xs
xsm
sm
md
lg

ระวังเรือดำน้ำเกยตื้น !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 แยกย้ายกันกลับบ้านไปแล้ว สำหรับเด็กนักศึกษา 14 คน หลังจากศาลทหารยกคำร้องของพนักงานสอบสวนที่ขอฝากขังผลัดที่สองต่ออีก 12 วัน โดยเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องควบคุมตัวต่อ จึงต้องปล่อยตัวไป เมื่อตอนเช้ามืดวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่งานนี้ทำเอาหลายคน "อารมณ์ค้าง" ผิดหวังกันไปตามๆ กัน เท่าที่เห็นแบบเก็บอาการไม่อยู่ก็เห็นจาก สุณัย ผาสุข "ตัวแทนฮิวแมนไรท์ฯ ของสหรัฐ" ประจำประเทศไทย โพล่งออกมาทันทีว่า การปล่อยตัวนักศึกษาดังกล่าว เป็นการ "สร้างภาพ" ซึ่งจากคำพูดดังกล่าวออกมา ก็คงจะทำให้โดนด่าเปิดเปิงตามมาแน่ และความหมายที่ต้องการก็คือ ถ้าไม่ต้องการสร้างภาพก็ต้อง "ขังต่อ" อย่างนั้นหรือ ทุด !!
00 อย่างน้อยก็ได้เห็นท่าทีของนักสิทธิมนุษยชนสาขาของสหรัฐฯ คนนี้ได้ชัดเจนขึ้นไปอีก หลังจากก่อนหน้านี้เคยไป "ชูสามนิ้ว" ต่อต้าน คสช. พร้อมกับพวกหัวโจกคนเสื้อแดง และลูกน้อง ทักษิณ ชินวัตร ในงานเลี้ยงวันชาติสหรัฐฯ ที่สถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยเมื่อปีก่อน ในยุคของ คริสตี้ เคนนี่ย์ นั่นแหละ ที่จริงก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้มาก เพราะราวกับว่า "หยามน้ำใจ" กัน แต่มันก็อดคันปากไม่ได้
00 จะว่าไปแล้วการปล่อยตัว 14 นักศึกษาคราวนี้ถือว่า "ถอดสลัก" ได้อย่างทันท่วงที และคงคาดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่าจะออกมาในรูปนี้ โดยศาลทหารเป็นคน "ปล่อยตัว" ในแบบยกคำร้องของพนักงานสอบสวนที่ขอฝากขังต่อตามขั้นตอน หลังจากก่อนหน้านี้ทางฝ่ายทนายความของนักศึกษา ยืนยันแล้วว่าจะ "ไม่ยื่นขอประกันตัว" ออกมาอีก และงานนี้หากสังเกตให้ดีจะพบว่าขนกันไปเต็มพิกัด ตัวแทนจากสหรัฐฯ ฝรั่งเศส ตัวแทนจากอียู และก็เจ้าเก่าพลาดไม่ได่ด้วยประการทั้งปวงคือ ตัวแทนจากฮิวแมนไรท์วอตซ์ (ของสหรัฐฯ) ประจำประเทศไทย คือ สุณัย ผาสุข คนนี้ไงพี่น้อง ดังนั้น ถ้างานนี้ศาลทหารอนุญาตให้ฝากขังต่ออีก 12 วัน คงขย้ำกันจมเขี้ยวแน่ มิน่าถึงได้อารมณ์ค้างกันไปตามๆ กัน !!
00 เรื่องแผนใช้เด็กจุดไฟ คงจะซาไปพักหนึ่งละ แต่ที่น่าจับตาแทนก็คือ "เรือดำน้ำ" นะซี เพราะกำลังถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลโจมตีกันใหญ่ อย่างน้อยเท่าที่เห็นตัวตนที่ได้จังหวะโผล่ออกมา "เอาคืน" ก็มี "เสี่ยโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.คลัง ในยุค ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ทำจำนำข้าวจนเจ๊งไปกว่า 6-7 แสนล้านบาทนั่นแหละ หรือแม้แต่ "ฝ่ายไม่ตรงกันข้าม" ก็เถอะ ยังรู้สึกกระอักกระอ่วนพิกล กับงบประมาณจัดซื้อ 3.6 หมื่นล้านบาท เพื่อแลกกับเรือดำน้ำ 3 ลำ ใน 7-10 ปีข้างหน้า งานนี้กำลังรอคำอธิบายกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวอยู่นะ
00 แม้ว่าดูตามรูปการณ์รวมๆ จากฟังการแถลงของ นายกฯ และหัวหน้าคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจเกินร้อยว่า "ซื้อแน่" เพียงแต่ว่าพยายามพูดให้เห็นว่า วันนี้ยังไม่ได้อนุมัติให้จัดซื้อเลย และถึงจะซื้อ ก็ไม่ใช่ได้เรือดำน้ำมาวันนี้ พรุ่งนี้ เป็นการวางแผนยุทธศาสตร์กองทัพ เอามาใช้เพื่อการป้องปราม อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาอาการแล้วต้องซื้อแน่ แบบนี้ก็ต้องมี "คำอธิบาย" ให้เคลียร์ ทั้งในเรื่องความจำเป็นต้องมี และความลึกของทะเลอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน มันทำได้แค่ไหน เปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีเรือดำน้ำทั้ง มาเลย์ สิงคโปร์ และ เวียดนาม
00 ที่สำคัญที่สุดคือ ต้อง"โปร่งใส" อธิบายได้ มีความคุ้มค่า ในเรื่องงบประมาณก็คงเป็นงบผูกพันของทร. กี่ปีว่าไป ต้องให้เกียรติชาวบ้านด้วย และกรุณาอย่าใช้แบบส่วนตัวรับประกัน เพราะต้องมีหลักการที่อ้างอิงได้ เชื่อหรือไม่ว่า ทำไมหลายโครงการของรัฐที่ดี มีความก้าวหน้า แต่ผลักดันไปไม่ได้ ซื้อไม่ได้ ก่อสร้างไม่ได้ เป็นเพราะ "ประสบการณ์โกง" ที่ทำให้เกิดการระแวง และคัดค้านตามมา กรณีการซื้ออาวุธก็มีตัวอย่างให้เห็นตำตา อย่างเรื่อง "เรือเหาะ" ที่ไม่รู้ว่าซื้อมาได้อย่างไร เรื่องทุจริตก็ปฏิเสธกันไป แต่ "ความคุ้มค่า" นี่รับรองว่ามีปัญหาแน่ รวมไปถึงเครื่องตรวจจับระเบิด จีที 200 ดังนั้น เรื่องเรือดำน้ำ ก็ต้องอธิบายได้ถึงความโปร่งใส ความคุ้มค่า มีความจำเป็นทางยุทธศาสตร์ในอนาคตและใช้ได้จริง รวมไปถึงการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ไม่ใช่จ่ายรวดเดียว 3.6 หมื่นล้านบาท ขอร้องอย่าด่วนใช้อารมณ์กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย !!
00 ยอมรับกันอีกครั้งจากปากของ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงเรื่องการ "เบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า" จนทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้แหละที่มีผลต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะงบจากภาครัฐนี่แหละ ถือว่าเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญ หากระบบราชการยังล่าช้า อืดอาดแบบนี้มันก็ไม่ทันการณ์ หรือว่า "เกียร์ว่าง" ก็ลองไปตรวจสอบดู และงานนี้ก็ต้องขันน็อตกันบ้างมั๊ย ทั่นรองนายกฯ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และ รมว.คลัง สมหมาย ภาษี !!
กำลังโหลดความคิดเห็น