xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง!บิ๊กอ๊อดชี้บึ้มโยงกลุ่มเสียประโยชน์ เอี่ยวธุรกิจผิดกม.??? ปัด'ประวิตร'ไปจีนคุยเรื่องอุยกูร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการ - ผบ.ตร. เผยเหตุระเบิดแยกราชประสงค์-ท่าน้ำสาทร อาจมาจากกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์มหาศาลจากธุรกิจผิดกฎหมาย โดยว่าจ้างคนอื่นลงมือแทน ย้ำจัดการขั้นเด็ดขาดเจ้าหน้าที่ด่าน ตม.สระแก้ว หากพบรับผลประโยชน์ ขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับ “ไมไรลี ยูซูฟู” หนุ่มเชื้อชาติจีน ผู้ต้องสงสัยโยงแก๊งบึ้ม ด้านนายกฯ ยัน “ประวิตร” ไปจีน ไม่คุยเรื่องอุยกูร์ ต้องรอพิสูจน์สัญชาติก่อน ทูตตุรกีประจำไทยออกแถลงการณ์ รอข้อมูลมือบึ้ม พร้อมติงรัฐบาลต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน

วานนี้ (3 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าน้ำสาทร ว่าขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวเชื่อว่าการก่อเหตุรุนแรงเช่นนี้เริ่มมาจากความขัดแย้งหรือการเสียผลประโยชน์มหาศาลของกลุ่มคนที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย เหมือนกับคดีอาชญากรรมทั่วไปที่มักเกิดขึ้นจากความขัดแย้งเช่นเดียวกัน โดยตัวเขาเองอาจไม่ใช่เป็นผู้ลงมือเอง แต่อาจไปจัดหาคนมาลงมือก่อเหตุก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ ตนมองว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลมาจากการที่กลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ที่มีผลประโยชน์จำนวนมหาศาลอยู่แล้วถูกทำลายไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้ให้น้ำหนักประเด็นใดเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจมีกลุ่มอื่นที่ต้องการใช้สถานการณ์ความขัดแย้งนี้เพื่อลงมือก่อเหตุ โดยหวังให้เข้าใจไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความขัดแย้งประเด็นนี้ แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นเพราะอีกเหตุผลหนึ่งก็เป็นไปได้ อาจจะมีอะไรมากกว่านั้น อย่างไรก็ดีต้องมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป

พล.ต.อ.สมยศกล่าวถึงกรณีที่มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร.ว่า จากนี้ทางจเรตำรวจจะดำเนินการสอบสวนว่าตำรวจ ตม.ทั้ง 6 นาย บกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หากการสอบสวนพบว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจหรือได้รับผลประโยชน์ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ในเบื้องต้นพบการปล่อยปละละเลยจนกระทั่งมีการเข้าออกของชาวต่างชาติที่ผิดกฎหมายก็ต้องเรียกมาช่วยราชการดังกล่าว โดยเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่าหากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หรือปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่ จนกระทั่งได้รับผลประโยชน์ร่วมด้วย ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด และตนจะได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศมาประชุมกำชับวางแนวทางการปฏิบัติหน้าที่กันใหม่ทั้งหมดในเร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสุดท้ายแล้วการก่อเหตุครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของชาวอุยกูร์จะต้องจัดระเบียบเช่นเดียวกับกรณีชาวโรฮิงญาหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า แน่นอน จะต้องมีการดำเนินการอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ หากพบว่ามีข้อมูลเกี่ยวข้องชัดเจนว่าชาวต่างชาติที่หลบหนีเข้าเมืองกลุ่มดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ แต่ไม่ใช่เพียงผู้อพยพชาวอุยกูร์เท่านั้น แต่ที่ด่าน จ.สระแก้ว ยังมีทั้งชาวโรฮีนจาและแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการเช่นกัน และก็ไม่ได้เฉพาะเจาะจงลงไปที่ จ.สระแก้วเท่านั้น แต่จากนี้ด่านตรวจทุกจุดทุกด่านจะต้องกลับมาอยู่ในกรอบ ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องแข็งขันและซื่อสัตย์สุจริต ถ้ายังดื้อดึงขัดขืนดื้อรั้นก็ต้องมีมาตรการในการดำเนินการ เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะกระทบต่อการที่สหรัฐอเมริกาจัดอันดับให้ไทยอยู่ในอันดับเทียร์ 3 เรื่องปัญหาการค้ามนุษย์ และยังกระทบต่อการค้าขายกับต่างชาติอีกด้วย

"ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องผิดกฎหมายเหล่านี้อยู่ตลอด แต่จากนี้ถ้าพบมีข้อมูลยืนยันได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็จำเป็นต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดเช่นเดียวกับกรณีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้วต่อไป"

เมื่อถามว่าเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์สามารถตั้งข้อหาก่อการร้ายกับผู้ก่อเหตุได้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ข้อหาก่อการร้ายนั้นมีอยู่หลายองค์ประกอบ เรื่องนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนกำลังปฏิบัติงานอยู่ และหากเข้าข่ายองค์ประกอบข้อหาดังกล่าวตามกฎหมายเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งข้อกล่าวหานี้ต่อผู้ต้องหากลุ่มนี้แน่นอน ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาหลักแก่คนกลุ่มนี้ มีแต่ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ที่หนองจอกที่มีข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดี ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าชายต่างชาติที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ด่านชายแดน จ.สระแก้ว เป็นคนร้ายที่วางระเบิดบริเวณศาลพระพรหม และท่าน้ำสาทร ทั้งนี้ยืนยันได้เพียงว่าชายคนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิดที่ตรวจพบที่จุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุด โดยขณะนี้อยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ทหารตามมาตรา 44 ขณะเดียวกันกำลังรอผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ และผลการตรวจวัตถุพยานต่างๆ ให้ครบถ้วน

ส่วนการประสานขอตัว น.ส.วรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาตามหมายจับนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า จากนี้ทางตำรวจจะขอความช่วยเหลือจากการบินไทยในการรับส่งกลับประเทศไทย แต่ขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่าอยู่ประเทศใด เนื่องจากยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการที่แน่ชัด

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนซักถามผู้ต้องหาที่สามารจับกุมไว้ได้ ก่อนจะตัวมาส่งให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานกับตำรวจสากลเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการแจ้งข้อมูลกลับมาแต่อย่างใด ทั้งนี้ขอยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ขอให้ศาลออกหมายจับนั้นเป็นบุคคลถูกกลุ่มถูกตัวอย่างแน่นอน เพราะมีพยานหลักฐานยืนยันได้ทั้งหมด เพียงแต่ต้องรอว่าจะสามารถจับกุมตัวได้เมื่อใดเท่านั้น

***เสนอหมายจับแก๊งบึ้มรายที่ 9

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีรายงานว่าพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดมีนบุรีขออนุมัติหมายจับ นายไมไรลี ยูซุฟู เชื้อชาติจีน สัญชาติจีน เลขหมายจับที่ จ.813/2558 ลงวันที่ 3 ก.ย. 2558 ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

สำหรับนายไมไรลี ยูซุฟู เป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางระเบิดที่บริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ที่ถูกทหารกองกำลังบูรพาจับกุมได้ระหว่างกำลังจะเดินทางข้ามพรมแดนธรรมชาติไปยังประเทศกัมพูชา ที่บ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปทำการสอบสวน โดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญชั่วคราว

***บุกตรวจบ้านร้างพบสารเคมีต้องสงสัย

ในวันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บ้านเลขที่ 59/79 หมู่บ้านขุมทรัพย์แลนด์ ซอยราษฎร์อุทิศ 34 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี หลังการปูพรมตรวจค้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบสิ่งผิดปกติ ในพื้นที่บก.น.3 จากการตรวจสอบพบสารเคมี ของเหลว จำนวน 7 ถัง แต่ไม่เจอผู้พักอาศัย

*** ยัน “ประวิตร” ไปจีน ไม่คุยเรื่องอุยกูร์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะฝ่ายความมั่นคง เดินทางไปประเทศจีนว่า ตนไม่ได้มอบหมายให้ไปพูดคุยเรื่องอุยกูร์ พล.อ.ประวิตร ก็บอกแล้วว่า จะไม่คุย หากเขาไม่คุย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจีน เป็นปัญหาของบ้านเรา บางเรื่องอาจเป็นปัญหาระหว่างประเทศก็จะพูดแต่คนที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยพูดว่าเป็นคนพวกไหน การจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิด ที่แยกราชประสงค์ ก็ดูตามพาสปอร์ต ต้องพิสูจน์สัญชาติก่อน ประเทศต้นทางต้องมาชี้แจงว่ าพาสปอร์ต ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ออกมาได้อย่างไร ถ้าพาสปอร์ตถูกต้อง ก็ไม่ผิดเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ผิดเรื่องหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพราะตรงกับที่แฟลตที่จับกุมได้ ทำไม่ต้องพูดให้เดือดร้อนกัน จากนี้ต้องสอบต่อไปว่า ใครเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ว่าประเทศกับประเทศมีปัญหากัน

เมื่อถามว่า เรื่องอุยกูร์ ทางจีนได้ให้ข้อมูลอะไรกับเราบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้ให้อะไร เพราะไม่ได้เกี่ยวกับเขา ถามย้ำว่า อุยกูร์ บางกลุ่มอาจเคยเคลื่อนไหวในประเทศจีน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าเป็นอุยกูร์ที่ไหน ส่วนการจับกุมผู้ต้องสงสัยคนที่ 3 ที่ จ.นราธิวาส นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็จับมา โยงคนไหนก็จะจับเรื่อยๆ

เมื่อถามถึงกรณีที่ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) บอกว่า จะมีการปรับโครงสร้างความมั่นคง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการปรับปรุงอุปกรณ์เทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง ไม่ถือว่าเป็นการปรับโครงสร้าง เป็นการพัฒนา ถ้าปรับโครงสร้างความมั่นคง คือ การยุบสมช.ตั้งกระทรวง แค่นี้เป็นการพัฒนาเครื่องมือว่าสมบูรณ์หรือยัง ที่ผ่านมาเป็นเบี้ยหัวแตก แต่ไปเสียในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ไม่บ่น ส่วนเครื่องมือพอจะซื้อก็บอกแพง โกง ทุจริต แต่วันนี้กลับพูดว่า ทำไมไม่ทันสมัย ส่วนเรื่องบูรณาการงานด้านความมั่นคงนั้น ตนทำมาสองปีแล้ว สั่งคนเดียวให้มีเอกภาพ

***"แกนนำแดงหอบ 2 ล้านโชว์สื่อ

ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน นายสมหวัง อัสราษี อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำ นปช. นำเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยนายสมหวัง กล่าวว่า ตนยืนยัน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร สามารถจับกุมคนร้ายตัวจริงที่ลอบวางระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทรได้ จะมอบเงินจำนวน 2 ล้านบาทให้ทันที เพียงแต่ในวันนี้จากที่ได้ติดตามข่าว คนที่ถูกจับกุม ยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย และยังไม่แน่ชัดว่าเป็นคนร้ายตัวจริงหรือไม่ จึงอยากฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี ว่าไม่ต้องกังวล หากทหารจับได้ ก็จะให้เงินแก่ทหาร ถ้าตำรวจจับได้ ก็จะมอบเงินแก่ตำรวจ พร้อมทั้งแสดงความห่วงใยว่า เหตุการณ์ผ่านมากว่า 3 สัปดาห์ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามรถจับคนร้ายตัวจริงมาลงโทษได้ ถึงแม้ว่าจะสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้จำนวนหนึ่งก็ตาม สิ่งที่เป็นห่วง กลัวว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุที่อื่นอีกหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ประเทศบอบช้ำมามาแล้ว อยากให้ทุกอย่างดีขึ้น ซึ่งหากสามารถจับตัวคนร้ายได้ก็สามารถตอบคำถามชาวโลกได้ว่า นี่คือการก่อการร้าย

จับ “กามารูดิง”พาทีมบึ้มข้ามพรมแดน

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.ศสส.จชต. และกำลังทหารจาก ฉก.33 อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จำนวนหนึ่ง ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 223 หมู่ 5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และจับกุมตัวนายกามารุดิง สาเหาะ อายุ 35 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมทั้งตรวจค้นยึดเอกสารต่างๆ เช่นหนังสือเดินทางจำนวนหนึ่ง หนังสือข้ามแดน(บอเดอร์พาส) ของบุคคลต่างๆ จำนวนหนึ่ง รวมถึงสิ่งของอื่นๆ และนำตัวขึ้นเครื่องบิน เดินทางเข้า กรุงเพทฯ โดยนำไปควบคุมตัว เพื่อทำการสอบสวนที่ ราบ 11 ซึ่งเป็นที่ควบคุมตัวและสอบสวน ผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์

โดยก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า นายกามารุดิง เป็นคนสำคัญของขบวนการค้ามนุษย์ใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นคนสนิทของ นายก อบต.ผู้หนึ่ง ใน อ.สุไหงโก-ลก โดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับ กลุ่มชาวต่างชาติที่วางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่า คนร้ายส่วนหนึ่ง หลังจากที่รวมกันก่อเหตุวางระบิดแล้วได้หลบหนีไปยังประเทศที่สามผ่านทางด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก โดยการช่วยเหลือของนายกามารุดิง สาเหาะ

สำหรับนายกามารุดิง สาเหาะ มีประวัติจากหน่วยข่าวความมั่นคงว่า เป็นคนสำคัญในขบวนการค้ามนุษย์ โดยเป็นผู้ดำเนินการในด้านเอกสารให้กับผู้ที่ต้องการหนังสือเดินทางปลอม และ บอเดอร์พาส เพื่อเดินทางออกไปยังประเทศที่สาม เป็นคนสำคัญในขบวนการส่งชาวโรฮิงญา ,พม่า , และ ชาว อุยกูร์ ข้ามพรมแดนไทยไปยังประเทศมาเลเซีย โดยก่อนที่จะมาอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ นายมาการุดิง เคยเป็นลูกจ้างอยู่ในเทศบาลแห่งหนึ่งใน จ.นราธิวาส ฝ่ายทะเบียนบัตร และมีการนำคนต่างด้าวมาสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทย และถูกจับได้ จึงถูกให้ออกจากการเป็นลูกจ้างส่วนราชการ ต่อมาจึงมาอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ กับ นายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งใน อ.สุไหงโก-ลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีข่าวการจับกุมนายกามารุดิง ในข้อหาเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายข้ามชาติชาวตุรกี ในฐานะที่เป็นผู้พาคนร้ายหลบหนีไปยังประเทศที่สาม ทำให้เจ้าหน้าที่ใน อ.สุไหงโก-ลก ทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท้องที่ ต่างตรวจสอบข่าวกันอย่างอลหม่าน เพราะกลัวว่าจะมีการสั่งเด้ง เหมือนกับ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ จ.สระแก้ว และ ตำรวจ สน.หนองจอก และ มีนบุรี

***ทูตตุรกีติงรบ.ไทยต้องมีข้อมูลชัดเจน

ขณะที่แฟนเพจสถานทูตตุรกีประจำประเทศไทย T.C. Bangkok B?y?kel?ili?i ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดถึงกรณีทางการไทยจับผู้ต้องสงสัยชาวตุรกีหลายคน มีใจความว่า

“สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย คำแถลงของสถานทูตเกี่ยวกับการรายงานข่าวที่ได้อ้างถึงความเชื่อมโยงของประเทศตุรกี ในกรณีเหตุการณ์วางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ

สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยได้มีการร้องขอความชัดเจนโดยทำการส่งจดหมายไปยังกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมว่าเป็นชาวตุรกี รวมถึงกรณีหนังสือเดินทางตุรกีตามข่าวที่มีการถูกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ และได้แจ้งว่าทางสถานทูตกำลังรอคำตอบอย่างเป็นทางการจากทางการไทย

ในขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ทางสถานทูตได้รับจดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของการสืบสวนสอบสวนและสัญชาติของผู้ต้องสงสัยนั้นยังไม่ได้มีการระบุ ทางกระทรวงการต่างประเทศยังรอผลการพิสูจน์หนังสือเดินทางปลอมสัญชาติตุรกีตามที่ปรากฏอยู่ในข่าว ในบางรายงานข่าวได้มีการอ้างถึงการออกหมายจับคนสัญชาติตุรกีนั้น จนกระทั่งบัดนี้สถานทูตยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการจากทางการไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับนั้น

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐตุรกี ได้ตอบคำถามเมื่อวานนี้เกี่ยวกับการรายงานข่าวที่เชื่อมโยงชาวตุรกีกับเหตุระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ คำพูดของโฆษกได้มีการแปลอย่างไม่เป็นทางการได้ ดังนี้

เราได้รับทราบถึงเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ในกรุงเทพฯ และยังได้รับรู้จากทางการไทยและสื่อไทยว่าผู้ต้องสงสัย 2 คนในกรณีเหตุการณ์วางระเบิดได้ถูกสอบสวนในวันที่ 29 และ 30 สิงหาคม

ในรายงานข่าวได้ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมนั้นได้ถือครองหนังสือเดินทางปลอมสัญชาติตุรกี จากรูปภาพจะสังเกตได้ว่าหนังสือเดินทางฉบับนี้เป็นฉบับปลอม เป็นที่น่าเสียดายว่าในทันทีที่ผู้ต้องสงสัยถูกจับกุม ข้อมูลที่ผิดพลาดได้ถูกนำเสนอในรายงานข่าวว่า บุคคลผู้นี้เป็นชาวตุรกี อีกทั้งสถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยได้ชี้แจงว่า บุคคลดังกล่าวมิได้เป็นชาวตุรกี รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงอังการาได้ชี้แจง

โดยระบุในรายงานข่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดในประเด็นดังกล่าว ในอีกแง่หนึ่งได้มีการรายงานในสื่อว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ณ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ถือหนังสือเดินทางสัญชาติจีน ในความเป็นจริงแล้วทางการไทยควรมีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้

ข้าพเจ้ายืนยันว่า สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยได้มีการติดต่อกับทางการไทย กระทรวงต่างประเทศของตุรกีก็ได้มีการติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา กระทรวงต่างประเทศของตุรกีได้มีการร้องขอข้อมูลผ่านทางตำรวจสากล ซึ่งเรายังไม่ได้รับคำตอบ นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดได้ ณ ตอนนี้

อ้างถึงสารที่สถานเอกอัครราชทูตตุรกีที่ได้มีการประกาศเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมนั้น กระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐตุรกี ได้ส่งสาน์สแสดงความเสียใจถึงกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าประเทศตุรกีขอประณามการกระทำซึ่งเป็นการก่อการร้ายในครั้งนี้ และแสดงจุดยืนที่แน่วแน่ในการต่อสู้กับการก่อการร้าย”

*** กรมศิลป์ บูรณะพระพรหมงดงาม

กรมศิลปากร บูรณะองค์ท้าวมหาพรหมงดงามดังเดิม กำหนดจัดพิธีบวงสรวง 4 กันยายน พร้อมเปิดให้ประชาชน นักท่องเที่ยวสักการะ

วันนี้ (3 ก.ย.) นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินการบูรณะองค์ท้าวมหาพรหมเอราวัณ ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ระเบิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ช่างศิลปกรรม จากสำนักช่างสิบหมู่ได้ทำการบูรณะองค์ท้าวมหาพรหม และรอบศาลที่เสียหายเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะองค์ท้าวมหาพรหมที่ได้รับความเสียหายบริเวณคาง สังวารนิ้ว และหน้าแข้ง โดยใช้ปูนปาสเตอร์เขียวปั้นเสริมในส่วนที่เสียหาย จากนั้นได้ลงรักปิดทองโดยใช้ทองคำเปลวหนัก 2,500 กรัมปิดทับองค์ทำให้ท้าวมหาพรหมกลับมางดงามเหมือนเดิม

ทั้งนี้ การบูรณะองค์ท้าวมหาพรหมเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่คณะช่างได้กำหนดไว้ 9 วัน ช่างเข้าไปบูรณะด้วยความราบรื่นไม่พบอุปสรรคแต่อย่างใดๆ วันนี้เจ้าหน้าที่ศาลท้าวมหาพรหมได้เปิดผ้าคลุมและเก็บนั่งร้านที่ติดตั้งไว้ พร้อมกันนี้ได้นำเครื่องสักการะมาประดับรอบศาลอย่างสวยงาม พร้อมเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าสักการะตามปกติแล้ว

"เมื่อการบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระทรวงวัฒนธรรมจะจัดพิธีบวงสรวงองค์ท้าวมหาพรหมเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันที่ 4 ก.ย.นี้ โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน โดยจะมีการประกอบพิธีบวงสรวงองค์ท้าวมหาพรหม พร้อมทั้งสิ่งศักดิ์ 6 องค์ที่ประดิษฐานบริเวณแยกราชประสงค์ เวลา 07.00 น. "นายสหภูมิ กล่าว

****ผบ.ตร.แจงที่มาโรงพักราชประสงค์ เหน็บสื่อแจกยาแก้มึน
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวการสร้าง "โรงพักราชประสงค์" ในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า เดิมทีอาคารดังกล่าวตั้งอยู่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนหน้านี้เคยได้ให้เอกชนเช่าอาคารดังกล่าวเดือนละ 20,000 บาท แต่ตนเองเห็นว่า ค่าใช้จ่ายทั้งค่าน้ำค่าไฟนั้นเป็นของหลวง และให้เช่าในราคา 20,000 บาทนั้น จะไม่เกิดประโยชน์เป็นราคาที่ไม่เป็นธรรม ตนจึงเล็งเห็นว่า ควรจะปรับปรุงอาคารดังกล่าวให้เป็นสถานที่พักผ่อนหรือให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีที่นั่งพักผ่อนหรือพูดคุยปรึกษาหารือกันได้ ซึ่งปัจจุบันนั้นยังไม่มีสถานที่รองรับ จึงทำการปรับปรุงอาคารดังกล่าวเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่เดินทางเข้ามา

"ในส่วนของชื่ออาคาร โรงพักราชประสงค์นั้น เดิมทีผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอให้ใช้ชื่อ อาคารพุ่มพันธุ์ม่วง แต่ผมไม่เห็นด้วย จึงเสนอให้ใช้ชื่อ "โรงพักราชประสงค์" เนื่องจากยุคสมัยปัจจุบัน โรงพักของตำรวจนั้นเปลี่ยนชื่อเป็นสถานีตำรวจนครบาลและภูธรแล้ว และการใช้ชื่อโรงพักนั้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงชื่อโรงพักในยุคก่อน ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อในปัจจุบันเท่านั้น ส่วนกรณีที่มีสื่อบางสำนักไปเสนอข่าวว่า มึน งง ว่ามีโรงพักราชประสงค์ เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อย่างไร วันนี้ตนจึงเตรียมยาเอาไว้ให้ เอาไปกินแก้มึน" พล.ต.อ.สมยศ กล่าวพร้อมกับหยิบยาพาราเซตามอล จำนวน 1 แผง จากในกระเป๋ากางเกงออกมาโชว์
กำลังโหลดความคิดเห็น