ผู้การ191 ยอมรับ "ตั๊น จิตภัสร์" จะเดินทางไปยื่นเรื่องถอนชื่อออกจากการเสนอเข้ารับราชการตำรวจออกในวันนี้ (21 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังเกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักจากข้าราชการตำรวจที่จะมีการระดมผูกริบบิ้นสีดำที่วิทยุสื่อสาร เหตุเป็นอดีตแกนนำ กปปส.ที่ยืนด่าและทำลายตำรวจ
วานนี้ (20 ก.ย.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 (ผบก.สปพ.) เปิดเผยถึงกรณีน.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น เป็นข้าราชการตำรวจสังกัดว่า เบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นผู้เปิดรับสมัครบุคคลภายในเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรในสังกัดบช.น. ทางน.ส.จิตภัสร์ได้สมัครเข้ามาสู่ขั้นตอนการคัดเลือกโดยได้มีการสอบสัมภาษณ์พร้อมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว มีการเสนอชื่อไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นผู้พิจารณา เมื่ออนุมัติก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนติดยศให้เป็น ส.ต.ต.ก่อน เมื่อผ่านการอบรมตำรวจชั้นสัญญาบัตรประมาณ 4-6 เดือน แล้วจึงจะสามารถเข้าบรรจุในตำแหน่งรองสว.ฝ่ายอำนวยการ บก.สปพ. ได้
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า ตนไม่มีอำนาจในการพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากต้องต้องเป็นอำนาจของบช.น.เสนอมาที่บก.สปพ. โดยได้รับความเป็นเห็นชอบจากทางตร.อนุมัติ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ น.ส.จิตภัสร์ เข้ามาสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะบก.สปพ.ต้องการเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษมาทำงานร่วมกัน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึง ทั้งนี้ น่าเสียดายที่ทราบข่าวว่าน.ส.จิตภัสร์จะไปยื่นเรื่องถอนชื่อออกจากการเสนอเข้ารับราชการตำรวจออกในวันนี้ (21 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีกระแสต่อต้านกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรับน.ส.จิตภัสร์บรรจุเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ โดยมีการระดมผูกริบบิ้นสีดำที่วิทยุสื่อสาร เสาอากาศรถยนต์ และกระจกมองข้างรถยนต์
***ก่อหวอดนัด “ผูกริบบิ้นดำ” เสาวิทยุค้าน
จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก “Thailand Police Story” ได้เผยแพร่รายชื่อ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์เป็นรอง สว.ฝอ.สปพ.191 ตามคุณสมบัติมีวุฒิปริญญาโททางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ หรือการปกครอง และมีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ โดยระบุว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังประมวลผลดำเนินการรับ น.ส.จิตภัสร์ (ตั๊น) กฤดากร เข้าเป็นตำรวจ โดยจะดำรงตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยศร้อยตำรวจตรี โดยจะเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณา โดยให้เหตุผลว่ามีความรู้ด้านประสานงานต่างประเทศ
จากกระแสข่าวดังกล่าวทำให้ตั้งแต่ช่วงเช้า มีนายตำรวจบางส่วนออกมาแสดงความไม่พอใจต่อกรณีดังกล่าว อย่างเช่นเฟซบุ๊กเพจ ตำรวจไทย สู้ๆ ได้ออกมาคัดค้านต่อกรณีดังกล่าวโดยโพสต์ภาพเหตุการณ์เมื่อปี 2557 ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ซึ่งมีการทุบทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยข้อความบนภาพระบุว่า “ตำรวจทั่วประเทศน้ำตาคลอ เมื่อเห็นป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกทำลาย” ระบุว่า “ทำถูกต้อง หรือทำถูกใจ”
“ตามที่ทุกคนได้ยินข่าวมาว่า ทาง ตร. กำลังดำเนินการรับอดีตแกนนำ กปปส.คนหนึ่งมาเป็นตำรวจ “ยศ ร.ต.ต.หญิง” โดยให้เหตุผลว่ามีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ เนื่องจาก บช.น.ต้องการบุคลากรมาปฏิบัติหน้าที่ด้านประสานงานต่างประเทศ
อืม!!...เห็นข่าวนี้แล้วเศร้าใจจริงๆ ตำรวจบางคนก่อนจะมาเป็นนายตำรวจได้ “เลือดตาแทบกระเด็น” ก่อนจะเรียนจบนิติศาสตร์ ก่อนจะจบเนติบัณฑิต ก่อนจะสอบติดตำรวจชั้นประทวน และก่อนจะสอบติดนายร้อยตำรวจ อ่านหนังสือจนปวดหัว จนจะเป็นบ้า ปากกัดตีนถีบ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นตำรวจ....“พูดง่ายๆ นั่งขี้ยังอ่านหนังสือ”
และนี้อะไรครับ!! จะรับคนเข้ามาเป็นตำรวจ โดยให้เหตุผลเพียงเท่านี้รึ....
ตร.ลืมไปแล้วหรือไม่ ยังมีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ แล้วพิการ จนถึงขั้นเสียชีวิต ครอบครัวเขาเดือดร้อน ยังนอนรอความช่วยเหลืออีกมาก แต่ไม่ได้รับความใส่ใจจาก ตร.เลยสักนิด หรือแม้แต่ตำรวจชั้นประทวนเรา ที่จบ ป.ตรี ป.โท ป.เอก เป็นหมื่นๆ เป็นแสน ไม่ปรับให้เขาเป็นนายตำรวจ กลับไปรับคนนอกที่เคยยืนด่าตำรวจบนเวทีมาเป็น และเด็กตาดำๆ ลูกคนยากคนจน ที่อยากจะเป็นตำรวจล่ะครับ อยากมีอาชีพที่มั่นคง เพื่อจะมีเงินเดือนไปเลี้ยงดู พ่อแม่เขา คุณไม่เห็นคุณค่าของเขารึ
“คุณจะให้คำตอบกับบุคคลเหล่านี้ ว่าอย่างไร?”
อ้างแต่เพียงว่ามีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ จบสูง จบจากต่างประเทศ... และทำไมไม่ให้สอบเข้ามาล่ะครับ ว่าความรู้ของเธอเหมาะสมที่จะเป็นตำรวจหรือไม่?? คุณรู้เปล่าว่า ทำแบบนี้เหมือนการฆ่าตำรวจด้วยกันเอง
“รับคนที่ทำลายตำรวจ มาเป็นตำรวจ”
นอกจากจะเรียกศรัทธาจากลูกน้องไม่ได้แล้ว ยังทำให้ศรัทธาแย่ลงกว่าเดิมอีก” นอกจากนี้ ผู้ดูแลเพจดังกล่าวยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า “พูดตามตรงน่ะครับ เงินเดือนตำรวจยังไม่พอค่าน้ำมันรถเธอเลย และเธอจะมาเป็นทำไม มีจุดประสงค์อะไร น่าคิดไหม” พร้อมกับรณรงค์ให้ตำรวจและผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการรับ น.ส.จิตภัสร์เข้ารับราชการ ผูกริบบิ้นสีดำที่เสาวิทยุสื่อสารต่างๆ
“แสดงจุดยืน” ไม่เห็นด้วยกับการรับบุคคลที่ทำลายตำรวจเข้ามาเป็นตำรวจ ด้วยการ #ผูกริบบิ้นสีดำ ที่เสาวิทยุสื่อสาร เสาวิทยุติดรถยนต์ หรือกระจกมองข้างรถยนต์ จักรยานยนต์ของคุณ
ทั้งนี้ หลังจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลุ่ม กปปส.และแนวร่วมได้เลิกการชุมนุม น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร (ภิรมย์ภักดี) ดำรงตำแหน่งรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โดยจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาภูมิศาสตร์ จากคิงส์คอลเลจ ประเทศอังกฤษ และปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
**** “บิ๊กอ๊อด” แจงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมบรรจุ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร เป็นรองสารวัตรสังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) โดยติดยศร้อยตำรวจตรีว่า ขอชี้แจงว่ากระบวนการบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้าเป็นข้าราชการตำรวจตามคุณวุฒิขาดแคลนนั้น หน่วยงานต้นสังกัดจะต้องนำเสนอความต้องการที่จะบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกที่มีคุณวุฒิความรู้ความสามารถพิเศษตรงตามความต้องการของหน่วยงาน ในสาขาวิชาต่างๆ ตามที่แต่ละหน่วยงานมีความต้องการ โดยเสนอขออนุมัติหลักการมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการอนุมัติหลักการแล้ว แต่ละหน่วยงานมีหน้าไปดำเนินการคัดเลือกและสรรหาหาบุคคลที่มีความเหมาะสมบรรจุลงในตำแหน่งนั้นๆ ซึ่งในกรณีนี้เป็นหน้าที่ของ บก.สปพ.เป็นผู้รับผิดชอบในการคัดเลือกและสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและคุณวุฒิตามที่ต้องการมาบรรจุลงในตำแหน่งดังกล่าว โดยเสนอผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อขออนุมัติ และขอความเห็นชอบจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า กรณีนี้ได้รับรายงานว่าอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาและตรวจสอบข้อมูลประวัติ รวมทั้งคุณสมบัติของผู้สมัครเท่านั้น ยังไม่เป็นข้อยุติว่าจะบรรจุแต่งตั้งใครหรือไม่อย่างไร จะต้องรอผลการตรวจสอบคุณบัติต่างๆ ก่อน ถ้าหากบุคคลเหล่านั้นมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับและกฏหมายก็ไม่สามารถที่จะบรรจุแต่งตั้งบุคคลเหล่านั้นได้ อีกทั้งหากผ่านการพิจารณาของหน่วยงานเหล่านั้นแล้วก็ยังต้องเสนอขออนุมัติขอความเห็นชอบจาก ตร.อีกด้วย ซึ่ง ตร.โดยสำนักงานกำลังพล (สกพ.) จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยยึดหลักความถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายอีกชั้นหนึ่ง
“ผมในฐานะ ผบ.ตร.ขอยืนยันกับเพื่อนข้าราชการตำรวจว่าจะใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบโดยยึดหลักของความถูกต้อง ระเบียบข้อบังคับ ตลอดจนกฎหมายเป็นสำคัญ ทั้งให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน” ผบ.ตร.ระบุ
ก่อนหน้านี้ในโลกสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่รายชื่อ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์เป็นรอง สว.ฝอ.สปพ.191 ตามคุณสมบัติ มีวุฒิปริญญาโททางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ หรือการปกครอง และมีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ
โดยระบุว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังประมวลผลดำเนินการรับ น.ส.จิตภัสร์ (ตั๊น) กฤดากร เข้าเป็นตำรวจ โดยจะดำรงตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยศร้อยตำรวจตรี โดยจะเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณา โดยให้เหตุผลว่ามีความรู้ด้านประสานงานต่างประเทศ.
วานนี้ (20 ก.ย.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 (ผบก.สปพ.) เปิดเผยถึงกรณีน.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น เป็นข้าราชการตำรวจสังกัดว่า เบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นผู้เปิดรับสมัครบุคคลภายในเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรในสังกัดบช.น. ทางน.ส.จิตภัสร์ได้สมัครเข้ามาสู่ขั้นตอนการคัดเลือกโดยได้มีการสอบสัมภาษณ์พร้อมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว มีการเสนอชื่อไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นผู้พิจารณา เมื่ออนุมัติก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนติดยศให้เป็น ส.ต.ต.ก่อน เมื่อผ่านการอบรมตำรวจชั้นสัญญาบัตรประมาณ 4-6 เดือน แล้วจึงจะสามารถเข้าบรรจุในตำแหน่งรองสว.ฝ่ายอำนวยการ บก.สปพ. ได้
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า ตนไม่มีอำนาจในการพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากต้องต้องเป็นอำนาจของบช.น.เสนอมาที่บก.สปพ. โดยได้รับความเป็นเห็นชอบจากทางตร.อนุมัติ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ น.ส.จิตภัสร์ เข้ามาสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะบก.สปพ.ต้องการเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษมาทำงานร่วมกัน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึง ทั้งนี้ น่าเสียดายที่ทราบข่าวว่าน.ส.จิตภัสร์จะไปยื่นเรื่องถอนชื่อออกจากการเสนอเข้ารับราชการตำรวจออกในวันนี้ (21 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีกระแสต่อต้านกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรับน.ส.จิตภัสร์บรรจุเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ โดยมีการระดมผูกริบบิ้นสีดำที่วิทยุสื่อสาร เสาอากาศรถยนต์ และกระจกมองข้างรถยนต์
***ก่อหวอดนัด “ผูกริบบิ้นดำ” เสาวิทยุค้าน
จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก “Thailand Police Story” ได้เผยแพร่รายชื่อ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์เป็นรอง สว.ฝอ.สปพ.191 ตามคุณสมบัติมีวุฒิปริญญาโททางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ หรือการปกครอง และมีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ โดยระบุว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังประมวลผลดำเนินการรับ น.ส.จิตภัสร์ (ตั๊น) กฤดากร เข้าเป็นตำรวจ โดยจะดำรงตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยศร้อยตำรวจตรี โดยจะเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณา โดยให้เหตุผลว่ามีความรู้ด้านประสานงานต่างประเทศ
จากกระแสข่าวดังกล่าวทำให้ตั้งแต่ช่วงเช้า มีนายตำรวจบางส่วนออกมาแสดงความไม่พอใจต่อกรณีดังกล่าว อย่างเช่นเฟซบุ๊กเพจ ตำรวจไทย สู้ๆ ได้ออกมาคัดค้านต่อกรณีดังกล่าวโดยโพสต์ภาพเหตุการณ์เมื่อปี 2557 ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ซึ่งมีการทุบทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยข้อความบนภาพระบุว่า “ตำรวจทั่วประเทศน้ำตาคลอ เมื่อเห็นป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกทำลาย” ระบุว่า “ทำถูกต้อง หรือทำถูกใจ”
“ตามที่ทุกคนได้ยินข่าวมาว่า ทาง ตร. กำลังดำเนินการรับอดีตแกนนำ กปปส.คนหนึ่งมาเป็นตำรวจ “ยศ ร.ต.ต.หญิง” โดยให้เหตุผลว่ามีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ เนื่องจาก บช.น.ต้องการบุคลากรมาปฏิบัติหน้าที่ด้านประสานงานต่างประเทศ
อืม!!...เห็นข่าวนี้แล้วเศร้าใจจริงๆ ตำรวจบางคนก่อนจะมาเป็นนายตำรวจได้ “เลือดตาแทบกระเด็น” ก่อนจะเรียนจบนิติศาสตร์ ก่อนจะจบเนติบัณฑิต ก่อนจะสอบติดตำรวจชั้นประทวน และก่อนจะสอบติดนายร้อยตำรวจ อ่านหนังสือจนปวดหัว จนจะเป็นบ้า ปากกัดตีนถีบ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นตำรวจ....“พูดง่ายๆ นั่งขี้ยังอ่านหนังสือ”
และนี้อะไรครับ!! จะรับคนเข้ามาเป็นตำรวจ โดยให้เหตุผลเพียงเท่านี้รึ....
ตร.ลืมไปแล้วหรือไม่ ยังมีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ แล้วพิการ จนถึงขั้นเสียชีวิต ครอบครัวเขาเดือดร้อน ยังนอนรอความช่วยเหลืออีกมาก แต่ไม่ได้รับความใส่ใจจาก ตร.เลยสักนิด หรือแม้แต่ตำรวจชั้นประทวนเรา ที่จบ ป.ตรี ป.โท ป.เอก เป็นหมื่นๆ เป็นแสน ไม่ปรับให้เขาเป็นนายตำรวจ กลับไปรับคนนอกที่เคยยืนด่าตำรวจบนเวทีมาเป็น และเด็กตาดำๆ ลูกคนยากคนจน ที่อยากจะเป็นตำรวจล่ะครับ อยากมีอาชีพที่มั่นคง เพื่อจะมีเงินเดือนไปเลี้ยงดู พ่อแม่เขา คุณไม่เห็นคุณค่าของเขารึ
“คุณจะให้คำตอบกับบุคคลเหล่านี้ ว่าอย่างไร?”
อ้างแต่เพียงว่ามีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ จบสูง จบจากต่างประเทศ... และทำไมไม่ให้สอบเข้ามาล่ะครับ ว่าความรู้ของเธอเหมาะสมที่จะเป็นตำรวจหรือไม่?? คุณรู้เปล่าว่า ทำแบบนี้เหมือนการฆ่าตำรวจด้วยกันเอง
“รับคนที่ทำลายตำรวจ มาเป็นตำรวจ”
นอกจากจะเรียกศรัทธาจากลูกน้องไม่ได้แล้ว ยังทำให้ศรัทธาแย่ลงกว่าเดิมอีก” นอกจากนี้ ผู้ดูแลเพจดังกล่าวยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า “พูดตามตรงน่ะครับ เงินเดือนตำรวจยังไม่พอค่าน้ำมันรถเธอเลย และเธอจะมาเป็นทำไม มีจุดประสงค์อะไร น่าคิดไหม” พร้อมกับรณรงค์ให้ตำรวจและผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการรับ น.ส.จิตภัสร์เข้ารับราชการ ผูกริบบิ้นสีดำที่เสาวิทยุสื่อสารต่างๆ
“แสดงจุดยืน” ไม่เห็นด้วยกับการรับบุคคลที่ทำลายตำรวจเข้ามาเป็นตำรวจ ด้วยการ #ผูกริบบิ้นสีดำ ที่เสาวิทยุสื่อสาร เสาวิทยุติดรถยนต์ หรือกระจกมองข้างรถยนต์ จักรยานยนต์ของคุณ
ทั้งนี้ หลังจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลุ่ม กปปส.และแนวร่วมได้เลิกการชุมนุม น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร (ภิรมย์ภักดี) ดำรงตำแหน่งรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โดยจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาภูมิศาสตร์ จากคิงส์คอลเลจ ประเทศอังกฤษ และปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
**** “บิ๊กอ๊อด” แจงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมบรรจุ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร เป็นรองสารวัตรสังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) โดยติดยศร้อยตำรวจตรีว่า ขอชี้แจงว่ากระบวนการบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้าเป็นข้าราชการตำรวจตามคุณวุฒิขาดแคลนนั้น หน่วยงานต้นสังกัดจะต้องนำเสนอความต้องการที่จะบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกที่มีคุณวุฒิความรู้ความสามารถพิเศษตรงตามความต้องการของหน่วยงาน ในสาขาวิชาต่างๆ ตามที่แต่ละหน่วยงานมีความต้องการ โดยเสนอขออนุมัติหลักการมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการอนุมัติหลักการแล้ว แต่ละหน่วยงานมีหน้าไปดำเนินการคัดเลือกและสรรหาหาบุคคลที่มีความเหมาะสมบรรจุลงในตำแหน่งนั้นๆ ซึ่งในกรณีนี้เป็นหน้าที่ของ บก.สปพ.เป็นผู้รับผิดชอบในการคัดเลือกและสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและคุณวุฒิตามที่ต้องการมาบรรจุลงในตำแหน่งดังกล่าว โดยเสนอผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อขออนุมัติ และขอความเห็นชอบจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า กรณีนี้ได้รับรายงานว่าอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาและตรวจสอบข้อมูลประวัติ รวมทั้งคุณสมบัติของผู้สมัครเท่านั้น ยังไม่เป็นข้อยุติว่าจะบรรจุแต่งตั้งใครหรือไม่อย่างไร จะต้องรอผลการตรวจสอบคุณบัติต่างๆ ก่อน ถ้าหากบุคคลเหล่านั้นมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับและกฏหมายก็ไม่สามารถที่จะบรรจุแต่งตั้งบุคคลเหล่านั้นได้ อีกทั้งหากผ่านการพิจารณาของหน่วยงานเหล่านั้นแล้วก็ยังต้องเสนอขออนุมัติขอความเห็นชอบจาก ตร.อีกด้วย ซึ่ง ตร.โดยสำนักงานกำลังพล (สกพ.) จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยยึดหลักความถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายอีกชั้นหนึ่ง
“ผมในฐานะ ผบ.ตร.ขอยืนยันกับเพื่อนข้าราชการตำรวจว่าจะใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบโดยยึดหลักของความถูกต้อง ระเบียบข้อบังคับ ตลอดจนกฎหมายเป็นสำคัญ ทั้งให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน” ผบ.ตร.ระบุ
ก่อนหน้านี้ในโลกสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่รายชื่อ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์เป็นรอง สว.ฝอ.สปพ.191 ตามคุณสมบัติ มีวุฒิปริญญาโททางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ หรือการปกครอง และมีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ
โดยระบุว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังประมวลผลดำเนินการรับ น.ส.จิตภัสร์ (ตั๊น) กฤดากร เข้าเป็นตำรวจ โดยจะดำรงตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยศร้อยตำรวจตรี โดยจะเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณา โดยให้เหตุผลว่ามีความรู้ด้านประสานงานต่างประเทศ.