อาจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชา Business analytics and intelligence
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
http://as.nida.ac.th/th/
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชา Business analytics and intelligence
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
http://as.nida.ac.th/th/
รายงานข่าวจากสธ. ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีข้อตกลงระหว่างฝ่ายนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข กับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าหากมีการย้าย นพ.ณรงค์กลับไปปฏิบัติหน้าที่ปลัด สธ. ก็จะลาออกทั้ง 3 คน โดยแหล่งข่าวภายในสธ.เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ ศ.นพ.รัชตะ และ นพ.สมศักดิ์ จะตัดสินใจลาออก หากนายกรัฐมนตรีเซ็นคำสั่งให้นพ.ณรงค์กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ส่วนนายยงยุทธยังไม่มีความชัดเจน.... จาก http://www.posttoday.com/social/health/380216
เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่จริง ผมไม่แน่ชัดประจักษ์แก่ใจ เพราะไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่พฤติกรรมของรองนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์ ดร. ยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ศาสตราจารย์ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ ในการเข้าข้าง ปกป้อง และ ล้างผิด ให้ สปสช. ซึ่งถูกหน่วยงานตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ปปท. ปปง. สตง. และ คตร. ตรวจสอบและพบการใช้เงินผิดประเภทส่อไปในทางทุจริตของสปสช. อย่างมากมาย นอกจากนี้ยังตั้งกรรมการสอบสวนปลัด สธ. ซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนไม่มีความเชื่อถือในตัว พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ ประธาน คตร. ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเลย แต่กลับมีความพยายามจากทั้งสามคน ในการเข้าข้าง ล้างผิด ปิดตา ของทั้งสามคน ทำให้ชวนสงสัยว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนั้น เมื่อสืบค้นข้อมูลเชิงลึกทำให้ทราบว่า
1.รมว. และ รมช.สธ. ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สมเกียรติ วัฒนะศิริชัยกุล ผู้อำนวยการ สวรส และ ปปช ได้ชี้มูลความผิดไปแล้ว
2.รมว. และ รมช.สธ. ใช้อำนาจแต่งตั้งผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อนมาเป็นกรรมการ สวรส. ชุดปัจจุบัน ซึ่ง ปปช. ได้ชี้มูลความผิดไว้แล้ว
3.ใช้อำนาจของ รมว. และ รมช.สธ. แต่งตั้งผู้ถูกตรวจสอบทุจริต (นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กรรมการ สปสช.) มาเป็นประธานสอบ ข้อเท็จจริง สวรส. โครงการ IDRC ทั้งๆที่ นพ.สุวิทย์เคยป็นประธานโครงการดังกล่าวเสียเอง และน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตด้วย
4.นายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เองทำผิดกฎหมาย โดยได้รับเงินจากสปสช. ซึ่งทั้ง ปปช. ปปท. คตร. และ สตง. ได้ตัดสินไปแล้วว่าใช้เงินผิดประเภท ผิดระเบียบ ส่อไปในทางทุจริต นายสมศักดิ์ เองเคยร่วมรับเงินเหล่านั้นมาจาก สปสช. (ซึ่งควรเป็นเงินที่นำไปรักษาประชาชน) และเป็นผู้ร่วมทำผิดเสียเอง ทำให้ต้องพยายามตั้งกรรมการมาฟอกผิดให้ สปสช. เพราะหาก สปสช. ผิด ตัวเองจะติดร่างแห และผิดไปด้วย เงินเหล่านี้นายสมศักดิ์ รับมาในนามมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ที่มีนายสมศักดิ์ เป็นเลขาธิการ และมีศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ประธานบ้านสามพราน เป็นประธานมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ตาม พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 ห้ามนำเงินโอนไปให้ NGO
5.นายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เป็นพวก 2 เอา 2 ไม่เอา คือไม่เอารัฐประหาร ไม่เอาความรุนแรง เอาการเลือกตั้ง และเอาประชาธิปไตย แต่เมื่อมีรัฐประหาร ก็เลือกที่จะมาเป็น รมช.สาธารณสุข ถ่มน้ำลายรถหน้าตัวเองอย่างเหลือเชื่อเพื่อผลประโยชน์และอำนาจ
เราคงยังจำกรณีคุณถวิล เปลี่ยนศรีที่ถูกโยกย้ายจากสภาความมั่นคงแห่งชาติอย่างไม่เป็นธรรมได้ และสุดท้ายก็ได้ความยุติธรรมกลับคืน ทำให้นายกรัฐมนตรีในยุคนั้น ถึงกับเป๋ หาทางลงไม่ถูกทีเดียว ตามคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด หากนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งกลับคืนสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้วจะฟ้องร้อง ก็น่าจะได้ และทั้งสามคนนี้ก็คงต้องไป
แต่ถ้าเป็นผม นายกรัฐมนตรีลงนามข้ามหัวหงอกๆ ขนาดนี้ ขนาดเคยลั่นวาจาไว้ว่าถ้าปลัดกลับมาเมื่อไหร่ ก็พร้อมจะไป ผมว่าทั้งนายยงยุทธ์ นายสมศักดิ์ นายรัชตะ ควรรักษาคำพูด อย่าอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี เลย หรือจะอยู่ต่อรอความผิดให้ครบถ้วนแล้วถูกปลด โดยคำสั่งของ ปปช ก็ดีเหมือนกัน แต่ถ้ายังมีหิริโอตัปปะก็ควรจะลาออกไปเอง อย่าอยู่ต่อไปให้นายกรัฐมนตรีลำบากใจเลย