อำมหิต! คนร้ายวางระเบิดแยกราชประสงค์ ฝั่งศาลพระพรหมช่วงเวลา1ทุ่ม ผบ.ตร. เผยเป็นระเบิดแสวงเครื่องทีเอ็นที ที่มีผู้นำมาวางไว้ รัฐบาลจัดทีมเคลียร์พื้นที่ ลำเลียงคนเจ็บส่งแพทย์ เร่งตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลยังไม่ฟันธงชี้สาเหตุการระเบิด แต่มีแนวโน้มจากกลุ่มเดิมที่เสียประโยชน์และอาฆาตประเทศ ไม่ยอมให้คนไทยมีความสุข ตร.ตั้งด่านความมั่นคงทั่วกรุง ปิดไล่ล่า ด้านสื่อเสื้อแดงรู้ล่วงหน้าโพสต์เตือนตั้งแต่ 13ส.ค.
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วานนี้ (17ส.ค.) ทวิตเตอร์ จส.100 (@js100radio)รายงานว่า เกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิด กลางแยกราชประสงค์ ฝั่งพระพรหม มีผู้บาดเจ็บ และมีไฟลุกไหม้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ต่อมา มีผู้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า เกิดเหตุระเบิดน่ากลัวมาก หน้าพระพรหม บาดเจ็บ หนัก 4 - 5 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยกู้ภัย และทหารจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุที่เกิดเหตุ เข้าระงับเหตุดับเพลิง พร้อมทั้งปิดการจราจร บนสี่แยกราชประสงค์
เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือบริเวณหน้าพระพรหม เอราวัณ และรายงานจากศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปเบื้องต้นตามรายงาน บาดเจ็บ 30 ราย เสียชีวิต 2 - 3 ราย ยังไม่ยืนยัน รถยนต์เสียหายมากกว่า 30 คัน อาคารใกล้เคียงเสียหาย
ต่อมาเวลา 19.41 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พบถุงดำที่คาดว่ามีวัตถุต้องสงสัยเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ลูก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ทำการเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยว่าจะมีระเบิด
ต่อมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) เปิดเผยว่า ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 12 ราย ส่วนระเบิดที่ใช้ก่อเหตุครั้งนี้ เป็นระเบิดทีเอ็นที ที่มีผู้นำมาวางไว้ ไม่ใช่คาร์บอมบ์ หรือจักรยานยนต์บอมบ์
ต่อมา เวลา 20.00 น. บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ประกาศปิดทางเดินลอยฟ้าเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าสยาม กับสถานีรถไฟฟ้าราชประสงค์ เป็นการชั่วคราว ขณะที่ห้างสรรพสินค้าย่านราชประสงค์ อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า ฯลฯ แจ้งลูกค้าให้ออกจากพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบระเบิดแสวงเครื่องที่ยังไม่ทำงานอีก 2 ลูก ลูกแรก อยู่ที่บริเวณศาลพระพรหม เอราวัณ อีกลูกหนึ่งอยู่ที่หน้าศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า โดยเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ปิดกั้นพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปเพื่อความปลอดภัย และความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่
เวลา 20.15 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวขณะตรวจที่เกิดเหตุระเบิด ว่า ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องทีเอ็นที ไม่ทราบน้ำหนัก จุดที่วางอยู่จุดหนึ่งวางไว้ข้างรั้วบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ ยืนยันไม่ใช่คาร์บอมบ์ เบื้องต้นพบซุกซ่อนบริเวณใกล้กันอีก 1 ลูก เจ้าหน้าที่ อีโอดี ได้ทำการตัดวงจรระเบิดแล้ว แรงระเบิดทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ กระจายไปกว่า 40 เมตร เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บประมาณ 70 ราย ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณแยกราชประสงค์และจุดที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งนี้สั่งการ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)ให้ตั้งด่านตรวจความมั่นคงทั่วกทม.แล้ว
ผบ.ตร.กล่าวว่า ลักษณะการวางระเบิดเป็นการตั้งใจนำระเบิดมาวางไว้ ตอนนี้ตำรวจทหารทำงานร่วมกันเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายยกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาสั่งการให้ควบคุมและเร่งคลี่คลายสถานการณ์ แสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เหตุที่เกิดขึ้นสร้างความตระหนกให้แก่ประชาชน เชื่อว่าเจ้าหน้าที่คุมสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตามจะตั้งคณะทำงานชุดพิเศษขึ้นมาดูแลคดีนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกี่ยวเนื่องกับการจัดกิจกรรมไบค์ฟอร์มัมหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่เกี่ยว
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง ซึ่งลงตรวจที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ยังไม่ทราบสาเหตุระเบิด แต่ชัดว่าเป็นกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้นซึ่งทางนายก และรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงกำลังให้คลี่คลายคดีให้ได้ ขอเวลาตำรวจทำงานก่อน ทั้งนี้กำชับทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ โดยเฉพาะสถานที่สำคัญ และเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ยันไม่มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน
พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า ยังไม่มีประกาศหยุดเรียน หรือประกาศภาวะฉุกเฉิน ตามที่มีการส่งข้อมูลกันทางโซเชียลมีเดีย ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับการพยายามสร้างสถานการณ์ และข่าวลือเพื่อสร้างความสับสนในประเทศ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ และพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ขอยืนยันว่า ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่แล้ว
สปช. เลื่อนถกคำถามประชามติ
เวลา 20.20 น. ที่รัฐสภา ในระหว่างการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานสปช. คนที่ 2 ในฐานะประธานการประชุม ได้ขอให้สมาชิก สปช.ร่วมยืนไว้อาลัย 1 นาที ให้แก่ผู้เสียชีวิต จากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ พร้อมทั้งเปิดให้ สมาชิกหารือถึงการดำเนินงานต่อไป โดยนายวันชัย สอนศิริ กล่าวว่า เหตุการณ์ทำท่าว่าจะวุ่นวายไม่หยุดในหลายพื้นที่ จึงอยากขอให้มีการเลื่อนการประชุมสปช. ออกไปก่อน
ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าวว่า มันเป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิด หลายคนคิดว่ามันคงต้องเกิดขึ้นสักวัน หากความปรองดองยังไม่เกิดขึ้น เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ทางเศรษฐกิจ ส่วนที่รัฐสภาก็อาจตกเป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง ของผู้ไม่ประสงค์ดีได้ แต่ตนมองว่า เราต้องเดินหน้าต่อไป ทั้งการประชุม สปช. และการประชุมกมธ.ยกร่างฯ แต่ขณะเดียวกันก็ขอให้มีการดูแลรักษาความปลอดภัยให้รอบคอบขึ้น
จากนั้น น.ส.ทัศนา จึงสรุปว่า จะประสานมาตรการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น ส่วนการประชุม สปช.ในวันที่ 18 ส.ค. ที่จะมีวาระหารือเรื่องคำถามประชามตินั้น ให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 19 ส.ค. ก่อนจะสั่งปิดการประชุมเวลา 20.30 น.
ขอสื่องดเสนอภาพเหยื่อความรุนแรง
นายวันชัย วงศ์มีชัย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย แถลงว่า ขอให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ได้โปรดหลีกเลี่ยง หรืองดการนำเสนอภาพข่าวของเหยื่อความรุนแรง ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากจากเหตุการณ์การก่อการร้ายที่แยกราชประสงค์ โดยให้คำนึงถึงครอบครัวของผู้สูญเสียเป็นสำคัญ เพราะเป็นการซ้ำเติมให้ผู้สูญเสียเกิดความโศกเศร้าเสียใจต่อภาพที่ปรากฏต่อสื่อมวลชน อีกทั้งการรายงานข่าว และภาพข่าวที่รุนแรงและน่าหวาดกลัว มีแต่จะซ้ำเติมความสูญเสียให้กับสังคมที่กำลังอยู่ในภาวะเศร้าโศกต่อเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ ขณะเดี่ยวกันกับการข่าวยังมีความสับสน ขอให้สื่อได้ตรวจสอบและรายงานข่าวที่ถูกต้องเที่ยงตรง อย่าได้เผยแพร่ข่าวลือที่จะยิ่งทำให้สังคมสับสนนำไปสู่สถานการ์ที่เลวร้ายขึ้น
รพ.จุฬาฯเผยมีเหยื่อบึ้มเข้ารับรักษา30ราย
รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาติไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการยกระดับเปิดแผนรับมืออุบัติเหตุหมู่ โดยได้เพิ่มบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ อีกทั้งได้มีการจัดพื้นที่แบ่งโซนผู้บาดเจ็บตามอาการ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ล่าสุดมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งตัวมายังโรงพยาบาลจุฬาจำนวนทั้งสิ้น 30 ราย ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยได้กำลังติดตามสถานการณ์ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นชาวจีนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลราชวิถีเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องขอประกาศขอรับอาสาสมัครล่ามภาษาจีน ขณะที่โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลราชวิถี ประกาศรับบริจาคเลือดกรุ๊ปโอเป็นการเร่งด่วน
ยันมีเลือดสำรองเพียงพอ อย่าเชื่อข่าวลือ
ความคืบหน้าเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาติไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการยกระดับเปิดแผนรับมืออุบัติเหตุหมู่ โดยได้เพิ่มบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ อีกทั้งได้มีการจัดพื้นที่แบ่งโซนผู้บาดเจ็บตามอาการ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด ล่าสุดมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งตัวมายังโรงพยาบาลจุฬาจำนวนทั้งสิ้น 30 ราย ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยได้กำลังติดตามสถานการณ์ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นชาวจีนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลราชวิถีเป็นจำนวนมาก
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ปฏิเสธข่าว ขอให้ประชาชนมาบริจาค โลหิตช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เพราะตอนนี้ ที่ศูนย์ มีโลหิต กว่า 3 พันยูนิตที่พอจะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ส่วนใครที่จะอยากบริจาคโลหิตต้องมาตอนเช้า
กลุ่มเดิมก่อเหตุ-ทำร้ายความสุขของคนไทย
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐฒนตรี รับทราบสถานการณทึ่เกิดขึ้น ที่แยกราชประสงค์แล้ว โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลผู้บาดเจ็บ และ scanพื้นที่โดยรอบ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยจนกว่าจะมั่นใจที่สุด รวมทั้งได้มอบหมายให้ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงเข้าติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าตลอดเวลา เบื้องต้นรับรายงานว่า นำส่งผู้บาดเจ็บถึงมือแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วทุกราย
สำหรับผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่ชัดเจน และตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคล เพราะบางรายมีร่องรอยบาดเจ็บ และแผลเพลิงไหม้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปอย่างชัดเจนถึงสาเหตุของการระเบิด ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลใด แต่มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นกลุ่มเดิมๆที่เสียประโยชน์ และต้องการสร้างสถานการณ์วุ่นวายในประเทศ ทำลายบรรยากาศเรื่องการท่องเที่ยว และไม่ต้องการเห็นคนไทยมีความสุขสงบ เป็นความอาฆาตมาดร้าย ของคนที่เคยกล่าวว่าเมื่อตนไม่สุข ก็อย่าหวังที่คนอื่นจะสุขได้
ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นบุคคลกลุ่มใด ถือว่ากระทำตัวเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ และถือว่าเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่ประเทศเพิ่งจะผ่านเวลาแห่งความปลาบปลื้มจากกิจกรรมเทิดพระเกียรติ bike for mom นอกจากนี้ยังพบว่ามีกระบวนการปล่อยข่าวลือใน social media ว่ามีการประกาศภาวะฉุกเฉิน การสั่งปิดโรงเรียน สถานที่ราชการ สถาบันการเงิน รวมทั้งให้ข้อมูลจุดเสี่ยงต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นข่าวลือ และเห็นได้ว่า เป็นการกระทำอย่างเป็นขบวนการ มีการวางแผนหวังสร้างความปั่นป่วน รัฐบาลขอพี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนก รัฐบาลจะการดำเนินการหาผู้กระทำผิดมาลงโทษอย่างเด็ดขาดโดยรวดเร็วที่สุด
มุ่งทำลายเศรษฐกิจ-ทำร้ายประชาชน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขอแสดงความเสียจต่อเหตุการณ์ที่เกิดข้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย แต่ไม่ขอชี้ชัดว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการเมืองหรือก่อการร้าย แต่ชัดเจนว่า คนร้ายต้องการทำลายเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว เพราะเป็นใจกลางธุรกิจ ถือเป็นสิ่งที่ต้องประณาม เพราะจากชนิดของระเบิดมีเจตนาทำร้ายคน และเจตนาใช้ความรุนแรง เพราะเวลาก่อเหตุ และพื้นที่ก่อเหตุพบว่าคนร้ายนำระเบิดเข้าไปวางในพระพรหมเลย
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทหาร ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามหาตัวคนร้ายให้ได้ เพราะเป็นเหตุสะเทือนใจ เพราะเชื่อว่าจะติดตามตัวคนร้ายได้ ทั้งนี้ตนจะเกาะติดสถานการณ์ตลอดเวลาในฐานะดูแลความมั่นคง
ผบ.ทบ. ระบุไม่มีการข่าวแจ้งเตือน
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. กล่าวว่า ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้สั่งการให้ทหารจัดกำลังทำงานร่วมกับตำรวจ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ระวังไว้ในช่วงนี้ ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่การที่จะมีอะไรแทรกซ้อนก็อาจจะเกิดขึ้นได้ เราพยายามดูแลในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ ซึ่งวันนี้อาจจะคลายตัวลง อาจจะเป็นช่องว่าง ตนจึงได้สั่งการให้ลงในพื้นที่ร่วมกับตำรวจ ระยะหลังที่ผ่านมา ก็ไม่มีข่าวอะไรที่เป็นสิ่งบอกเหตุ แต่เราได้ติดตามข่าวมาโดยตลอด ซึ่งขอให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเกิดเหตุเพราะสาเหตุใด ที่เป็นเรื่องราวที่แน่นอน ซึ่งในห้วงนี้ก็มีเรื่องต่างๆ ที่มีความคิดเห็นต่าง และอาจจะเป็นส่วนที่ชักนำให้มาก่อเหตุในครั้งนี้ก็เป็นได้ แต่เรียนว่ายังไม่มีความชัดเจน จึงไม่อยากจะพูดว่าเป็นเรื่องอะไร พยายามติดตามประสานงานกับทางตำรวจเพราะทำงานร่วมกันมาโดยตลอด
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ต้องออกมาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เพราะอาจจะมีบางจุดเป็นจุดล่อแหลมและเป็นจุดเสี่ยง ซึ่งบางครั้งไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด และการออกมาเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนด้วย
"การออกมาของเจ้าหน้าที่ทหารในครั้งนี้ เป็นเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราก็ต้องช่วยกันออกมาดูแลได้อยู่แล้ว เพราะงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยก็ยังดำเนินการอยู่ในตอนนี้" พล.อ.อุดมเดช กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่ทหารออกมาก็จะต้องมีการประกาศ ภายใต้คำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ที่เจ้าหน้าที่ทหารออกมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ในส่วนของการทำหน้าที่แต่เรามีส่วนของกองกำลังรักษาความสงบอยู่แล้ว กองกำลังทั้งหมดใน สี่ กองทัพภาค ยังปฏิบัติงานอยู่ ยังลงพื้นที่สัมผัสกับประชาชน เมื่อเหตุการณ์สงบก็เข้าไปพูดคุยเสริมสร้างความปรองดองดูแลความเรียบร้อย หากมีเหตุการณ์เราก็สามารถออกมาได้ ซึ่งการออกมาปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารในขณะนี้เป็นส่วนที่สามารถออกมาทำงานได้ เรามีกฎหมายรองรับ
"กลาโหม" ประณามการก่อความรุนแรง
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว ประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุ และกลุ่มคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเหตุ ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความตั้งใจของกลุ่มเสียผลประโยชน์ทางการเมือง ที่ต้องการทำลายบรรยากาศเวลาแห่งความสุขของคนไทยทั้งประเทศที่ผ่านมา เป็นความพยายามที่ต้องการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ที่สำคัญ เป็นการประสงค์ต่อชีวิต ของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในที่สาธารณะ ซึ่งเหตุการณ์รุนแรงในลักษณะเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนในกทม.และต่างจังหวัดที่ผ่านมา
ประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างการรวมพลังความเป็นหนึ่งครั้งสำคัญ เพื่ออนาคตของประชาชนทั้งประเทศ ความคิดเห็นต่างสามารถมีได้ แต่การใช้ความรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ หรือการมุ่งทำร้ายและซ้ำเติมบ้านเกิดเมืองนอนของตน โดยมุ่งความสะใจและประสงค์แต่ผลประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้อง เป็นสิ่งที่ประชาชนไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถยอมรับได้ และฝ่ายความมั่นคงจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก
จึงขอให้กลุ่มไม่หวังดี ที่ก่อเหตุและกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น หยุดการกระทำที่ป่าเถื่อนต่อคนไทยด้วยกันและหยุดทำร้ายประเทศชาติ พร้อมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชน และประชาชนไทยทุกคน รวมทั้งภาคีเครือข่ายเพื่อสิทธิมนุษยชนและองค์กรทุกภาคส่วนร่วมกันประณามและจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ประสงค์ทำร้ายประเทศไทยดังกล่าว พร้อมทั้งมีส่วนร่วมกันเฝ้าระวัง แจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำที่จะนำมาซึ่งความเสียหายต่อสังคม ให้เจ้าหน้าที่รัฐทราบโดยทันที ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐกำลังพยายามและหยุดยั้งการใช้ความรุนแรงต่อสังคมอย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ
สื่อเสื้อแดงรู้ล่วงหน้าโพสต์เตือนตั้งแต่ 13ส.ค.
ขณะที่เฟซบุ๊ก สื่อมวลชนคนเสื้อแดง เราคือเพื่อนกัน ซึ่งมีผู้อ้างตัวว่า เป็นสื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้มีการโพสต์ข้อความ เมื่อเวลา 22.07น.วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ด่วนโว้ย 14-4-18นี้ ระวังในกทม.ให้ดี บอกแค่นี้ 86 % บอกแค่นี้ ย้ำ ๆ รู้สึกมึงกล้าก็เจอกัน
