"นายกฯ" นำขบวนซ้อมใหญ่ ปั่น Bike for Mom เผยสมเด็จพระบรมฯทรงห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก แนะทำตามการประชาสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ ด้าน สอศ.ร่วมประวัติศาสตร์ ส่งทีมช่างตั้งศูนย์ซ่อมจักรยาน ใน กทม.16 จุด และ 76 จังหวัด
เมื่อเวลา 08.00น. วานนี้ (2 ส.ค.) ที่ลานพระราชวังดุสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พร้อมด้วย พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้แทนราชเลขานุการในพระองค์ ซักซ้อมประเมินความพร้อมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ "Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่" โดยทันทีที่นายกฯ รับฟังรายงานลำดับขั้นตอนพิธีการจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และสำรวจสถานที่ เส้นทางเสด็จฯ จุดถวายรายงานพลับพลาที่ประทับ จุดวางซุ้มเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และบริเวณประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ รวมถึงฟังบรรยายสรุปการจัดขบวนจักรยานพระที่นั่ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ในขบวน เอ และจุดวางจักรยานสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในขบวน บี แผนรักษาความปลอดภัย การจัดทีมแพทย์ และพยาบาลประจำขบวน โดยมีผู้เกี่ยวข้องร่วมรับฟัง อาทิ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนผู้ว่าฯ กทม. อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
จากนั้นเวลา 08.25น. พล.อ.ประยุทธ์ และ ผู้แทนราชเลขานุการในพระองค์ นำขบวนรัฐมนตรีสวมเสื้อสีเหลือง ปั่นจักรยานนำผู้แทนข้าราชการทุกภาคส่วน และประชาชน ออกจากลานพระราชวังดุสิต ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้เส้นทางถนนศรีอยุธยา ผ่านถนนพญาไท อนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าแยกสามเหลี่ยมดินแดง ผ่านถนนวิภาวดีฯ ขึ้นสะพานสุทธิสาร จากนั้นเลี้ยววนกลับก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าว ไปยังกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยระหว่างเส้นทาง จะสำรวจและประเมินความสมบูรณ์ของผิวถนน การบริการต่าง ๆ อุปสรรคและปัญหาระหว่างเส้นทางปั่น เมื่อถึง ร.1รอ. รับฟังรายงานการบริหารจัดการพื้นที่จัดกิจกรรมและพื้นที่เตรียมรับเสด็จ ที่ประทับพักภายใน กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ก่อนเดินทางออกโดยรถบัส จากกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ไปตรวจความพร้อม และรับฟังรายงานการบริหารจัดการพื้นที่ในการจัดกิจกรรม ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยจะใช้เส้นทางผ่านบริเวณถนนด้านในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อสำรวจพื้นผิวถนน และแสงไฟส่องสว่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการซ้อมใหญ่เป็นไปด้วยดี มีการจัดแบ่งขบวนเสมือนวันจริง โดยขบวนเอ นำโดย นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ผู้แทนราชเลขานุการในพระองค์ ขบวนบี มีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และขบวน ซี มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ทั้งนี้ในแต่ละขบวน มีการจัดชุดเจ้าหน้าบริการ และทีมแพทย์เพื่ออำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยผู้ร่วมกิจกรรม
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าเฝ้าฯถวายรายงานความพร้อมต่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ถึงความคืบหน้าการจัดกิจกรรม โดยพระองค์ท่านทรงห่วงใยประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยให้คำนึงถึงสุขภาพความพร้อมของร่างกาย และความปลอดภัย ปั่นได้เท่าที่ปั่น
อย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งในกรุงเทพฯ และในส่วนของท้องถิ่น จึงของให้การปั่นในวันจริง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสภาพอากาศปลอดโปร่ง
จากนั้น เวลา 10.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะได้เดินทางด้วยขบวนรถบัสจากกรมทหารราบ ที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1รอ.) มาถึงยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อตรวจความพร้อม และรับฟังรายงานการบริหารจัดการพื้นที่ในการจัดกิจกรรม รวมถึงซักซ้อมพิธีเสมือนจริง
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการซักซ้อมเพื่อเตรียมกิจกรรม ไบค์ฟอร์มัม ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 ส.ค. โดยมีการตรวจความเรียบร้อยตั้งแต่ ลานพระราชวังดุสิต ไล่มาตามลำดับ ทั้งนี้เราเป็นกังวลเนื่องจากวันนี้เป็นช่วงวันหยุดยาววันสุดท้าย ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเป็นห่วงเรื่องการจราจร โดยในวันนี้เราได้ซักซ้อมปั่นจักรยานในเส้นทางช่วงแรก อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ที่จะต้องขี่จักรยานต่อไปในช่วงที่ 2-3 จึงได้อนุมัติให้สามารถใช้เส้นทางกลับรถที่ลาดพร้าว เพื่อไปยัง ร.1รอ. ได้ ซึ่งทุกคนคงพอใจ เพราะหากขี่จักรยานเต็มขบวนทั้งหมด ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องการจราจร และอาจทำให้ไม่สบาย ก่อนถึงวันที่ 16 ส.ค.ได้ ตนอยากให้ทุกคนแข็งแรง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เมื่อได้มีการซักซ้อมทุกอย่าง ทั้งการควบคุมขบวนและการช่วยเหลือกรณีประสบอุบัติเหตุ ซึ่งวันนี้โชคดีที่มีเกิดอุบัติเหตุรถเกี่ยวกันเพียงเล็กน้อย โดยเราได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่งสิ่งที่เป็นกังวลคือ การควบคุมขบวน การติดต่อสื่อสาร การพยาบาล รถนำขบวน การจัดรูปขบวน เพื่อเข้าพิธีการต่างๆ ซึ่งทั้งหมดกองงานในพระองค์ จะร่วมกับคณะทำงานของกองทัพบก ตำรวจ และทหาร จะตรวจเส้นทางในขากลับอีกรอบ จนกระทั่งไปสิ้นสุดที่สนามเสือป่า
" วันนี้ดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ขอขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเมื่อวันก่อนผมได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระองค์ท่านทรงปราบปลื้ม ที่เห็นว่าคนไทยให้ความสนใจในการออกกำลังกายมากขึ้น และพระองค์ท่านทรงเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งผมได้กราบทูลว่า วันนี้รัฐบาลได้เตือนผู้ขับขี่ ทั้งจักรยาน รถยนต์ ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน และ ระมัดระวังตัวเองให้ได้ พระองค์ท่านทรงพระราชทานความห่วงใยให้กับทุกคน ที่จะร่วมขบวนในวันที่ 16 ส.ค. รวมถึงคนไทยทั้งประเทศ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการแสดงความจงรักภักดี นอกจากการปั่นจักรยานในทุกจังหวัดแล้ว สำหรับประชานที่ไม่ได้ขี่จักรยาน ก็ให้ติดตามดูโทรทัศน์เพื่อส่งกำลังใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรม ซึ่งตนคิดว่าส่วนใหญ่แต่ละครอบครัวก็มีคนมาเข้าร่วม โดยขณะนี้ทั่วประเทศมีผู้สมัครร่วมกิจกรรมเกือบ 3 แสนคน ในกรุงเทพฯ ประมาณ 4 หมื่นคน ซึ่งจะเห็นว่าจากการซ้อมวันนี้ มีมาจำนวนมาก ถ้ารวมต่อกันทั้งหมดคงไม่ไหว ทั้งนี้ ขอให้เชื่อฟังการประชาสัมพันธ์ว่าเมื่อร่วมลงทะเบียนแล้วจะขับขี่อย่างไร ส่วนผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียน แต่อยากมาเฝ้ารับเสด็จก็มีการเตรียมจุดให้ตลอดเส้นทาง 7-8 จุด ก็ขอให้ไปอยู่ในจุดดังกล่าว และหลังจากนั้น ก็ให้ร่วมชมกิจกรรมดนตรีที่สนามเสือป่า ทั้งนี้ข้อสำคัญคือ อย่าเข้ามาแทรกตรงขบวน เพราะจะอันตราย อาจทำให้ล้มกันทั้งขบวน หากใครเคยดูการแข่งจักรยานตูเดอร์ฟอร์ง ที่ประเทศฝรั่งเศส เวลาล้มทีก็ล้มกันทั้งหมด ตนจึงอยากขอให้ขี่ร่วมกันเป็นขบวน รวมถึงการแซงขบวนจากด้านข้าง จะทำให้รูปขบวนเสียหาย นอกจากนี้ ผู้ที่ขี่ช้าทำให้ขบวนห้อยท้ายและยืดยาว โดยหากใครไม่ไหว ก็ให้จอดรอที่ข้างทางแล้วต่อท้ายขากลับไปยังสนามเสือป่า
สำหรับแผนการรับมือสภาพอากาศ ถ้าในวันที่ 16 ส.ค. มีฝนตกเพียงเล็กน้อย ก็ยังขี่ต่อได้ ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเป็นห่วงและให้ทหารอากาศ และกรมอุตุนิยมวิทยาให้ติดตามสภาพอากาศในวันจริงด้วย หากมีฝนตกหนักก็อาจต้องชะลอ แต่อย่างไร พระองค์ท่านทรงตั้งพระทัยไว้แล้ว แต่ถ้าอันตรายอย่างไรก็ต้องแล้วแต่สถานการณ์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการปั่นระยะทาง 15 กิโลเมตรในวันนี้ ตนต้องออกแรงมากหน่อยในช่วงขึ้นสะพาน ซึ่งคิดว่าพอไหว แต่ในระยะยาว ไม่รู้ อยู่ที่ใจ ตนพยายามเต็มที่เพื่อถวายสมเด็จพระราชินีฯ และรู้ว่าสื่อมวลชนก็เป็นกำลังใจ และอยากให้ประชาชนมีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จพระบรมโอสาธิราชฯ โดยอย่าเพิ่งถือว่าวันนี้เป็นงานใหญ่โต เพราะงานใหญ่จริงๆ คือวันที่ 16 ส.ค. ขอให้ตีข่าวกันในวันนั้น วันนี้อย่าเพิ่งตีข่าว เพราะแค่การซักซ้อมเฉยๆ และสุดท้ายขอฝากให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม อย่าไม่สบายหรือเกิดอุบัติเหตุจากการซักซ้อม ส่วนใครที่ไม่สบายก็ไปหาหมอ ซึ่งเมื่อกี้ตอนปั่นเสร็จตนวัดความดันก็สูงขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าความดันขึ้นแช่นานๆแล้วไม่ลงตรงนี้น่ากลัว จึงขอให้ทุกคนดูแลตัวเองด้วย
***อาชีวะ ส่งทีมดูแลจักรยาน “ปั่นเพื่อแม่”
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ “ปั่นเพื่อแม่ ไบก์ ฟอร์ มัม 2015” ซึ่งเป็นกิจกรรมตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงแสดงความกัตญญูกตเวทีแด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 และเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี แสดงออกถึงความรักที่มีต่อแม่ เสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 16 สิงหาคม นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ได้รับมอบหมายจากสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการบริการซ่อมรถจักรยาน ทั้งพื้นที่ในกรุงเทพและภูมิภาค สำหรับในกรุงเทพฯ ให้บริการบริเวณลานพระราชวังดุสิต และจุดพักรอตามเส้นทาง 16 จุด และร่วมส่งนักศึกษาอาชีวะไปในขบวนจักรยานอีก 65 คัน ในส่วนภูมิภาค สอศ. ได้มอบให้อาชีวศึกษาจังหวัดทุกแห่งร่วมกับหน่วยงานในจังหวัด 76 จังหวัด ให้บริการซ่อมรถจักรยานที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ จุดละ 20 คน โดยรวมจะมีผู้บริหาร ครู และนักศึกษาอาชีวะร่วมให้บริการในกิจกรรมนี้กว่า 3,000 คน ก่อนหน้านี้ สอศ.ได้เตรียมความพร้อมโดยร่วมกับสถานประกอบการที่มีประสบการณ์ด้านรถจักรยาน ดำเนินการอบรมครูและนักศึกษาอาชีวะไปแล้วเมื่อวันที่ 14-23 กรกฎาคม พร้อมทั้งเชิญนายมีศักดิ์ ปักษ์ชัยภูมิ อดีตนักแข่งจักรยานทีมชาติไทย มาร่วมให้ความรู้ด้วย การรับบริการซ่อมแซมและลงทะเบียนรับ ส่งรถจักรยานจะดำเนินการโดยนักศึกษาอาชีวะจากสถานศึกษาในสังกัด จำนวน 6 แห่ง โดยการให้บริการซ่อมรถจักรยานจะดำเนินการ ณ จุดลงทะเบียน และจุดพักรอ 16 จุด แต่ละจุดจะมีผู้บริหาร 3 คน ครู 5 คน และนักศึกษาอาชีวศึกษา 20 คน อยู่ประจำจุด ดังนี้ 6 จุดแรก ได้แก่ สนามม้านางเลิ้ง แยก จปร. วัดเสมียนนารี สี่แยกวังแดง หน้ากระทรวงคมนาคม และสมบัติทัวร์ มีวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ และวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการเป็นผู้ดูแล 3 จุดต่อไป ได้แก่ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีเป็นผู้ดูแล อีก 3 จุดที่สนามกีฬากองทัพบก วิทยาลัยการอาชีพกาญจนาภิเษกหนองจอก เป็นผู้ดูแล จุดพักรอที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีก 2 จุด วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม เป็นผู้ดูแล จุดพักรอที่ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จำนวน 2 จุด มอบให้วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรีเป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ ตลอดระยะทาง 43 กิโลเมตร จากจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุดจะมีนักศึกษาอาชีวะจาก 6 วิทยาลัยเข้าร่วมขบวนปั่นรถจักรยานเพื่อให้บริการซ่อมระหว่างทางอีกจำนวน 65 คัน นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ และวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ วิทยาลัยละ 2 คน รวม 4 คน ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการชุดช่างจักรยานพระราชทานอีกด้วย
สำหรับรายละเอียดในการให้บริการของนักศึกษาอาชีวศึกษาตามจุดต่าง ๆ จะให้บริการตรวจเช็คสภาพจักรยานเบื้องต้นก่อนทำการปั่น เช่น ตรวจเช็คระบบเกียร์จักรยาน จุดหมุนของจักรยาน ระบบเบรกจักรยาน ความดันลมยาง สภาพยาง โซ่รถจักรยาน ความแน่นของน๊อตต่าง ๆ ความตรงของอาน/แฮนด์/คอแฮนด์/หลักอาน และรับเปลี่ยนอะไหล่ โดยให้บริการฟรี ทั้งอะไหล่และค่าแรง ระหว่างทางหากรถจักรยานมีปัญหาก็แจ้งให้นักศึกษาอาชีวะ ที่อยู่ในขบวนดำเนินการซ่อมแซมให้ โดยมีจุดสังเกตคือ มีปลอกแขนสีส้มสำหรับช่างซ่อมบำรุงร่วมขบวนสวมอยู่ และในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ จะมีนักศึกษาอาชีวะร่วมซ้อมใหญ่ด้วย
ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวว่า นับว่าเป็นโอกาสดีของนักศึกษาอาชีวะ ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ เพราะจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ ที่ได้นำความรู้ที่เรียนและอบรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม สร้างทักษะในการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สามารถใช้เครื่องมือได้อย่างช่างมืออาชีพ รู้ฝีมือของตนเอง และมีจิตอาสาในการช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งอาชีวศึกษายินดีที่จะส่งนักศึกษาเข้าร่วมงานที่มีคุณค่าเช่นนี้อีกในครั้งต่อไป.
เมื่อเวลา 08.00น. วานนี้ (2 ส.ค.) ที่ลานพระราชวังดุสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พร้อมด้วย พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้แทนราชเลขานุการในพระองค์ ซักซ้อมประเมินความพร้อมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ "Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่" โดยทันทีที่นายกฯ รับฟังรายงานลำดับขั้นตอนพิธีการจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และสำรวจสถานที่ เส้นทางเสด็จฯ จุดถวายรายงานพลับพลาที่ประทับ จุดวางซุ้มเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และบริเวณประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ รวมถึงฟังบรรยายสรุปการจัดขบวนจักรยานพระที่นั่ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ในขบวน เอ และจุดวางจักรยานสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในขบวน บี แผนรักษาความปลอดภัย การจัดทีมแพทย์ และพยาบาลประจำขบวน โดยมีผู้เกี่ยวข้องร่วมรับฟัง อาทิ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนผู้ว่าฯ กทม. อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
จากนั้นเวลา 08.25น. พล.อ.ประยุทธ์ และ ผู้แทนราชเลขานุการในพระองค์ นำขบวนรัฐมนตรีสวมเสื้อสีเหลือง ปั่นจักรยานนำผู้แทนข้าราชการทุกภาคส่วน และประชาชน ออกจากลานพระราชวังดุสิต ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้เส้นทางถนนศรีอยุธยา ผ่านถนนพญาไท อนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าแยกสามเหลี่ยมดินแดง ผ่านถนนวิภาวดีฯ ขึ้นสะพานสุทธิสาร จากนั้นเลี้ยววนกลับก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าว ไปยังกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยระหว่างเส้นทาง จะสำรวจและประเมินความสมบูรณ์ของผิวถนน การบริการต่าง ๆ อุปสรรคและปัญหาระหว่างเส้นทางปั่น เมื่อถึง ร.1รอ. รับฟังรายงานการบริหารจัดการพื้นที่จัดกิจกรรมและพื้นที่เตรียมรับเสด็จ ที่ประทับพักภายใน กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ก่อนเดินทางออกโดยรถบัส จากกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ไปตรวจความพร้อม และรับฟังรายงานการบริหารจัดการพื้นที่ในการจัดกิจกรรม ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยจะใช้เส้นทางผ่านบริเวณถนนด้านในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อสำรวจพื้นผิวถนน และแสงไฟส่องสว่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการซ้อมใหญ่เป็นไปด้วยดี มีการจัดแบ่งขบวนเสมือนวันจริง โดยขบวนเอ นำโดย นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ผู้แทนราชเลขานุการในพระองค์ ขบวนบี มีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และขบวน ซี มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ทั้งนี้ในแต่ละขบวน มีการจัดชุดเจ้าหน้าบริการ และทีมแพทย์เพื่ออำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยผู้ร่วมกิจกรรม
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าเฝ้าฯถวายรายงานความพร้อมต่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ถึงความคืบหน้าการจัดกิจกรรม โดยพระองค์ท่านทรงห่วงใยประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยให้คำนึงถึงสุขภาพความพร้อมของร่างกาย และความปลอดภัย ปั่นได้เท่าที่ปั่น
อย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งในกรุงเทพฯ และในส่วนของท้องถิ่น จึงของให้การปั่นในวันจริง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสภาพอากาศปลอดโปร่ง
จากนั้น เวลา 10.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะได้เดินทางด้วยขบวนรถบัสจากกรมทหารราบ ที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1รอ.) มาถึงยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อตรวจความพร้อม และรับฟังรายงานการบริหารจัดการพื้นที่ในการจัดกิจกรรม รวมถึงซักซ้อมพิธีเสมือนจริง
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการซักซ้อมเพื่อเตรียมกิจกรรม ไบค์ฟอร์มัม ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 ส.ค. โดยมีการตรวจความเรียบร้อยตั้งแต่ ลานพระราชวังดุสิต ไล่มาตามลำดับ ทั้งนี้เราเป็นกังวลเนื่องจากวันนี้เป็นช่วงวันหยุดยาววันสุดท้าย ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเป็นห่วงเรื่องการจราจร โดยในวันนี้เราได้ซักซ้อมปั่นจักรยานในเส้นทางช่วงแรก อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ที่จะต้องขี่จักรยานต่อไปในช่วงที่ 2-3 จึงได้อนุมัติให้สามารถใช้เส้นทางกลับรถที่ลาดพร้าว เพื่อไปยัง ร.1รอ. ได้ ซึ่งทุกคนคงพอใจ เพราะหากขี่จักรยานเต็มขบวนทั้งหมด ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องการจราจร และอาจทำให้ไม่สบาย ก่อนถึงวันที่ 16 ส.ค.ได้ ตนอยากให้ทุกคนแข็งแรง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เมื่อได้มีการซักซ้อมทุกอย่าง ทั้งการควบคุมขบวนและการช่วยเหลือกรณีประสบอุบัติเหตุ ซึ่งวันนี้โชคดีที่มีเกิดอุบัติเหตุรถเกี่ยวกันเพียงเล็กน้อย โดยเราได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่งสิ่งที่เป็นกังวลคือ การควบคุมขบวน การติดต่อสื่อสาร การพยาบาล รถนำขบวน การจัดรูปขบวน เพื่อเข้าพิธีการต่างๆ ซึ่งทั้งหมดกองงานในพระองค์ จะร่วมกับคณะทำงานของกองทัพบก ตำรวจ และทหาร จะตรวจเส้นทางในขากลับอีกรอบ จนกระทั่งไปสิ้นสุดที่สนามเสือป่า
" วันนี้ดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ขอขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเมื่อวันก่อนผมได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระองค์ท่านทรงปราบปลื้ม ที่เห็นว่าคนไทยให้ความสนใจในการออกกำลังกายมากขึ้น และพระองค์ท่านทรงเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งผมได้กราบทูลว่า วันนี้รัฐบาลได้เตือนผู้ขับขี่ ทั้งจักรยาน รถยนต์ ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน และ ระมัดระวังตัวเองให้ได้ พระองค์ท่านทรงพระราชทานความห่วงใยให้กับทุกคน ที่จะร่วมขบวนในวันที่ 16 ส.ค. รวมถึงคนไทยทั้งประเทศ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการแสดงความจงรักภักดี นอกจากการปั่นจักรยานในทุกจังหวัดแล้ว สำหรับประชานที่ไม่ได้ขี่จักรยาน ก็ให้ติดตามดูโทรทัศน์เพื่อส่งกำลังใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรม ซึ่งตนคิดว่าส่วนใหญ่แต่ละครอบครัวก็มีคนมาเข้าร่วม โดยขณะนี้ทั่วประเทศมีผู้สมัครร่วมกิจกรรมเกือบ 3 แสนคน ในกรุงเทพฯ ประมาณ 4 หมื่นคน ซึ่งจะเห็นว่าจากการซ้อมวันนี้ มีมาจำนวนมาก ถ้ารวมต่อกันทั้งหมดคงไม่ไหว ทั้งนี้ ขอให้เชื่อฟังการประชาสัมพันธ์ว่าเมื่อร่วมลงทะเบียนแล้วจะขับขี่อย่างไร ส่วนผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียน แต่อยากมาเฝ้ารับเสด็จก็มีการเตรียมจุดให้ตลอดเส้นทาง 7-8 จุด ก็ขอให้ไปอยู่ในจุดดังกล่าว และหลังจากนั้น ก็ให้ร่วมชมกิจกรรมดนตรีที่สนามเสือป่า ทั้งนี้ข้อสำคัญคือ อย่าเข้ามาแทรกตรงขบวน เพราะจะอันตราย อาจทำให้ล้มกันทั้งขบวน หากใครเคยดูการแข่งจักรยานตูเดอร์ฟอร์ง ที่ประเทศฝรั่งเศส เวลาล้มทีก็ล้มกันทั้งหมด ตนจึงอยากขอให้ขี่ร่วมกันเป็นขบวน รวมถึงการแซงขบวนจากด้านข้าง จะทำให้รูปขบวนเสียหาย นอกจากนี้ ผู้ที่ขี่ช้าทำให้ขบวนห้อยท้ายและยืดยาว โดยหากใครไม่ไหว ก็ให้จอดรอที่ข้างทางแล้วต่อท้ายขากลับไปยังสนามเสือป่า
สำหรับแผนการรับมือสภาพอากาศ ถ้าในวันที่ 16 ส.ค. มีฝนตกเพียงเล็กน้อย ก็ยังขี่ต่อได้ ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเป็นห่วงและให้ทหารอากาศ และกรมอุตุนิยมวิทยาให้ติดตามสภาพอากาศในวันจริงด้วย หากมีฝนตกหนักก็อาจต้องชะลอ แต่อย่างไร พระองค์ท่านทรงตั้งพระทัยไว้แล้ว แต่ถ้าอันตรายอย่างไรก็ต้องแล้วแต่สถานการณ์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการปั่นระยะทาง 15 กิโลเมตรในวันนี้ ตนต้องออกแรงมากหน่อยในช่วงขึ้นสะพาน ซึ่งคิดว่าพอไหว แต่ในระยะยาว ไม่รู้ อยู่ที่ใจ ตนพยายามเต็มที่เพื่อถวายสมเด็จพระราชินีฯ และรู้ว่าสื่อมวลชนก็เป็นกำลังใจ และอยากให้ประชาชนมีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จพระบรมโอสาธิราชฯ โดยอย่าเพิ่งถือว่าวันนี้เป็นงานใหญ่โต เพราะงานใหญ่จริงๆ คือวันที่ 16 ส.ค. ขอให้ตีข่าวกันในวันนั้น วันนี้อย่าเพิ่งตีข่าว เพราะแค่การซักซ้อมเฉยๆ และสุดท้ายขอฝากให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม อย่าไม่สบายหรือเกิดอุบัติเหตุจากการซักซ้อม ส่วนใครที่ไม่สบายก็ไปหาหมอ ซึ่งเมื่อกี้ตอนปั่นเสร็จตนวัดความดันก็สูงขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าความดันขึ้นแช่นานๆแล้วไม่ลงตรงนี้น่ากลัว จึงขอให้ทุกคนดูแลตัวเองด้วย
***อาชีวะ ส่งทีมดูแลจักรยาน “ปั่นเพื่อแม่”
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ “ปั่นเพื่อแม่ ไบก์ ฟอร์ มัม 2015” ซึ่งเป็นกิจกรรมตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงแสดงความกัตญญูกตเวทีแด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 และเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี แสดงออกถึงความรักที่มีต่อแม่ เสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 16 สิงหาคม นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ได้รับมอบหมายจากสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการบริการซ่อมรถจักรยาน ทั้งพื้นที่ในกรุงเทพและภูมิภาค สำหรับในกรุงเทพฯ ให้บริการบริเวณลานพระราชวังดุสิต และจุดพักรอตามเส้นทาง 16 จุด และร่วมส่งนักศึกษาอาชีวะไปในขบวนจักรยานอีก 65 คัน ในส่วนภูมิภาค สอศ. ได้มอบให้อาชีวศึกษาจังหวัดทุกแห่งร่วมกับหน่วยงานในจังหวัด 76 จังหวัด ให้บริการซ่อมรถจักรยานที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ จุดละ 20 คน โดยรวมจะมีผู้บริหาร ครู และนักศึกษาอาชีวะร่วมให้บริการในกิจกรรมนี้กว่า 3,000 คน ก่อนหน้านี้ สอศ.ได้เตรียมความพร้อมโดยร่วมกับสถานประกอบการที่มีประสบการณ์ด้านรถจักรยาน ดำเนินการอบรมครูและนักศึกษาอาชีวะไปแล้วเมื่อวันที่ 14-23 กรกฎาคม พร้อมทั้งเชิญนายมีศักดิ์ ปักษ์ชัยภูมิ อดีตนักแข่งจักรยานทีมชาติไทย มาร่วมให้ความรู้ด้วย การรับบริการซ่อมแซมและลงทะเบียนรับ ส่งรถจักรยานจะดำเนินการโดยนักศึกษาอาชีวะจากสถานศึกษาในสังกัด จำนวน 6 แห่ง โดยการให้บริการซ่อมรถจักรยานจะดำเนินการ ณ จุดลงทะเบียน และจุดพักรอ 16 จุด แต่ละจุดจะมีผู้บริหาร 3 คน ครู 5 คน และนักศึกษาอาชีวศึกษา 20 คน อยู่ประจำจุด ดังนี้ 6 จุดแรก ได้แก่ สนามม้านางเลิ้ง แยก จปร. วัดเสมียนนารี สี่แยกวังแดง หน้ากระทรวงคมนาคม และสมบัติทัวร์ มีวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ และวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการเป็นผู้ดูแล 3 จุดต่อไป ได้แก่ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีเป็นผู้ดูแล อีก 3 จุดที่สนามกีฬากองทัพบก วิทยาลัยการอาชีพกาญจนาภิเษกหนองจอก เป็นผู้ดูแล จุดพักรอที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีก 2 จุด วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม เป็นผู้ดูแล จุดพักรอที่ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จำนวน 2 จุด มอบให้วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรีเป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ ตลอดระยะทาง 43 กิโลเมตร จากจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุดจะมีนักศึกษาอาชีวะจาก 6 วิทยาลัยเข้าร่วมขบวนปั่นรถจักรยานเพื่อให้บริการซ่อมระหว่างทางอีกจำนวน 65 คัน นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ และวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ วิทยาลัยละ 2 คน รวม 4 คน ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการชุดช่างจักรยานพระราชทานอีกด้วย
สำหรับรายละเอียดในการให้บริการของนักศึกษาอาชีวศึกษาตามจุดต่าง ๆ จะให้บริการตรวจเช็คสภาพจักรยานเบื้องต้นก่อนทำการปั่น เช่น ตรวจเช็คระบบเกียร์จักรยาน จุดหมุนของจักรยาน ระบบเบรกจักรยาน ความดันลมยาง สภาพยาง โซ่รถจักรยาน ความแน่นของน๊อตต่าง ๆ ความตรงของอาน/แฮนด์/คอแฮนด์/หลักอาน และรับเปลี่ยนอะไหล่ โดยให้บริการฟรี ทั้งอะไหล่และค่าแรง ระหว่างทางหากรถจักรยานมีปัญหาก็แจ้งให้นักศึกษาอาชีวะ ที่อยู่ในขบวนดำเนินการซ่อมแซมให้ โดยมีจุดสังเกตคือ มีปลอกแขนสีส้มสำหรับช่างซ่อมบำรุงร่วมขบวนสวมอยู่ และในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ จะมีนักศึกษาอาชีวะร่วมซ้อมใหญ่ด้วย
ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวว่า นับว่าเป็นโอกาสดีของนักศึกษาอาชีวะ ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ เพราะจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ ที่ได้นำความรู้ที่เรียนและอบรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม สร้างทักษะในการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สามารถใช้เครื่องมือได้อย่างช่างมืออาชีพ รู้ฝีมือของตนเอง และมีจิตอาสาในการช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งอาชีวศึกษายินดีที่จะส่งนักศึกษาเข้าร่วมงานที่มีคุณค่าเช่นนี้อีกในครั้งต่อไป.