ASTVผู้จัดการรายวัน – “สเมอร์นอฟ” รุกฆาต ปลุกตลาด RTD ทุ่ม 400 ล้านบาท เปิดตัวRTDแบบแคน ส่ง “สเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100” ลุยตลาดแมส หวังดันส่วนแบ่งตลาดสู่ 16% ภายใน มิ.ย. 59 พร้อมดันตลาดรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มโต 8% สู่ 5ล้านลังในปี 59//
นายพอล สิริสันต์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภท วอดก้า รัม จิน และ เบย์ลี่ส์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มหรือ เรดดี้ ทู ดริ้ง (RTD) ปีนี้คาดว่าจะมีความต้องการอยู่ที่ 4.5 ล้านหลัง อัตราการเติบโตที่ 7% แบ่งออกเป็น พรีเมี่ยม 5 แสนลัง และแมส 4 ล้านลัง โดยในกลุ่มแมสเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตดีสุด ส่วนพรีเมี่ยมคงที่ เนื่องจากกลุ่มตลาดไนท์ไลฟ์ทรงตัว ผู้บริโภคมีเงินในกระเป๋า แต่จะคิดและเก็บเงินเพื่อใช้กับเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในรูปแบบมิวสิคเฟสติวัลมากกว่า ขณะที่ในกลุ่มแมสโตจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่พร้อมจำหน่ายในช่องทางเทรดดิชันนอลเทรดเป็นหลัก//
“กลุ่มผู้บริโภคพรีเมี่ยม เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ชื่นชอบความแปลกใหม่ แต่ใช้เงินน้อยลง เพื่อเก็บเงินไว้ใช้กับเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในรูปแบบมิวสิคเฟสติวัลแบบEDM หรือ อิเล็คทรอนิคส์แดนซ์ ทำให้ตลาดผับบาร์ซบเซา เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สเมอร์นอฟให้ความสำคัญกับตลาดแมสมากขึ้น”
ล่าสุดปีนี้พร้อมใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท สำหรับการเปิดตัว ผลิตภัณฑ์“สเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100” ซึ่งเป็นRTDในรูปแบบแคน ราคาจำหน่ายกระป๋องละ 35 บาท ซึ่งงบลงทุนครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1.ลงทุนเพิ่มเครื่องจักรแคนนิ่ง ไลน์ 100 ล้านบาท และเริ่มผลิตสินค้าได้ตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา 2. โฆษณาประชาสัมพันธ์และการทำตลาดอีก 300 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ มิวสิคเฟสติวัลมาร์เก็ตติ้ง รวม 10 งาน ไปจนถึงมิ.ย.59 เน้นจำหน่ายในกลุ่มลูกค้าระดับแมส หรือเทรดดิชันนอลเทรดเป็นหลัก 80% และนอนเทรด 20% มั่นใจว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 6 แสนลังภายในมิ.ย. 2559 ที่จะถึงนี้ หรือมีรายได้ที่ 318 ล้านบาท//
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาสเมอร์นอฟในรูปแบบRTD จะมียอดขายอยู่ที่ 3 แสนลังต่อปี เป็นอันดับสามของตลาดหรือมีส่วนแบ่งที่ 6% เน้นตลาดพรีเมี่ยมเป็นหลัก หลังเปิดตัว สเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 เพื่อรุกตลาดแมสแล้ว มั่นใจว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 16% หรืออยู่ในอันดับสาม ด้วยยอดขายกว่า 9แสนลังภายในเดือนมิ.ย.59 นี้ รองจาก อันดับ1 คือ สปาย มีส่วนแบ่งมากกว่า 60% หรือ 2.8 ล้านลัง และ2.ฟูลมูล แชร์ 20% หรือกว่า 1-1.2 ล้านลัง หรือภายในปี2559 มั่นใจว่าตลาดรวมRTD จะมีความต้องการไม่ต่ำกว่า 5 ล้านลัง หรือมีอัตราการเติบโต 7-8% เป้นการเติบโตที่มาจากการเปิดตัวสเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 เป็นหลัก//
นายพอล กล่าวต่อว่า สเมอร์นอฟเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้ให้บริษัทที่ 10% การเปิดตัว สเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 คาดว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มเป็น 15%ได้ในปีหน้า โดยยอดขายอันหนึ่งมาจาก จอห์นนี่ วอร์กเกอร์ 75% ที่เหลือมาจากแบรนด์อื่นๆ ซึ่งในประเทศไทยทำตลาดกว่า 20 แบรนด์ ส่วนสเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 ถือเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มรูปแบบแคน ที่วางจำหน่ายในไทยเป็นประเทศแรกในเซาส์อีสเอเชีย ประเทศต่อไปที่จะเปิดตลาด คือ อินโดนีเซียที่ตลาด RTD มีความต้องการที่ 3 ล้านลัง และเวียดนาม ตลาดRTDมีความต้องการ 5 หมื่นลังตามลำดับ ส่วนในระดับโกลบอล สเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ 1 เดือน คือในอาฟริกา ยุโรป บราซิล และอาร์เจนติน่า เป็นต้น
นายพอล สิริสันต์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภท วอดก้า รัม จิน และ เบย์ลี่ส์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มหรือ เรดดี้ ทู ดริ้ง (RTD) ปีนี้คาดว่าจะมีความต้องการอยู่ที่ 4.5 ล้านหลัง อัตราการเติบโตที่ 7% แบ่งออกเป็น พรีเมี่ยม 5 แสนลัง และแมส 4 ล้านลัง โดยในกลุ่มแมสเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตดีสุด ส่วนพรีเมี่ยมคงที่ เนื่องจากกลุ่มตลาดไนท์ไลฟ์ทรงตัว ผู้บริโภคมีเงินในกระเป๋า แต่จะคิดและเก็บเงินเพื่อใช้กับเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในรูปแบบมิวสิคเฟสติวัลมากกว่า ขณะที่ในกลุ่มแมสโตจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่พร้อมจำหน่ายในช่องทางเทรดดิชันนอลเทรดเป็นหลัก//
“กลุ่มผู้บริโภคพรีเมี่ยม เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ชื่นชอบความแปลกใหม่ แต่ใช้เงินน้อยลง เพื่อเก็บเงินไว้ใช้กับเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในรูปแบบมิวสิคเฟสติวัลแบบEDM หรือ อิเล็คทรอนิคส์แดนซ์ ทำให้ตลาดผับบาร์ซบเซา เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สเมอร์นอฟให้ความสำคัญกับตลาดแมสมากขึ้น”
ล่าสุดปีนี้พร้อมใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท สำหรับการเปิดตัว ผลิตภัณฑ์“สเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100” ซึ่งเป็นRTDในรูปแบบแคน ราคาจำหน่ายกระป๋องละ 35 บาท ซึ่งงบลงทุนครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1.ลงทุนเพิ่มเครื่องจักรแคนนิ่ง ไลน์ 100 ล้านบาท และเริ่มผลิตสินค้าได้ตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา 2. โฆษณาประชาสัมพันธ์และการทำตลาดอีก 300 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ มิวสิคเฟสติวัลมาร์เก็ตติ้ง รวม 10 งาน ไปจนถึงมิ.ย.59 เน้นจำหน่ายในกลุ่มลูกค้าระดับแมส หรือเทรดดิชันนอลเทรดเป็นหลัก 80% และนอนเทรด 20% มั่นใจว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 6 แสนลังภายในมิ.ย. 2559 ที่จะถึงนี้ หรือมีรายได้ที่ 318 ล้านบาท//
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาสเมอร์นอฟในรูปแบบRTD จะมียอดขายอยู่ที่ 3 แสนลังต่อปี เป็นอันดับสามของตลาดหรือมีส่วนแบ่งที่ 6% เน้นตลาดพรีเมี่ยมเป็นหลัก หลังเปิดตัว สเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 เพื่อรุกตลาดแมสแล้ว มั่นใจว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 16% หรืออยู่ในอันดับสาม ด้วยยอดขายกว่า 9แสนลังภายในเดือนมิ.ย.59 นี้ รองจาก อันดับ1 คือ สปาย มีส่วนแบ่งมากกว่า 60% หรือ 2.8 ล้านลัง และ2.ฟูลมูล แชร์ 20% หรือกว่า 1-1.2 ล้านลัง หรือภายในปี2559 มั่นใจว่าตลาดรวมRTD จะมีความต้องการไม่ต่ำกว่า 5 ล้านลัง หรือมีอัตราการเติบโต 7-8% เป้นการเติบโตที่มาจากการเปิดตัวสเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 เป็นหลัก//
นายพอล กล่าวต่อว่า สเมอร์นอฟเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้ให้บริษัทที่ 10% การเปิดตัว สเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 คาดว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มเป็น 15%ได้ในปีหน้า โดยยอดขายอันหนึ่งมาจาก จอห์นนี่ วอร์กเกอร์ 75% ที่เหลือมาจากแบรนด์อื่นๆ ซึ่งในประเทศไทยทำตลาดกว่า 20 แบรนด์ ส่วนสเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 ถือเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มรูปแบบแคน ที่วางจำหน่ายในไทยเป็นประเทศแรกในเซาส์อีสเอเชีย ประเทศต่อไปที่จะเปิดตลาด คือ อินโดนีเซียที่ตลาด RTD มีความต้องการที่ 3 ล้านลัง และเวียดนาม ตลาดRTDมีความต้องการ 5 หมื่นลังตามลำดับ ส่วนในระดับโกลบอล สเมอร์นอฟ มิดไนท์ 100 เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ 1 เดือน คือในอาฟริกา ยุโรป บราซิล และอาร์เจนติน่า เป็นต้น