ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทำทุกเรื่องเพื่อที่จะตอบคำถามข้อสงสัยนั้นออกไป แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันหรือบอกถึงความชัดเจนได้ ส่วนการส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานงานที่ประเทศมาเลเซียนั้นยังไม่มีการส่งใครไป ยืนยันไม่มีตำรวจสันติบาลไทยอยู่ที่ประเทศมาเลเซียเพื่อประสานงาน เพราะการจะส่งเจ้าหน้าที่คนใดหรือหน่วยงานใดเข้าไปต้องมีการร้องขอ
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับ ผบ.ตร.มาเลเซียหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า มีการคุยในภาพรวมหลายวันมาแล้ว เรากับมาเลเซียจะทำงานร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารสนับสนุนภารกิจ ในการแก้ปัญหาทุกเรื่องที่มีความเชื่อมโยง ทั้งที่ทางไทยและมาเลเซียมีผลประโยชน์ต่อกัน ส่วนข้อมูลที่ตำรวจมีสำหรับชายเสื้อเหลืองถือว่าเป็นสัญญาณดีที่จะสามารถได้ตัวคนร้ายหรือไม่นั้น หากเป็นอย่างนั้นก็เป็นสัญญาณที่ดีแต่ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นอะไร อย่างไร จนกว่าจะมีการประสานงานอย่างชัดเจนจึงจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนได้
สำหรับประเด็นที่ปรากฏตามข่าวผู้ต้องสงสัยสารภาพว่าเป็นชายเสื้อเหลือง หากใช่จริงๆ จะมีการทำตามกระบวนการตามกฎหมายอย่างไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบเพราะว่ายังไม่ได้ยินเรื่องนี้ และหากเป็นเช่นนั้นจริงจะมีการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายหรือไม่นั้น ต้องสอบถามไปก่อนว่าควบคุมตัวและดำเนินคดีต่อผู้ต้องสงสัยนั้นดำเนินคดีในข้อหาอะไร และหากคนคนนั้นเป็นผู้ต้องหาจริง เราก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนตามช่องทางที่ถูกต้อง เมื่อถามว่าจากแนวทางการสืบสวนชายเสื้อเหลืองยังอยู่ในมาเลเซียหรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า ยังไม่ทราบ ไม่ยืนยัน
โฆษก ตร.ไม่ยืนยันมาเลย์รวบชายเสื้อเหลืองมือบึ้มราชประสงค์
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าจากกรณีที่สื่อบางสำนักนำเสนอภาพผู้ต้องหาที่คาดจะเป็นชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดนั้น ตนเห็นภาพแล้ว โดยส่วนตัวมองว่าไม่เหมือนชายในภาพวงจรปิด และในภาพสเกตช์ โดยในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันอะไรได้ รวมถึงกรณีที่มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ประเทศมาเลเซียก็ยังไม่ทราบว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีการวางระเบิดหรือไม่ จึงต้องรอการยืนยันที่ชัดเจนจากการประสานมาของประเทศมาเลเซียก่อน ขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้ประสานขอรูปผู้ต้องหาเพื่อยืนยันตัวบุคคลกับทางมาเลเซียแต่อย่างใด ขณะที่กระแสข่าวที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.เดินทางไปประสานติดตามคดีที่มาเลเซียนั้น ในส่วนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเดินทางไปจริงหรือไม่ หากมีการประสานจริงก็อาจจะเป็นการประสานในส่วนของผู้บังคับบัญชาระดับสูง
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า สำหรับการขอศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มเติม ยังไม่ทราบว่าจะสามารถออกได้เมื่อไหร่ ยังอยู่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอยู่ ส่วนการตรวจสอบหนังสือเดินทางของนายเมียไรลี ยูซูฟู และนายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรือนายอิซาน สัญชาติจีน กับทางสถานทูตจีนนั้นอยู่ในระหว่างที่ดำเนินการ ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนมีความชัดเจนแล้วว่าชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดได้หลบหนีไปทางภาคใต้ของไทย แต่ไม่ทราบว่ายังอยู่ในพื้นที่หรือเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
***"ประวิตร" จี้สตช. ประสานมาเลย์จับมือบึ้ม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงกรณีที่ประเทศมาเลเซีย ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชายเสื้อเหลืองที่ปรากฏในคลิปเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ ว่า ไม่รู้ ตนไม่ทราบ ให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปประสานงาน ตนจะบอกได้ไง เดี๋ยวบอกไม่ถูก ก็มาว่าตนอีก ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานดีกว่า จับได้หรือยัง ก็ไม่รู้ จับใครได้ก็ไม่รู้
เมื่อถามว่า ข่าวที่ออกมา มาจากตำรวจมาเลเซีย ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ อย่าถามเลย ถามเหมือนตนเป็นตำรวจมาเลเซีย เขาไปสืบสวนอย่างไร ไม่รู้ เดี๋ยวให้ตำรวจไทยไปคุยกับเขาก่อน เมื่อถามว่า หากมีการจับตัวได้จริงๆ การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนสามารถทำได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทำได้
*** "เยิ่น ต๊ะหัว" สักการะพระพรหมเอราวัณ
ขณะเดียวกัน วานนี้ (22 ก.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น. เยิ่นต๊ะหัว ดารานักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงได้เดินทางมาเมืองไทย เพื่อสักการะพระพรหมเอราวัณ ที่สี่แยกราชประสงค์โดยเฉพาะ หวังช่วยให้กำลังใจชาวไทย และเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนให้กลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดราชประสงค์ โดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การต้อนรับ พร้อมสื่อมวลชนร่วมทำข่าวมากมาย
เยิ่นต๊ะหัว วัย 60 ปี เป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่คว้ารางวัลด้านการแสดงระดับนานาชาติมามากมาย นอกจากนั้นก็ยังเคยเดินทางเข้ามาถ่ายทำหนังในเมืองไทยหลายครั้ง และออกปากเสมอว่าชื่นชอบเมืองไทยมาก ถึงขั้นที่เคยร่วมแสดงในหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการ ทศพิธธรรมราชา บอกรัก และเคารพในหลวง โดยไม่คิดค่าตัวมาแล้ว
"หมีเซียะ"แต่งชุดนางรำสักการะท้าวมหาพรหม
ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. หมีเซียะ นักแสดงชาวฮ่องกงแต่งชุดนางรำเข้าสักการะท้าวมหาพรหมที่สี่แยกราชประสงค์ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การต้อนรับและร่วมสักการะด้วย เพื่อไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดที่ผ่านมา และเป็นการฟื้นฟูภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงกลับมาท่องเที่ยวในเมืองไทย
โดยหมี่เซียะได้ใช้เวลารำหน้าศาลท้าวมหาพรหมประมาณ 10 นาที ท่ามกลางประชาชนที่ชื่นชอบจำนวนมาก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยประมาณ 30 คน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อารักขาอย่างเข้มงวด ด้วยการนำแผงเหล็กมากันพื้นที่ไว้ พร้อมวางกำลังประจำจุด กั้นเป็นแนวตลอดการเดินเท้าจากโรงแรมมาจนถึงบริเวณศาลท้าวมหาพรหม ขณะที่บรรดาแฟนคลับต่างส่งเสียงทักทายหมี่เซียะทั้งภาษาไทย และภาษาจีน ต่างพยาพยามเข้าใกล้หมี่เซียะให้ใกล้ที่สุด
ทั้งนี้ หมี่เซียะได้ยกหมี่ไหว้พร้อมยิ้มทักทายบรรดาแฟนคลับ สร้างความประทับใจให้กับบรรดาแฟนคลับเป็นอย่างมาก สำหรับการร่วมรำถวายพระพรหมของหมี่เซียะต่างได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบว่า มีท่วงท่าการรำที่อ่อนช้อยงดงามเป็นอย่างมาก
วานนี้ (22 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าว ถึงความคืบหน้าคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร กรณีที่มีการกล่าวอ้างทางมาเลเซียได้ควบคุมตัวชายเสื้อเหลืองได้ ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลดังกล่าว เพราะยังไม่ได้รับการประสานงานมา ขณะเดียวกันไม่กล้าที่จะยืนยันข้อมูลหรือข่าวสารเหล่านั้น แต่สามารถบอกสื่อมวลชนได้ว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทำหน้าที่ในทุกมิติ ครอบคลุมเพื่อให้ได้ผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้
"ในรายละเอียดตนไม่สามารถชี้แจงหรือยืนยันข้อมูลข่าวสารได้ ส่วนจะมีการควบคุมตัวชายเสื้อเหลืองไว้จริงหรือไม่ตนยังไม่ทราบในเรื่องนี้ และไม่ยืนยันว่ามีการควบคุมไว้หรือไม่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีข่าวออกมาขนาดนี้ได้มีการสอบถามไปทางมาเลเซียถึงความชัดเจนกับการควบคุมตัวใครหรือไม่อย่างไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า กรณีที่เป็นข่าวทางเราก็ดำเนินการตามหน้าที่ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทำทุกเรื่องเพื่อที่จะตอบคำถามข้อสงสัยนั้นออกไป แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันหรือบอกถึงความชัดเจนได้ ส่วนการส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานงานที่ประเทศมาเลเซียนั้นยังไม่มีการส่งใครไป ยืนยันไม่มีตำรวจสันติบาลไทยอยู่ที่ประเทศมาเลเซียเพื่อประสานงาน เพราะการจะส่งเจ้าหน้าที่คนใดหรือหน่วยงานใดเข้าไปต้องมีการร้องขอ
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับ ผบ.ตร.มาเลเซียหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า มีการคุยในภาพรวมหลายวันมาแล้ว เรากับมาเลเซียจะทำงานร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารสนับสนุนภารกิจ ในการแก้ปัญหาทุกเรื่องที่มีความเชื่อมโยง ทั้งที่ทางไทยและมาเลเซียมีผลประโยชน์ต่อกัน ส่วนข้อมูลที่ตำรวจมีสำหรับชายเสื้อเหลืองถือว่าเป็นสัญญาณดีที่จะสามารถได้ตัวคนร้ายหรือไม่นั้น หากเป็นอย่างนั้นก็เป็นสัญญาณที่ดีแต่ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นอะไร อย่างไร จนกว่าจะมีการประสานงานอย่างชัดเจนจึงจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนได้
สำหรับประเด็นที่ปรากฏตามข่าวผู้ต้องสงสัยสารภาพว่าเป็นชายเสื้อเหลือง หากใช่จริงๆ จะมีการทำตามกระบวนการตามกฎหมายอย่างไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบเพราะว่ายังไม่ได้ยินเรื่องนี้ และหากเป็นเช่นนั้นจริงจะมีการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายหรือไม่นั้น ต้องสอบถามไปก่อนว่าควบคุมตัวและดำเนินคดีต่อผู้ต้องสงสัยนั้นดำเนินคดีในข้อหาอะไร และหากคนคนนั้นเป็นผู้ต้องหาจริง เราก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนตามช่องทางที่ถูกต้อง เมื่อถามว่าจากแนวทางการสืบสวนชายเสื้อเหลืองยังอยู่ในมาเลเซียหรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า ยังไม่ทราบ ไม่ยืนยัน
โฆษก ตร.ไม่ยืนยันมาเลย์รวบชายเสื้อเหลืองมือบึ้มราชประสงค์
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าจากกรณีที่สื่อบางสำนักนำเสนอภาพผู้ต้องหาที่คาดจะเป็นชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดนั้น ตนเห็นภาพแล้ว โดยส่วนตัวมองว่าไม่เหมือนชายในภาพวงจรปิด และในภาพสเกตช์ โดยในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันอะไรได้ รวมถึงกรณีที่มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ประเทศมาเลเซียก็ยังไม่ทราบว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีการวางระเบิดหรือไม่ จึงต้องรอการยืนยันที่ชัดเจนจากการประสานมาของประเทศมาเลเซียก่อน ขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้ประสานขอรูปผู้ต้องหาเพื่อยืนยันตัวบุคคลกับทางมาเลเซียแต่อย่างใด ขณะที่กระแสข่าวที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.เดินทางไปประสานติดตามคดีที่มาเลเซียนั้น ในส่วนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเดินทางไปจริงหรือไม่ หากมีการประสานจริงก็อาจจะเป็นการประสานในส่วนของผู้บังคับบัญชาระดับสูง
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า สำหรับการขอศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มเติม ยังไม่ทราบว่าจะสามารถออกได้เมื่อไหร่ ยังอยู่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอยู่ ส่วนการตรวจสอบหนังสือเดินทางของนายเมียไรลี ยูซูฟู และนายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรือนายอิซาน สัญชาติจีน กับทางสถานทูตจีนนั้นอยู่ในระหว่างที่ดำเนินการ ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนมีความชัดเจนแล้วว่าชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดได้หลบหนีไปทางภาคใต้ของไทย แต่ไม่ทราบว่ายังอยู่ในพื้นที่หรือเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
***"ประวิตร" จี้สตช. ประสานมาเลย์จับมือบึ้ม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงกรณีที่ประเทศมาเลเซีย ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชายเสื้อเหลืองที่ปรากฏในคลิปเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ ว่า ไม่รู้ ตนไม่ทราบ ให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปประสานงาน ตนจะบอกได้ไง เดี๋ยวบอกไม่ถูก ก็มาว่าตนอีก ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานดีกว่า จับได้หรือยัง ก็ไม่รู้ จับใครได้ก็ไม่รู้
เมื่อถามว่า ข่าวที่ออกมา มาจากตำรวจมาเลเซีย ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ อย่าถามเลย ถามเหมือนตนเป็นตำรวจมาเลเซีย เขาไปสืบสวนอย่างไร ไม่รู้ เดี๋ยวให้ตำรวจไทยไปคุยกับเขาก่อน เมื่อถามว่า หากมีการจับตัวได้จริงๆ การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนสามารถทำได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทำได้
*** "เยิ่น ต๊ะหัว" สักการะพระพรหมเอราวัณ
ขณะเดียวกัน วานนี้ (22 ก.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น. เยิ่นต๊ะหัว ดารานักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงได้เดินทางมาเมืองไทย เพื่อสักการะพระพรหมเอราวัณ ที่สี่แยกราชประสงค์โดยเฉพาะ หวังช่วยให้กำลังใจชาวไทย และเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนให้กลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดราชประสงค์ โดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การต้อนรับ พร้อมสื่อมวลชนร่วมทำข่าวมากมาย
เยิ่นต๊ะหัว วัย 60 ปี เป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่คว้ารางวัลด้านการแสดงระดับนานาชาติมามากมาย นอกจากนั้นก็ยังเคยเดินทางเข้ามาถ่ายทำหนังในเมืองไทยหลายครั้ง และออกปากเสมอว่าชื่นชอบเมืองไทยมาก ถึงขั้นที่เคยร่วมแสดงในหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการ ทศพิธธรรมราชา บอกรัก และเคารพในหลวง โดยไม่คิดค่าตัวมาแล้ว
"หมีเซียะ"แต่งชุดนางรำสักการะท้าวมหาพรหม
ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. หมีเซียะ นักแสดงชาวฮ่องกงแต่งชุดนางรำเข้าสักการะท้าวมหาพรหมที่สี่แยกราชประสงค์ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การต้อนรับและร่วมสักการะด้วย เพื่อไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดที่ผ่านมา และเป็นการฟื้นฟูภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงกลับมาท่องเที่ยวในเมืองไทย
โดยหมี่เซียะได้ใช้เวลารำหน้าศาลท้าวมหาพรหมประมาณ 10 นาที ท่ามกลางประชาชนที่ชื่นชอบจำนวนมาก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยประมาณ 30 คน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อารักขาอย่างเข้มงวด ด้วยการนำแผงเหล็กมากันพื้นที่ไว้ พร้อมวางกำลังประจำจุด กั้นเป็นแนวตลอดการเดินเท้าจากโรงแรมมาจนถึงบริเวณศาลท้าวมหาพรหม ขณะที่บรรดาแฟนคลับต่างส่งเสียงทักทายหมี่เซียะทั้งภาษาไทย และภาษาจีน ต่างพยาพยามเข้าใกล้หมี่เซียะให้ใกล้ที่สุด
ทั้งนี้ หมี่เซียะได้ยกหมี่ไหว้พร้อมยิ้มทักทายบรรดาแฟนคลับ สร้างความประทับใจให้กับบรรดาแฟนคลับเป็นอย่างมาก สำหรับการร่วมรำถวายพระพรหมของหมี่เซียะต่างได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบว่า มีท่วงท่าการรำที่อ่อนช้อยงดงามเป็นอย่างมาก