ศูนย์ข่าวภาคใต้-นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทยเผยคนกินปลาเตรียมเฮ หลังที่ประชุม ศปมผ. มีมติให้ออกประกาศยกเลิกเครื่องมือประมงที่ทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำ อวนรุน ไอ้โง่ อวนล้อมปลากะตักปั่นไฟและโพงพาง คาดออกประกาศเป็นกฎกระทรวงเหมือนอินโดนีเซีย ชี้ถือเป็นชัยชนะของคนกินปลาทั่วประเทศที่ตื่นตัวจนมีแรงขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนนทอุทยาน พลเรือเอกไกรสร จันทร์สุวาณิชย์ ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) และผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย โดยมีตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมการประชุม รวมทั้งนายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย
ทั้งนี้ ผลการประชุมได้มีมติให้ ศรชล. โดยศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) ร่วมกับกรมประมง กรมเจ้าท่า และกสทช. ขยายช่วงเวลาการออกหน่วยบริการด้านการประมงเคลื่อนที่ จนถึงวันที่ 31 ก.ค.2558 , ให้สมาคมการประมงต่างๆ ประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงรับทราบต่อไป และให้สำนักงานกฎหมาย ศปมผ. ออกประกาศยกเลิกเครื่องมือการทำประมงที่ทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำ ได้แก่อวนรุน (ยกเว้นอวนรุนเคย) ไอ้โง่ อวนล้อมปลากะตักปั่นไฟและโพงพาง , ให้กรมประมงกำหนดจำนวนและขนาดเครื่องมือการทำประมงที่จะใช้กับเรือประมงแต่ละประเภท โดยรายงานให้ที่ประชุมร่วมพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป , ให้ศล.ศปมผ.ร่วมกับกรมประมง กรมเจ้าท่า กำหนดพื้นที่ทำการประมงของเรือประมงพื้นบ้าน และเรือประมงพาณิชย์ ให้มีความชัดเจน และรายงานให้ที่ประชุมร่วมพิจารณาในครั้งต่อไป และให้สำนักกฎหมาย ศปมผ. และคณะทำงานจัดทำนโยบายการจัดการด้านการประมงทะเล ชี้แจงรายละเอียดตามข้อคิดเห็นตามที่ประชุม ในการประชุมครั้งต่อไป
โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายบรรจง ได้เปิดเผยว่า ถือเป็นมิติที่ดีมากๆ ของการแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย แต่ในทางปฏิบัติยังต้องรอดู เพราะเกินศักยภาพของกรมประมง เพราะฉะนั้นทุกภาคส่วนต้องบูรณาการ ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ มีในพื้นที่ไหน หัวหน้าส่วนนั้นๆ ต้องร่วมรับผิดชอบมาตรการแก้ไขให้สำเร็จถึงจะเป็นจริง
“ตัวอย่างอวนรุนในทะเลสาบสงขลามีกฎหมายห้ามชัดเจน แต่ก็มีอวนรุนกว่า 100 ลำเป็นตัวอย่าง ส่วนแนวโน้มความเป็นไปได้ คาดว่าเพื่อความรวดเร็ว คงออกมาเป็นประกาศกระทรวง เหมือนกับประเทศอินโดนีเซียที่ออกประกาศกฎกระทรวงยกเลิกเครื่องมือพวกนี้ไปแล้ว"
นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย กล่าวอีกว่า หากมองในมิติของการต่อสู้กับการทำประมงที่ผิดกฎหมายมายาวนานไม่ต่ำกว่า 30 ปี ถือว่าเป็นชัยชนะของคนกินปลาทั่วประเทศที่ตื่นตัวจนมีแรงกดดันสูงมากพอจนสามารถผลักดันเรื่องนี้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนนทอุทยาน พลเรือเอกไกรสร จันทร์สุวาณิชย์ ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) และผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย โดยมีตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมการประชุม รวมทั้งนายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย
ทั้งนี้ ผลการประชุมได้มีมติให้ ศรชล. โดยศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) ร่วมกับกรมประมง กรมเจ้าท่า และกสทช. ขยายช่วงเวลาการออกหน่วยบริการด้านการประมงเคลื่อนที่ จนถึงวันที่ 31 ก.ค.2558 , ให้สมาคมการประมงต่างๆ ประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงรับทราบต่อไป และให้สำนักงานกฎหมาย ศปมผ. ออกประกาศยกเลิกเครื่องมือการทำประมงที่ทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำ ได้แก่อวนรุน (ยกเว้นอวนรุนเคย) ไอ้โง่ อวนล้อมปลากะตักปั่นไฟและโพงพาง , ให้กรมประมงกำหนดจำนวนและขนาดเครื่องมือการทำประมงที่จะใช้กับเรือประมงแต่ละประเภท โดยรายงานให้ที่ประชุมร่วมพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป , ให้ศล.ศปมผ.ร่วมกับกรมประมง กรมเจ้าท่า กำหนดพื้นที่ทำการประมงของเรือประมงพื้นบ้าน และเรือประมงพาณิชย์ ให้มีความชัดเจน และรายงานให้ที่ประชุมร่วมพิจารณาในครั้งต่อไป และให้สำนักกฎหมาย ศปมผ. และคณะทำงานจัดทำนโยบายการจัดการด้านการประมงทะเล ชี้แจงรายละเอียดตามข้อคิดเห็นตามที่ประชุม ในการประชุมครั้งต่อไป
โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายบรรจง ได้เปิดเผยว่า ถือเป็นมิติที่ดีมากๆ ของการแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย แต่ในทางปฏิบัติยังต้องรอดู เพราะเกินศักยภาพของกรมประมง เพราะฉะนั้นทุกภาคส่วนต้องบูรณาการ ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ มีในพื้นที่ไหน หัวหน้าส่วนนั้นๆ ต้องร่วมรับผิดชอบมาตรการแก้ไขให้สำเร็จถึงจะเป็นจริง
“ตัวอย่างอวนรุนในทะเลสาบสงขลามีกฎหมายห้ามชัดเจน แต่ก็มีอวนรุนกว่า 100 ลำเป็นตัวอย่าง ส่วนแนวโน้มความเป็นไปได้ คาดว่าเพื่อความรวดเร็ว คงออกมาเป็นประกาศกระทรวง เหมือนกับประเทศอินโดนีเซียที่ออกประกาศกฎกระทรวงยกเลิกเครื่องมือพวกนี้ไปแล้ว"
นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย กล่าวอีกว่า หากมองในมิติของการต่อสู้กับการทำประมงที่ผิดกฎหมายมายาวนานไม่ต่ำกว่า 30 ปี ถือว่าเป็นชัยชนะของคนกินปลาทั่วประเทศที่ตื่นตัวจนมีแรงกดดันสูงมากพอจนสามารถผลักดันเรื่องนี้ได้