ASTVผู้จัดการรายวัน-คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถกระบะทหารหมวดปืนเล็กที่ 3 ร้อย ร.15132 ฉก.นราธิวาส 30 เสียชวิต 2 นาย พร้อมลักเอาปืน 9 มม.และเอ็ม 16 ก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผาทั้ง 2 ศพ อีกด้านพบแขวนป้ายผ้าโจมตีการทำงานของรัฐกว่า 10 จุด ใน 5 อำเภอของจ.ปัตตานี และ 3 ตำบล อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา คาดสร้างสถานการณ์เชื่อมโยง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.35 น. วานนี้ (16 ก.ค.) ร.ต.ท.อุทัย พันธ์ทอง ร้อยเวรสภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่รถกระบะทหารสังกัดหมวดปืนเล็กที่ 3 ร้อย ร.15132 ฉก.นราธิวาส 30 บนนถนนหน้ามัสยิดบ้านบลูกาฮูรู หมู่ 4 ต.บาตง ทำให้ทหารเสียชีวิต 2 นาย ก่อนหลบหนีคนร้ายได้วางเพลิงด้วย จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.รือเสาะ พ.ท.เอกพล เลขนอก ผบ.ฉก.นราธิวาส 30
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมิตซูบิซิ สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พุ่งชนเต็นท์ที่ชาวบ้านกางไว้ริมทางตกไปอยู่ริมถนน ตัวรถอยู่ในสภาพถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งคัน โดยที่เบาะคนขับพบศพ ส.ท.ประสิทธิ์ นัคราเรือง ตำแหน่งเป็นพลขับประจำกองร้อย ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโกและที่ประตูซ้ายเป็นศพพลทหารยูโซบ เต๊ะหลี อายุ 22 ปี สภาพถูกเพลิงไหม้ดำเป็นตอตะโกเช่นกัน ส่วนบนถนนเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ และมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ
สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุทหารทั้ง 2 นาย ขับรถยนต์กระบะออกไปทำธุระในเทศบาลตำบลรือเสาะ เมื่อแล้วเสร็จจึงได้กลับฐาน ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 8-9 คน ใช้รถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อ สี และทะเบียนขับไล่หลังมา เมื่อสบโอกาสได้ขับแซงขึ้นหน้า แล้วคนร้ายที่นั่งกระบะหลังใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่มใส่รถกระบะ ส.ท.ประสิทธิ์ เสียชีวิตคาพวงมาลัย ทำให้รถได้วิ่งไปชนเต็นท์ของชาวบ้านที่กางไว้ริมถนนตกลงไปข้างทาง
ส่วนพลทหารยูโซบพยายามเปิดประตูรถเพื่อลงจากรถวิ่งไปหาที่กำบังยิงต่อสู้กับคนร้าย แต่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตก่อนที่ข้างประตูรถ จากนั้นคนร้ายได้ลงจากรถเข้าไปรื้อค้นภายในรถกระบะทหาร และหยิบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ของส.ท.ประสิทธิ์ พร้อมปืนเอ็ม 16 ประจำกายพลทหารยูโซบ จากนั้นใช้น้ำมันราดลงไปบนศพทหารทั้ง 2 นายแล้วจุดไฟเผา ก่อนที่จะพากันขึ้นหลบหนีไป โดยคนร้ายโปรยตะปูเรือใบตามเส้นทางหลบหนี เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามด้วย
วันเดียวกัน พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี รับรายงานจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ว่ามีการก่อกวนโดยการแขวนป้ายผ้า และพบวัตถุต้องสงสัยอีกหลายจุด หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ โดยป้ายผ้าจุดแรกที่พบ คือ อ.หนองจิก 3 จุด โดยเฉพาะริมถนนปัตตานี-หาดใหญ่ เยื้องปากทางเข้าโรงพยาบาลหนองจิก ติดป้ายผ้ากับกำแพง ร้านค้า และมีวัตถุต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดเส้นทางชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ แต่ไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังพบป้ายผ้าใน อ.ยะรัง 3 จุด อ.โคกโพธิ์ 3 จุด อ.มายอ 1 จุด และ อ.ทุ่งยางแดง 1 จุด ส่วนใหญ่ถูกแขวนไว้ตามศาลาที่พักผู้โดยสารริมทาง ตลาดนัด และสะพาน ข้อความระบุว่า “พื้นฐานนักล่าอาณานิคม สยามที่ไร้มนุษยธรรม กลับตาลปัตร กับนานาชาติเสมอ” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมไว้เพื่อตรวจสอบหาวัตถุพยานต่อไป
ที่ จ.สงขลา มีการแขวนป้ายผ้าและพ่นสีสเปรย์สีแด บนถนนรวม 5 จุด ใน 3 ตำบลของ อ.สะบ้าย้อย เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือของแนวร่วมก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์เชื่อมโยงกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงได้แจ้งเตือนให้กำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และเฝ้าระวังการก่อเหตุรุนแรงตามมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.35 น. วานนี้ (16 ก.ค.) ร.ต.ท.อุทัย พันธ์ทอง ร้อยเวรสภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่รถกระบะทหารสังกัดหมวดปืนเล็กที่ 3 ร้อย ร.15132 ฉก.นราธิวาส 30 บนนถนนหน้ามัสยิดบ้านบลูกาฮูรู หมู่ 4 ต.บาตง ทำให้ทหารเสียชีวิต 2 นาย ก่อนหลบหนีคนร้ายได้วางเพลิงด้วย จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.รือเสาะ พ.ท.เอกพล เลขนอก ผบ.ฉก.นราธิวาส 30
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมิตซูบิซิ สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พุ่งชนเต็นท์ที่ชาวบ้านกางไว้ริมทางตกไปอยู่ริมถนน ตัวรถอยู่ในสภาพถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งคัน โดยที่เบาะคนขับพบศพ ส.ท.ประสิทธิ์ นัคราเรือง ตำแหน่งเป็นพลขับประจำกองร้อย ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโกและที่ประตูซ้ายเป็นศพพลทหารยูโซบ เต๊ะหลี อายุ 22 ปี สภาพถูกเพลิงไหม้ดำเป็นตอตะโกเช่นกัน ส่วนบนถนนเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ และมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ
สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุทหารทั้ง 2 นาย ขับรถยนต์กระบะออกไปทำธุระในเทศบาลตำบลรือเสาะ เมื่อแล้วเสร็จจึงได้กลับฐาน ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 8-9 คน ใช้รถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อ สี และทะเบียนขับไล่หลังมา เมื่อสบโอกาสได้ขับแซงขึ้นหน้า แล้วคนร้ายที่นั่งกระบะหลังใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่มใส่รถกระบะ ส.ท.ประสิทธิ์ เสียชีวิตคาพวงมาลัย ทำให้รถได้วิ่งไปชนเต็นท์ของชาวบ้านที่กางไว้ริมถนนตกลงไปข้างทาง
ส่วนพลทหารยูโซบพยายามเปิดประตูรถเพื่อลงจากรถวิ่งไปหาที่กำบังยิงต่อสู้กับคนร้าย แต่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตก่อนที่ข้างประตูรถ จากนั้นคนร้ายได้ลงจากรถเข้าไปรื้อค้นภายในรถกระบะทหาร และหยิบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ของส.ท.ประสิทธิ์ พร้อมปืนเอ็ม 16 ประจำกายพลทหารยูโซบ จากนั้นใช้น้ำมันราดลงไปบนศพทหารทั้ง 2 นายแล้วจุดไฟเผา ก่อนที่จะพากันขึ้นหลบหนีไป โดยคนร้ายโปรยตะปูเรือใบตามเส้นทางหลบหนี เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามด้วย
วันเดียวกัน พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี รับรายงานจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ว่ามีการก่อกวนโดยการแขวนป้ายผ้า และพบวัตถุต้องสงสัยอีกหลายจุด หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ โดยป้ายผ้าจุดแรกที่พบ คือ อ.หนองจิก 3 จุด โดยเฉพาะริมถนนปัตตานี-หาดใหญ่ เยื้องปากทางเข้าโรงพยาบาลหนองจิก ติดป้ายผ้ากับกำแพง ร้านค้า และมีวัตถุต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดเส้นทางชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ แต่ไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังพบป้ายผ้าใน อ.ยะรัง 3 จุด อ.โคกโพธิ์ 3 จุด อ.มายอ 1 จุด และ อ.ทุ่งยางแดง 1 จุด ส่วนใหญ่ถูกแขวนไว้ตามศาลาที่พักผู้โดยสารริมทาง ตลาดนัด และสะพาน ข้อความระบุว่า “พื้นฐานนักล่าอาณานิคม สยามที่ไร้มนุษยธรรม กลับตาลปัตร กับนานาชาติเสมอ” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมไว้เพื่อตรวจสอบหาวัตถุพยานต่อไป
ที่ จ.สงขลา มีการแขวนป้ายผ้าและพ่นสีสเปรย์สีแด บนถนนรวม 5 จุด ใน 3 ตำบลของ อ.สะบ้าย้อย เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือของแนวร่วมก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์เชื่อมโยงกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงได้แจ้งเตือนให้กำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และเฝ้าระวังการก่อเหตุรุนแรงตามมา