ในหลวงโปรดเกล้าฯให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จ.ระยอง จันทบุรี ด้าน สนช.ลุยพื้นที่น้ำท่วมบางละมุง มอบเงิน 3 หมื่นบาทช่วยผู้ประสบภัย ชี้สิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ ต้นเหตุน้ำท่วม เตรียมเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาผังเมือง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดหน่วยสงเคราะห์เคลื่อนที่ ออกไปช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในท้องที่ จ.ระยอง และจ.จันทบุรี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ราษฎร ที่กำลังประสบความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้
โดยในวันจันทร์ที่ 21 ก.ย.58 ในท้องที่ จ.ระยอง เวลา 10.30 น. มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบให้ นายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ กรรมการบริหารและประธานฝ่ายบรรเทาทุกข์ และคณะจากส่วนกลาง พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดระยอง เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ราษฎร ที่ประสบอุทกภัย ณ บริษัท ไอ.อาร์.พี.ซี จำกัด ต.เชิงเนิน อ.เมืองฯ จ.ระยอง จำนวน 1,000 ครัวเรือน
จากนั้นเวลา 14.00 น. ในท้องที่ จ.จันทบุรี คณะมูลนิธิฯ จากส่วนกลาง พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดจันทบุรี เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ ศาลาการเปรียญวัดเนินกลาง ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จำนวน 600 ครัวเรือน
จากนั้น เวลา 16.30 น. เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ ศาลาการเปรียญวัดแตงเม ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จำนวน 940 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าสิ่งของพระราชทานทั้งสิ้น 1,509,370 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนเก้าพันสามร้อยเจ็ดสิบบาท)
ส่วนสภาพปัญหา และความเสียหายในท้องที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 17 ก.ย.58 เวลาประมาณ 09.40 น. เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.บ้านฉาง และอ.เขาชะเมา มีราษฎรที่ได้รับผลกระทบจำนวน 500 ครัวเรือน สะพานหิน ซอยเทศบาล 17 คอสะพานขาด ไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
สำหรับสภาพปัญหาและความเสียหายในท้องที่จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 15-18 ก.ย.58 เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมขังในพื้นที่ 7อำเภอ ได้แก่ อ.แก่งหางแมว อ.มะขาม อ.โป่งน้ำร้อน อ.ขลุง อ.เขาคิชฌกูฎ อ.ท่าใหม่ และอ.แหลมสิงห์ ถนนเสียหาย 3 สาย สะพานเสียหาย 2 แห่ง ฝายเสียหาย 1 แห่ง คอสะพานเสียหาย 1 แห่ง ปัจจุบันฝนหยุดตก ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ การเกษตรบางพื้นที่ หากไม่มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่ คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 - 3 วัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
**ทหารเร่งให้ความช่วยเหลือ
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทุกภัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. มอบหมายให้ตนลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ร่วมกับกรมบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย และในส่วนของจังหวัด ทั้งนี้เรื่องใดก็ตามที่มีผลกระทบของประชาชน จะถือว่าเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั้งสิ้น ขณะนี้ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว เพราะตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมาฝนเริ่มหยุดตก และพายุก็ได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศไทยไปยังประเทศเมียร์มาแล้ว แต่ว่าอาจจะมีผลกระทบหลงเหลือบ้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหาร จะให้ความช่วยเหลือต่อไปในพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่ภาคเหนืออาจจะยังมีฝนอยู่บ้าง ก็ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการเดินทาง และปัญหาดินโคลนถล่ม ส่วนด้านชายฝั่งทะเลนั้นก็ยังมีปัญหาคลื่นลมแรง ก็ต้องระมัดระวังต่อไป โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการแจ้งเตือน และประกาศให้ชาวประมงรับทราบในเรื่องการออกเดินเรือว่าต้องระมัดระวังด้วย
**สนช.เล็งแก้ปัญหาผังเมืองต้นเหตุน้ำท่วม
วานนี้ (20 ก.ย.) คณะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นำโดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่1 นายพีศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. คนที่ 2 ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยย้ำท่วมที่ หมู่บ้าทุ่งตะวันทอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีนายสมภพ วันดี ผอ.ส่วนบริหารจัดเการน้ำพัทยา ได้รายงานสถานการณ์ว่าพื้นที่ดังกล่าวท่วมมาเป็นเวลา 7 วันแล้ว และเริ่มลดลงแล้ว โดยสาเหตุน้ำท่วมเนื่องจากท่อระบายน้ำในหมู่บ้านไม่ได้เชื่อต่อกับภายนอก โดยมีสิ่งปลูกสร้างที่ขวางเส้นทางน้ำ
ทั้งนี้ คณะ สนช.ได้ขึ้นรถกระบะเข้าไปตรวจเยี่ยมภายในหมู่บ้านที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ โดยเฉพาะจุดที่น้ำไหลทะลักชนกำแพงหมู่บ้านแตก ส่งผลผลให้น้ำท่วมอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้คณะ สนช.ได้มอบเงินช่วยศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติกพัทยา มูลนิธิออติสติกไทยจำนวน 30,000 บาท จากนั้นคณะสนช.ได้เดินทางมามอบสิ่งของ เครื่องบริโภคอุปโภค และมอบเงินจำนวน 358.920 บาท ให้กับมูลนิธิคุณพ่อเรย์ บ้านเด็กพระมหาไถ่ พัทยา
นายสุรชัย กล่าวภายหลังการลงพื้นที่น้ำท่วมว่า ได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ซึ่งทางพื้นที่ได้ใช้เครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ผ่าระบบท่อออกไปถนนสุขุมวิท ซึ่งภายในวันนี้ระดับน้ำน่าจะลดลงมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตามตนได้กำชับให้มีการเร่งสูบน้ำให้แห้งเร็วที่สุด ส่วนความเสียหายทราบว่าทางจังหวัด ได้ประกาศหมู่บ้านนี้เป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติ ซึ่งจะได้รับงบประมาณเพื่อช่วยเหลือ ส่วน สนช.จะช่วยประสานงาน จัดงบประมาณมาซ่อมแซม สิ่งที่เสียหายให้กับชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า น้ำที่ท่วมเกิดจากปัญหาก่อสร้างบ้านขวางทางน้ำ จะมีการออกกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างไร นายสุรชัย กล่าวว่า จะมีการประสานไปยังคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวกับการจัดทำผังเมือง โดยมี คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี สมาชิก สนช.เป็นประธานโดยจะให้คณะกรรมาธิการชุดนี้ลงมาดูแล ซึ่งปัญหาการก่อสร้างขวางเส้นทางน้ำเป็นปัญหาเรื้อรังในประเทศไทยมานาน และไม่เพียงเฉพาะพื้นที่นี้เท่านนั้น แต่เกือบทุกจังหวัด ซึ่งภาพรวมของประเทศคงต้องประสานกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบเรื่องผังเมืองเพื่อให้เร่งรัดการจัดผังเมืองในแต่ละจังหวัดโดยเร็วที่สุด ในส่วนกฎหมายที่เกี่ยวกับผังเมืองหากเข้าสู่การพิจารณา สนช.จะเร่งการพิจารณาเสร็จให้ทัน สนช.ชุดนี้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชน ไม่เฉพาะเรื่องปัญหาน้ำท่วม แต่ยังมีเรื่องสิ่งแวดล้อมเข้าทั้งนี้การลงพื้นที่ของ สนช.ก็ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชนตลอดเวลาผ่านโครงการ สนช. พบประชาชนอยู่แล้ว.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดหน่วยสงเคราะห์เคลื่อนที่ ออกไปช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในท้องที่ จ.ระยอง และจ.จันทบุรี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ราษฎร ที่กำลังประสบความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้
โดยในวันจันทร์ที่ 21 ก.ย.58 ในท้องที่ จ.ระยอง เวลา 10.30 น. มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบให้ นายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ กรรมการบริหารและประธานฝ่ายบรรเทาทุกข์ และคณะจากส่วนกลาง พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดระยอง เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ราษฎร ที่ประสบอุทกภัย ณ บริษัท ไอ.อาร์.พี.ซี จำกัด ต.เชิงเนิน อ.เมืองฯ จ.ระยอง จำนวน 1,000 ครัวเรือน
จากนั้นเวลา 14.00 น. ในท้องที่ จ.จันทบุรี คณะมูลนิธิฯ จากส่วนกลาง พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดจันทบุรี เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ ศาลาการเปรียญวัดเนินกลาง ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จำนวน 600 ครัวเรือน
จากนั้น เวลา 16.30 น. เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ ศาลาการเปรียญวัดแตงเม ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จำนวน 940 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าสิ่งของพระราชทานทั้งสิ้น 1,509,370 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนเก้าพันสามร้อยเจ็ดสิบบาท)
ส่วนสภาพปัญหา และความเสียหายในท้องที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 17 ก.ย.58 เวลาประมาณ 09.40 น. เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.บ้านฉาง และอ.เขาชะเมา มีราษฎรที่ได้รับผลกระทบจำนวน 500 ครัวเรือน สะพานหิน ซอยเทศบาล 17 คอสะพานขาด ไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
สำหรับสภาพปัญหาและความเสียหายในท้องที่จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 15-18 ก.ย.58 เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมขังในพื้นที่ 7อำเภอ ได้แก่ อ.แก่งหางแมว อ.มะขาม อ.โป่งน้ำร้อน อ.ขลุง อ.เขาคิชฌกูฎ อ.ท่าใหม่ และอ.แหลมสิงห์ ถนนเสียหาย 3 สาย สะพานเสียหาย 2 แห่ง ฝายเสียหาย 1 แห่ง คอสะพานเสียหาย 1 แห่ง ปัจจุบันฝนหยุดตก ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ การเกษตรบางพื้นที่ หากไม่มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่ คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 - 3 วัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
**ทหารเร่งให้ความช่วยเหลือ
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทุกภัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. มอบหมายให้ตนลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ร่วมกับกรมบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย และในส่วนของจังหวัด ทั้งนี้เรื่องใดก็ตามที่มีผลกระทบของประชาชน จะถือว่าเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั้งสิ้น ขณะนี้ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว เพราะตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมาฝนเริ่มหยุดตก และพายุก็ได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศไทยไปยังประเทศเมียร์มาแล้ว แต่ว่าอาจจะมีผลกระทบหลงเหลือบ้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหาร จะให้ความช่วยเหลือต่อไปในพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่ภาคเหนืออาจจะยังมีฝนอยู่บ้าง ก็ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการเดินทาง และปัญหาดินโคลนถล่ม ส่วนด้านชายฝั่งทะเลนั้นก็ยังมีปัญหาคลื่นลมแรง ก็ต้องระมัดระวังต่อไป โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการแจ้งเตือน และประกาศให้ชาวประมงรับทราบในเรื่องการออกเดินเรือว่าต้องระมัดระวังด้วย
**สนช.เล็งแก้ปัญหาผังเมืองต้นเหตุน้ำท่วม
วานนี้ (20 ก.ย.) คณะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นำโดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่1 นายพีศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. คนที่ 2 ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยย้ำท่วมที่ หมู่บ้าทุ่งตะวันทอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีนายสมภพ วันดี ผอ.ส่วนบริหารจัดเการน้ำพัทยา ได้รายงานสถานการณ์ว่าพื้นที่ดังกล่าวท่วมมาเป็นเวลา 7 วันแล้ว และเริ่มลดลงแล้ว โดยสาเหตุน้ำท่วมเนื่องจากท่อระบายน้ำในหมู่บ้านไม่ได้เชื่อต่อกับภายนอก โดยมีสิ่งปลูกสร้างที่ขวางเส้นทางน้ำ
ทั้งนี้ คณะ สนช.ได้ขึ้นรถกระบะเข้าไปตรวจเยี่ยมภายในหมู่บ้านที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ โดยเฉพาะจุดที่น้ำไหลทะลักชนกำแพงหมู่บ้านแตก ส่งผลผลให้น้ำท่วมอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้คณะ สนช.ได้มอบเงินช่วยศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติกพัทยา มูลนิธิออติสติกไทยจำนวน 30,000 บาท จากนั้นคณะสนช.ได้เดินทางมามอบสิ่งของ เครื่องบริโภคอุปโภค และมอบเงินจำนวน 358.920 บาท ให้กับมูลนิธิคุณพ่อเรย์ บ้านเด็กพระมหาไถ่ พัทยา
นายสุรชัย กล่าวภายหลังการลงพื้นที่น้ำท่วมว่า ได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ซึ่งทางพื้นที่ได้ใช้เครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ผ่าระบบท่อออกไปถนนสุขุมวิท ซึ่งภายในวันนี้ระดับน้ำน่าจะลดลงมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตามตนได้กำชับให้มีการเร่งสูบน้ำให้แห้งเร็วที่สุด ส่วนความเสียหายทราบว่าทางจังหวัด ได้ประกาศหมู่บ้านนี้เป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติ ซึ่งจะได้รับงบประมาณเพื่อช่วยเหลือ ส่วน สนช.จะช่วยประสานงาน จัดงบประมาณมาซ่อมแซม สิ่งที่เสียหายให้กับชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า น้ำที่ท่วมเกิดจากปัญหาก่อสร้างบ้านขวางทางน้ำ จะมีการออกกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างไร นายสุรชัย กล่าวว่า จะมีการประสานไปยังคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวกับการจัดทำผังเมือง โดยมี คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี สมาชิก สนช.เป็นประธานโดยจะให้คณะกรรมาธิการชุดนี้ลงมาดูแล ซึ่งปัญหาการก่อสร้างขวางเส้นทางน้ำเป็นปัญหาเรื้อรังในประเทศไทยมานาน และไม่เพียงเฉพาะพื้นที่นี้เท่านนั้น แต่เกือบทุกจังหวัด ซึ่งภาพรวมของประเทศคงต้องประสานกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบเรื่องผังเมืองเพื่อให้เร่งรัดการจัดผังเมืองในแต่ละจังหวัดโดยเร็วที่สุด ในส่วนกฎหมายที่เกี่ยวกับผังเมืองหากเข้าสู่การพิจารณา สนช.จะเร่งการพิจารณาเสร็จให้ทัน สนช.ชุดนี้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชน ไม่เฉพาะเรื่องปัญหาน้ำท่วม แต่ยังมีเรื่องสิ่งแวดล้อมเข้าทั้งนี้การลงพื้นที่ของ สนช.ก็ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชนตลอดเวลาผ่านโครงการ สนช. พบประชาชนอยู่แล้ว.
