ASTVผู้จัดการรายวัน-หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจ ม.44 ออกคำสั่งปรามเด็กแว้น เอาผิดผู้ปกครอง เจอโทษคุก 3 เดือน ปรับ 3 หมื่น หากปล่อยเด็กไปแข่งรถซิ่ง ร้านแต่งรถโดนด้วยฐานสนับสนุน พร้อมติดดาบเจ้าหน้าที่สั่งปิดร้านเหล้าใกล้สถานศึกษาได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 22/2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ
โดยระบุว่า จากกรณีที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและอันตรายจากการรวมตัวแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จึงต้องกำหนดมาตรการป้องกันแก้ปัญหาการมั่วสุมและยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าสถานบริการ แก้ไขปัญหาการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษาและลงโทษผู้ประกอบการที่กระทำผิด
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้า คสช. จึงมีคำสั่งดังนี้
1.ห้ามรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะที่น่าจะนำไปสู่การแข่งรถในทางอันเป็นความผิดซึ่งต้องรับโทษตามกฎหมายหากมีให้เจ้าหน้าที่เข้าระงับยับยั้งตามที่เห็นสมควร เช่นการนำรถที่สงสัยว่าจะใช้แข่งขันมาเก็บรักษาไว้ชั่วคราว
2.พ่อแม่ผู้ปกครองต้องยับยั้ง พฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่สนับสนุนหรือปล่อยปละละเลยให้เยาวชนรวมกลุ่มหรือมั่วสุมเพื่อการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หากมีการกระทำผิดให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย นอกจากนี้ ยังให้แจ้งการกระทำของเด็กในปกครองให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อป้องกันตักเตือน หรืออาจให้วางประกันตามสมควรไม่เกิน 2 ปี แต่ถ้าการกระทำผิดซ้ำอีก ให้ผู้ปกครองต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบเงินประกันเป็นของกองทุนคุ้มครองเด็ก
3.ผู้ใดผลิตครอบครอง จำหน่าย ประกอบ ดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงสภาพรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ หากการกระทำเชื่อได้ว่าเป็นการยุยง ส่งเสริมให้กระทำผิดตามคำสั่งนี้ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำในลักษณะเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นผู้ประกอบการให้สั่งผิดหรือเพิกถอนใบอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หัวหน้า คสช. ยังมีคำสั่งต่อผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการกระทำ ดังนี้
1.ห้ามให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปใช้บริการ
2.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
3.ห้ามเปิดทำการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ
4.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากำหนดเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ
5.ห้ามยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธในสถานที่ของตน หากฝ่าฝืน ให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายสามารถเพิกถอนใบอนุญาตหรือสั่งปิด และห้ามไม่ให้เปิดสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี ในกรณีที่สถานบริการหรือสถานประกอบการใดสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงนั้น ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสั่งปรับปรุงแก้ไขเหตุในเวลา 30 วัน
นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้มีสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หากฝ่าฝืน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีอำนาจสั่งปิดทันที อีกทั้งให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งนี้ปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ถ้าเพิกเฉย ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางแพ่งทางอาญาและทางปกครอง รวมถึงให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งนี้ ดำเนินคดีกับความผิดที่เกี่ยวกับการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการ ตามที่มีกฎหมายบัญญัติความผิดไว้หรือตามคำสั่งนี้ ตลอดจนให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งนี้กวดขันและเร่งรัดจัดทำมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมเพื่อเป็นการจัดระเบียบ และลดปัญหาสังคมโดยเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 22/2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ
โดยระบุว่า จากกรณีที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและอันตรายจากการรวมตัวแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จึงต้องกำหนดมาตรการป้องกันแก้ปัญหาการมั่วสุมและยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าสถานบริการ แก้ไขปัญหาการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษาและลงโทษผู้ประกอบการที่กระทำผิด
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้า คสช. จึงมีคำสั่งดังนี้
1.ห้ามรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะที่น่าจะนำไปสู่การแข่งรถในทางอันเป็นความผิดซึ่งต้องรับโทษตามกฎหมายหากมีให้เจ้าหน้าที่เข้าระงับยับยั้งตามที่เห็นสมควร เช่นการนำรถที่สงสัยว่าจะใช้แข่งขันมาเก็บรักษาไว้ชั่วคราว
2.พ่อแม่ผู้ปกครองต้องยับยั้ง พฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่สนับสนุนหรือปล่อยปละละเลยให้เยาวชนรวมกลุ่มหรือมั่วสุมเพื่อการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หากมีการกระทำผิดให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย นอกจากนี้ ยังให้แจ้งการกระทำของเด็กในปกครองให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อป้องกันตักเตือน หรืออาจให้วางประกันตามสมควรไม่เกิน 2 ปี แต่ถ้าการกระทำผิดซ้ำอีก ให้ผู้ปกครองต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบเงินประกันเป็นของกองทุนคุ้มครองเด็ก
3.ผู้ใดผลิตครอบครอง จำหน่าย ประกอบ ดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงสภาพรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ หากการกระทำเชื่อได้ว่าเป็นการยุยง ส่งเสริมให้กระทำผิดตามคำสั่งนี้ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำในลักษณะเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นผู้ประกอบการให้สั่งผิดหรือเพิกถอนใบอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หัวหน้า คสช. ยังมีคำสั่งต่อผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการกระทำ ดังนี้
1.ห้ามให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปใช้บริการ
2.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
3.ห้ามเปิดทำการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ
4.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากำหนดเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ
5.ห้ามยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธในสถานที่ของตน หากฝ่าฝืน ให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายสามารถเพิกถอนใบอนุญาตหรือสั่งปิด และห้ามไม่ให้เปิดสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี ในกรณีที่สถานบริการหรือสถานประกอบการใดสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงนั้น ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสั่งปรับปรุงแก้ไขเหตุในเวลา 30 วัน
นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้มีสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หากฝ่าฝืน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีอำนาจสั่งปิดทันที อีกทั้งให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งนี้ปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ถ้าเพิกเฉย ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางแพ่งทางอาญาและทางปกครอง รวมถึงให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งนี้ ดำเนินคดีกับความผิดที่เกี่ยวกับการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการ ตามที่มีกฎหมายบัญญัติความผิดไว้หรือตามคำสั่งนี้ ตลอดจนให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งนี้กวดขันและเร่งรัดจัดทำมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมเพื่อเป็นการจัดระเบียบ และลดปัญหาสังคมโดยเร่งด่วน