ASTVผู้จัดการรายวัน - กระทรวงท่องเที่ยวฯ เร่งฟื้นความเชื่อมั่น ต่างชาติ ยันเหตุบึ้มกระทบช่วงสั้น ดึงสององค์กรท่องเที่ยวโลกช่วยแพร่ภาพลักษณ์และข่าวสารที่ดีฟื้นเชื่อมั่น คาดไตรมาสที่สี่สถานการณ์กลับคืนช่วงไฮซีซั่นส์ แต่ยอมรับหากเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดอีก จะกระทบนักท่องเที่ยวหาย 1 ล้านคน สูญรายได้ 7 หมื่นล้านบาท
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดท่องเที่ยวไทยในระยะสั้นไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น และยังมีความมั่นใจว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้จะทำได้แน่นอน คือ ตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งปีที่ 28.8 ล้านคน และสร้างรายได้ให้ประเทศประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกสามารถทำได้ดี เกินครึ่งแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าสถานการณ์โดยรวมจะเริ่มกลับมาดีขึ้นในไตรมาสสี่ ที่เป็นช่วงไฮซีซันส์แล้ว อีกทั้งในขณะนี้ก็ยังไม่มีสัญญานว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศยกเลิกการจองที่พักในระยะยาวแต่อย่างใด แต่ในระยะสั้นอาจจะมีประมาณ 10% ซึ่งตลาดที่เราห่วงมากที่สุดตอนนี้คือ ตลาดเอเซีย โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เพราะตลาดพวกนี้มีความอ่อนไหวกับเหตุการณ์มากที่สุด ส่วนตลาดยุโรปยังไม่ค่อยเท่าไร
ขณะที่ช่วงวันชาติจีนที่เป็นวันหยุดยาวนั้น คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยมากเหมือนทุกปี แต่อาจจะลดลงบ้างไม่เกิน 10%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะจีนตอนล่างเช่น คุนหมิง ยูนนาน จะเดินทางขับรถมาเที่ยวประเทศไทย ในช่วงวันชาติจีนมากกว่า 6,000 คัน
อย่างไรก็ตาม หากประเมินสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุดแล้วใน3เดือนนี้หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ปริมาณนักท่องเที่ยวยังหายไปอยู่ คาดว่าจะกระทบตลาดนักท่องเที่ยวหายไปประมาณ 5 แสน ถึง 1 ล้านคน และสูญเสียรายได้ประมาณ 60,000 -70,000 ล้านบาท เท่านั้น
ทั้งนี้มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเร่งด่วนระยะนี้คือ วันที่ 2-3 กันยายนนี้ จะมีโปรแกรมเดินทางไปร่วมงานโรดโชว์ ร่วมกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เพื่อพบปะกับผู้ประกอบการกว่า 300 บริษัท และสื่อมวลชนอีก 30 ราย เพื่อเปิดตลาดใหม่และนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวจีน ส่วนระยาวยังมีกิจกรรมากกว่า 30 กิจกรรมทั้งใหญ่และเล็กที่ออกมากระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยหลังจากนี้ ซึ่งมีกิจกรรมเก่าและที่เพิ่งทำออกมา หรือแม้แต่แคมเปญสร้างความเชื่อมั่น “กอดเมืองไทยให้หายเหนื่อย”
ส่วนประเด็นมาตรการการให้นักท่องเที่วต่างช่าติซื้อประกันภัยนักท่องเที่ยวนั้น ยังอยู่ระหว่างการประชุมพิจารณา ยังไม่มีการสรุปว่าแนวทางจะทำได้หรือไม่ได้ อย่างไร
นอกจากนั้นทางกระทรวงฯยังได้ประสานงานกับทาง สององค์กรด้านการท่องเที่ยวของโลก คือ องค์การท่องเที่ยวโลก ( UNWTO ) และ สมาคมการเดินทางและท่องเที่ยวโลก ( WTTC / World Travel and Tourism Council )เพื่อให้ทั้งสององค์กรช่วยเผยแพร่กระจายข่าวสารการท่องเที่ยวของไทยให้สมาชิกได้รับทราบด้วยว่าเป็นอย่างไร และยังได้ร่วมงานแถลงข่าวของกระทรวงฯเมื่อวานนี้ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
นายคาร์ลอส โวกเลอร์ รองเลขาธิการ องค์การท่องเที่ยวโลก กล่าวว่า เราสนับสนุนให้ไทยเดินหน้ารุกตลาดการท่องเที่ยวต่อไป ไทยเป็นประเทศแลนด์ออฟสมายล์ เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นการเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่เท่านั้น การฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว และการท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาเป็นปรกติในช่วงไฮซีซี่นนี้แน่นอน เพราะไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญติดอันดับโลก
นายเดวิด สโคว์ซิล ประธานสมาคมการเดินทางและท่องเท่ยวโลก กล่าวว่า ในสายตาของชาวต่างชาติเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึง ประทับใจในความร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือของภาครัฐบาลและเอกชน และยังคงมองเห็นว่าไทยยังเป็นดินแดนที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยวเช่นเดิม และเหตุการณ์นี้จะกระทบนักท่องเที่ยววิตกแค่ 8-9 วันเท่านั้น
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงฯ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปรกติในรอบสัปดาห์พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 7% จากแนวโน้มปรกติ และคาดว่าจะผันผวนต่อเนื่องอีก 1-2 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมวันที่ 1-23 สิงหาคม 2558 มีจำนวน 2,100,036 คน เพิ่มขึ้น 31.68% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เหตุการระเบิดครั้งนี้คงปฎิเสธไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของไทยบ้าง
ทั้งนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงก่อนเกิดเหตุระเบิดมีประมาณ 85,000 คนต่อวัน แต่หลังเกิดเหตุการณ์ลดลงเหลือประมาณ 80,000 คนต่อวัน
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดท่องเที่ยวไทยในระยะสั้นไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น และยังมีความมั่นใจว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้จะทำได้แน่นอน คือ ตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งปีที่ 28.8 ล้านคน และสร้างรายได้ให้ประเทศประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกสามารถทำได้ดี เกินครึ่งแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าสถานการณ์โดยรวมจะเริ่มกลับมาดีขึ้นในไตรมาสสี่ ที่เป็นช่วงไฮซีซันส์แล้ว อีกทั้งในขณะนี้ก็ยังไม่มีสัญญานว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศยกเลิกการจองที่พักในระยะยาวแต่อย่างใด แต่ในระยะสั้นอาจจะมีประมาณ 10% ซึ่งตลาดที่เราห่วงมากที่สุดตอนนี้คือ ตลาดเอเซีย โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เพราะตลาดพวกนี้มีความอ่อนไหวกับเหตุการณ์มากที่สุด ส่วนตลาดยุโรปยังไม่ค่อยเท่าไร
ขณะที่ช่วงวันชาติจีนที่เป็นวันหยุดยาวนั้น คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยมากเหมือนทุกปี แต่อาจจะลดลงบ้างไม่เกิน 10%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะจีนตอนล่างเช่น คุนหมิง ยูนนาน จะเดินทางขับรถมาเที่ยวประเทศไทย ในช่วงวันชาติจีนมากกว่า 6,000 คัน
อย่างไรก็ตาม หากประเมินสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุดแล้วใน3เดือนนี้หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ปริมาณนักท่องเที่ยวยังหายไปอยู่ คาดว่าจะกระทบตลาดนักท่องเที่ยวหายไปประมาณ 5 แสน ถึง 1 ล้านคน และสูญเสียรายได้ประมาณ 60,000 -70,000 ล้านบาท เท่านั้น
ทั้งนี้มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเร่งด่วนระยะนี้คือ วันที่ 2-3 กันยายนนี้ จะมีโปรแกรมเดินทางไปร่วมงานโรดโชว์ ร่วมกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เพื่อพบปะกับผู้ประกอบการกว่า 300 บริษัท และสื่อมวลชนอีก 30 ราย เพื่อเปิดตลาดใหม่และนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวจีน ส่วนระยาวยังมีกิจกรรมากกว่า 30 กิจกรรมทั้งใหญ่และเล็กที่ออกมากระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยหลังจากนี้ ซึ่งมีกิจกรรมเก่าและที่เพิ่งทำออกมา หรือแม้แต่แคมเปญสร้างความเชื่อมั่น “กอดเมืองไทยให้หายเหนื่อย”
ส่วนประเด็นมาตรการการให้นักท่องเที่วต่างช่าติซื้อประกันภัยนักท่องเที่ยวนั้น ยังอยู่ระหว่างการประชุมพิจารณา ยังไม่มีการสรุปว่าแนวทางจะทำได้หรือไม่ได้ อย่างไร
นอกจากนั้นทางกระทรวงฯยังได้ประสานงานกับทาง สององค์กรด้านการท่องเที่ยวของโลก คือ องค์การท่องเที่ยวโลก ( UNWTO ) และ สมาคมการเดินทางและท่องเที่ยวโลก ( WTTC / World Travel and Tourism Council )เพื่อให้ทั้งสององค์กรช่วยเผยแพร่กระจายข่าวสารการท่องเที่ยวของไทยให้สมาชิกได้รับทราบด้วยว่าเป็นอย่างไร และยังได้ร่วมงานแถลงข่าวของกระทรวงฯเมื่อวานนี้ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
นายคาร์ลอส โวกเลอร์ รองเลขาธิการ องค์การท่องเที่ยวโลก กล่าวว่า เราสนับสนุนให้ไทยเดินหน้ารุกตลาดการท่องเที่ยวต่อไป ไทยเป็นประเทศแลนด์ออฟสมายล์ เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นการเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่เท่านั้น การฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว และการท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาเป็นปรกติในช่วงไฮซีซี่นนี้แน่นอน เพราะไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญติดอันดับโลก
นายเดวิด สโคว์ซิล ประธานสมาคมการเดินทางและท่องเท่ยวโลก กล่าวว่า ในสายตาของชาวต่างชาติเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึง ประทับใจในความร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือของภาครัฐบาลและเอกชน และยังคงมองเห็นว่าไทยยังเป็นดินแดนที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยวเช่นเดิม และเหตุการณ์นี้จะกระทบนักท่องเที่ยววิตกแค่ 8-9 วันเท่านั้น
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงฯ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปรกติในรอบสัปดาห์พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 7% จากแนวโน้มปรกติ และคาดว่าจะผันผวนต่อเนื่องอีก 1-2 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมวันที่ 1-23 สิงหาคม 2558 มีจำนวน 2,100,036 คน เพิ่มขึ้น 31.68% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เหตุการระเบิดครั้งนี้คงปฎิเสธไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของไทยบ้าง
ทั้งนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงก่อนเกิดเหตุระเบิดมีประมาณ 85,000 คนต่อวัน แต่หลังเกิดเหตุการณ์ลดลงเหลือประมาณ 80,000 คนต่อวัน