xs
xsm
sm
md
lg

วิสามัญแนวร่วมRKKดับ มือวางบึ้มสังหาร"รองชุมแพ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จนท.หน่วยงานความมั่นคงสนธิกำลังปิดล้อมค้นบ้านต้องสงสัย หลังสายข่าวแจ้งมีกลุ่มก่อความไม่สงบ RKK แอบซ่อนตัว ปะทะกันดุเดือดคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต พบเป็น "มะซูการือนอ ยะกูมอ" มือวางบึ้ม "รองชุมแพ" เสียชีวิตที่รือเสาะปี 56 "โฆษก กอ.รมน.ภาค 4" เผยผู้ตายมีหมายจับ 9 คดี จนท.คุมตัวได้อีก 1 แนวร่วมขณะลอบฝังตัวเตรียมก่อเหตุป่วนยะลา ด้าน "พระพยอม" เหยือระเบิดขณะบิณฑบาตเมื่อ 25 ก.ค.มรณภาพแล้ว

เมื่อเช้าวานนี้ (2 ส.ค.) พ.ท.ทรงเดช สุกนุ้ย ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้ระดมกำลังจำนวน 1 ชุดปฏิบัติการเข้าสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดการข่าวพิเศษและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.ปัตตานี จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการที่ใช้กฎอัยการศึกปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบ้านเลขที่ 50 บ้านปาแดแตแร ซึ่งเป็นบ้านย่อยของบ้านตันหยง ม.5 ต.บาตง อ.รือเสาะ

หลังจากสืบทราบมีกองกำลังติดอาวุธ RKK กลุ่มนายมะซูการือนอ ยะกูมอ อายุ 31 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 34/1 ม.5 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา หลบหนีคดีความมั่นคงหลายคดีและที่สำคัญเคยลอบก่อเหตุลอบระเบิดดักสังหาร พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วงศ์พรหมเมศร์ อดีต รอง ผกก.ป.สภ.รือเสาะ หรือสมญานามว่า รองชุมแพ และ ส.ต.อ.ปิยะ ภู่พันเว่อร์ ส.ต.ท.สุเวส จันทรังษี เสียชีวิต 3 นายเหตุเกิดที่บริเวณหัวสะพานบ้านปราลี ม.10 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 15 มี.ค.56 ที่ผ่านมา

โดยสายข่าวของเจ้าหน้าที่รายงานว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้แฝงตัวเคลื่อนไหวมาหลบซ่อนตัวที่บ้านของพ่อตาและภรรยา จนเกิดการปะทะกันทำให้นายมะซูการือนอ ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตบริเวณหน้าห้องน้ำภายในบ้านพัก โดยข้างศพมีอาวุธปืนพกขนาด 11 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก พร้อมด้วยระเบิดขว้างอีก 1 ลูกที่ดึงสลักแล้วแต่ไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการเก็บกู้เอาไว้ได้ด้วยความปลอดภัย พร้อมทั้งได้ควบคุมตัวพ่อตา และภรรยานายมะซูการือนอ ไปควบคุมตัวที่ฐานปฏิบัติการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดสวนธรรม อ.รือเสาะ ส่วนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นายคือ ส.ท.พิสิฐศักดิ์ ราชจินดา อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมที่ 953 ถูกกระสุนปืนของคนร้ายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลรือเสาะ

การปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งเวลา 00.15 น.ของวานนี้ เจ้าหน้าที่ชุดการข่าวพิเศษและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมพิเศษ จ.ปัตตานี ได้ร่วมสนธิกำลังกันใช้กฎอัยการศึกเพื่อปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย จึงได้ทำการประสานผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ รวมทั้งโต๊ะอิหม่าม และประธาน อบต.บาตง ให้มาเรียกเจ้าของบ้านซึ่งเป็นพ่อตา และภรรยาของ นายมะซูการือนอ ออกมาแสดงตัวแต่ทั้ง 2 คน พยายามที่จะปกปิด และพูดจาบ่ายเบี่ยงว่า นายมะซูการือนอ ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านพัก โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมประมาณ 3 ชั่วโมงแต่ไร้ผล

เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพัก แต่กลับถูกนายมะซูการือนอ ใช้อาวุธปืนยิงใส่จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ นานกว่า 30 นาที เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพักพบนายมะซูการือนอ ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าห้องน้ำ พร้อมปืนและลูกระเบิดของกลางตกอยู่ข้างศพ

ต่อมา พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.รือเสาะ พร้อม พ.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ ไตรราช พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ อัยการจังหวัด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุและเก็บรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐาน ก่อนที่จะส่งศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ในส่วนของพ่อตาและภรรยาของนายมะซูการือนอ นั้น เจ้าหน้าที่ได้จัดทำประวัติไว้ในเบื้องต้นพร้อมใช้กฎอัยการศึกควบคุมตัวเพื่อสอบสวนขยายผลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งขยายผลถึงเครือข่ายของนายมะซูการือนอ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลียร์พื้นที่จุดเกิดเหตุแล้วเสร็จนายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอรือเสาะ พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.รือเสาะ และ พ.ท.ทรงเดช สุกนุ้ย ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 ได้ร่วมกันชี้แจงทำความเข้าใจต่อผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และโต๊ะอิหม่าม รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ ณ มัสยิดภายในหมู่บ้านปาแดแตแร ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกรงกลุ่มคนร้ายจะหยิบยกประเด็นการวิสามัญนายมะซูการือนอ ไปประชาสัมพันธ์ และปลุกระดมชวนเชื่อให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังเจ้าหน้าที่ทางการที่ใช้ความรุนแรงจนเป็นเหตุให้นายมะซูการือนอ เสียชีวิต ซึ่งประชาชนทุกคนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะมีการสลายตัวไป

**รวบอีก1แนวร่วมเตรียมป่วนยะลา

วันเดียวกัน ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่า จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้สนธิกำลังเข้าติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่หมู่ 5 ต.บาตง อ.รือเสาะ เมื่อช่วงเวลา 01.15 น.ของวานนี้ และต่อมาเวลา 05.00 น.ได้เกิดเหตุปะทะกันขึ้น จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นายคือ ส.ท.พิสิฐศักดิ์ ราชจินดา เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมที่ 953 นำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อาการปลอดภัย และผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 1 ราย คือ นายมะซูการือนอ ยะกูมอ ตรวจยึดอาวุธปืนพก 1 กระบอก ลูกระเบิดขว้าง 1 ลูกและวัตถุพยานอื่นๆ หลายรายการ และต่อมาเวลา 07.30 น. ได้ขยายผลเข้าติดตามจับกุมได้เพิ่มเติมอีก 1 รายคือนายอับดุลเลาะ ยูนุ ในพื้นที่บ้านพงยือไร อ.เมือง จ.ยะลา

"กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งต่อสู้ขัดขืนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ก่อเหตุรุนแรงตามแนวทางสันติวิธีเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียด้วยการเชิญผู้นำศาสนา นายก อบต. ผู้ใหญ่บ้าน ญาติ และภรรยา เข้าพูดคุยเกลี้ยกล่อมกว่า 5 ชั่วโมงเพื่อให้ออกมามอบตัว แต่บุคคลดังกล่าวได้ใช้ระเบิดขว้างใส่ พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ ทำให้เจ้าหน้าที่รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัว จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว" พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

**พบประวัติผู้ตายมีหมายจับ 9 คดี

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมของผู้เสียชีวิต คือ นายมะซูการือนอ ยะกูมอ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ที่ 5 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา พบมีหมายจับ 9 หมายประกอบด้วย 1.หมายจับที่ 164/48 ลงวันที่ 2 พ.ค.58 จากกรณีร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และชิงทรัพย์อาวุธปืนของทางราชการ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.47,

2.หมายจับที่ 61/49 ลงวันที่ 24 ม.ค.49 จากกรณีร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำตามหน้าที่ ร่วมกันมีอาวุธปืน เมื่อวันที่ 17 ต.ค.48 (อัยการสั่งไม่ฟ้องเมื่อวันที่ 16 ต.ค.49),

3.หมายจับที่ 79/50 ลงวันที่ 2 มี.ค.50 จากกรณียิงนายหลีกี้ แซ่หลี แต่ปืนไม่ทำงาน นายหลีกี้ ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.49,

4.หมายจับที่ 811/50 ลงวันที่ 14 พ.ย.50 จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายดี แสวงเชิดพงษ์ เสียชีวิต เหตุเกิดตลาดสดรือเสาะ ม.1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 8 พ.ย.50,

5.หมายจับที่ 85/50 ลงวันที่ 22 ธ.ค.50 จากกรณีเจ้าหน้าที่ปิดล้อมพื้นที่ ม.3 บ้านนาดา ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ปรากฏว่า เห็นกลุ่มวัยรุ่น 4 - 5 คนวิ่งหลบหนี และได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.50,

6.หมายจับที่ 551/50 ลงวันที่ 22 ธ.ค.50 จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ต.ค.50 นายดุลเลาะ กามะเด็ง กับพวกรวม 23 คนได้ร่วมกันสะสมกำลังพล หรืออาวุธสมคบกันเพื่อก่อการร้าย ในพื้นที่ ม.2 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา,

7.หมายจับที่ 85/51 ลงวันที่ 14 ม.ค.51 จากกรณีร่วมกันสะสมกำลังพลเพื่อก่อการร้าย เมื่อวันที่ 6 พ.ค.50 พื้นที่ ม.3 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา,

8.หมายจับที่ 454/52 ลงวันที่ 31 ก.ค.52 จากกรณีคน 4 คน ใช้อาวุธปืนข่มขู่บังคับ นายสุริศักดิ์ ทางรัตนสุวรรณ เจ้าของร้านทองรูปพรรณ ขณะเดียวกันมี อส.อ.รือเสาะ ผ่านมา จึงเกิดการปะทะ ทำให้นายสุริศักดิ์ เสียชีวิต เหตุเกิดเลขที่ 303 ม.1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ก.ค.52

และ 9.หมายจับที่ 368/55 ลงวันที่ 25 ต.ค.55 จากกรณีลอบโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทหารหมวดปืนเล็กที่ 3 ร้อย.ร.15123 ฉก.นราธิวาส 30 ทำให้เจ้าหน้าที่ เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 2 นาย พื้นที่ ม.1 บ้านท่าเรือ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 17 ก.ค.55

ขณะเดียวกันจากการวิสามัญ นายมะซูการือนอ ที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถขยายผลการจับกุมต่อเนื่องโดยเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) เวลา 08.00 น.เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าปฏิบัติต่อเป้าหมาย 2 ที่บ้านเลขที่ 45 ม.11 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา และผลการปฏิบัติเจ้าหน้าที่พบตัวนายอับดุลเล๊าะ ยูนุ ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายตามการข่าวที่ได้แจ้งว่าจะมีกลุ่มคนเข้ามาเคลื่อนไหวเตรียมก่อเหตุในเขตเทศบาลนครยะลา เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัว เพื่อนำไปสอบปากคำต่อไป

**แนวร่วมยะลาเผาเสาส่งสัญญาณ AIS

วันเดียวกัน ร.ต.ท.เชาวลิต แก้วห่อทอง พนักงานสอบสวน สภ.บันนังสตา ได้ประสานกำลังตำรวจและทหารกองร้อยทหารราบที่ 7054 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานจังหวัดยะลา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ ม.5 บ้านกาโสด ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับความเสียหายจำนวน 1 ต้น

โดยที่เกิดเหตุพบบริเวณเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ถูกคนร้ายลอบวางเพลิง 2 จุดคือที่บริเวณตู้ควบคุมระบบจ่ายไฟฟ้า และตู้ควบคุมระบบส่งสัญญาณไฟเบอร์ออฟติก ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายโดยคนร้ายได้ใช้ล้อยางรถจักรยานยนต์มาวางไว้และราดน้ำมันจุดไฟเผา

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงของเจ้าหน้าที่ทราบว่า เสาส่งระบบสัญญาณถูกลอบวางเพลิงเมื่อช่วงเช้า ทำให้ระบบสัญญาณล่มทั้งหมด ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของบริษัทฯ ซึ่งเดินทางมาตรวจสภาพความเสียหายแจ้งว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระบบได้รับความเสียหายมาก จำเป็นต้องวางระบบใหม่ทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาในการซ่อมแซมประมาณ 1 สัปดาห์

ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบพบว่าคนร้ายน่าลักลอบปีนตาข่ายกั้นเข้ามาจากบริเวณด้านหลังในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. พร้อมกับนำยางรถจักรยานยนต์เข้ามาเป็นตัวเชื้อเพลิงในการวางเพลิงเผาจนทำให้เสาส่งสัญญาณได้รับความเสียหาย เชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่มในพื้นที่ที่ลงมือก่อเหตุสร้างสถานการณ์จนทำให้ประชาชนที่ใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือได้รับความเดือดร้อน

**พระเหยื่อบึ้มปัตตานีมรณภาพอีก 1

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากกรณีพระพยอม สุกตรี ได้รับบาดเจ็บจากกรณีเหตุถูกคนร้ายลอบวางระเบิด ขณะออกบิณฑบาตภายในเขตเทศบาลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีพระสงฆ์มรณภาพและเจ้าหน้าที่ทหาร เสียชีวิตรวม 2 ศพ ส่วนพระพยอม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลยะลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเช้าวานนี้ (2 ส.ค.) พระพยอม สุกตรี ได้มรณภาพลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา และทางญาติได้มารับศพเพื่อนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมหัตคาม (บ้านใหญ่) ม.3 ต.ไม้แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยพระสงฆ์ในพื้นที่ จ.ยะลา ก็ยังคงเป็นไปด้วยความเข้มงวด มีทั้งกำลังทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร คอยดูแลความปลอดภัยให้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับพระสงฆ์อีก

***ประกบยิง2ลูกชายอดีตกำนัน

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.สราวุธ นุชรังค์ ร้อยเวร สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนสะพานบริเวณตลาดนัดกาแลสะนอ ม.1 ต.คอลอตันหยง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไปถึงพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว ทะเบียน ขกง 202 ปัตตานี และมีกองเลือดจำนวนมาก ส่วนผู้เสียชีวิตพลเมืองดีได้นำส่ง รพ.ยะรัง ทราบชื่อ นายมาหามะสุกรี มูซอ อายุ 29 ปี อดีต อส.อำเภอยะรัง และ นายมูฮัมหมัดซับรี มูซอ อายุ 27 ปี เป็น อส.ทพ.22 ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน อยู่บ้านเลขที่ 9/1 ม.4 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าศีรษะและลำตัวหลายนัด
สอบสวนทราบว่า ทั้งสองคนเป็นลูกชายของนายยา มูซอ อดีตกำนัน ต.คลองใหม่ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2556 ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่นายมูฮัมหมัดซับรี ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปซื้อของที่ตลาดนัด โดยมี นายมะหามะสุกรีนั่งซ้อนท้าย ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบแล้วชักอาวุธปืนจ่อยิงทั้งสองคนต่อหน้าชาวบ้านจำนวนมากจนรถเสียหลักล้มคนร้ายยังได้ยิงซ้ำอีกจนแน่ใจว่าเสียชีวิตก่อนจะขโมยอาวุธปืนของทั้งสองหลบหนีไปด้วย ส่วนสาเหตุเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์.
กำลังโหลดความคิดเห็น