องค์การสวนสัตว์ฯ ตั้งกรรมการสอบหาเหตุรถรางนำเที่ยวในสวนสัตว์ขอนแก่นชนกัน จนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก พร้อมสั่งปิดให้บริการไปจนถึง 10 ก.ค.นี้ เผยในส่วนผู้เสียชีวิตได้รับค่าชดเชยศพละ 1 แสนบาท ขณะที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะเยียวยาให้ดีที่สุด
กรณีเมื่อบ่ายวันที่ 5 ก.ค. ได้เกิดอุบัติเหตุรถรางนำเที่ยวในสวนสัตว์ขอนแก่น หรือสวนสัตว์เขาสวนกลาง ชนกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ความคืบหน้าเช้าวานนี้ (6 ก.ค.) ที่ห้องประชุมสวนสัตว์ขอนแก่น อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น
นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดแถลงข่าว กรณีดังกล่าว โดยระบุว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถรางชมสัตว์ที่สวนสัตว์ขอนแก่น ประสบอุบัติเหตุชนกันเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 55 คน ขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บยังเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเขาสวนกวาง 3 คน โรงพยาบาลน้ำพอง 2 คน โรงพยาบาลขอนแก่นราม 1 คน โรงพยาบาลราชพฤกษ์ 1 คน โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น 11 คน โรงพยาบาลศรีนครรินทร์ 5 คน และโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี 2 คน รวมจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 25 คน
อย่างไรก็ตาม องค์การสวนสัตว์ฯ ได้รับผิดชอบกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยาศพละ 100,000 บาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้รับการเยียวยาให้ดีที่สุด และองค์การสวนสัตว์ฯจะดูแลตรวจสอบรถรางนำเที่ยวที่ใช้บริการนักท่องเที่ยวในสวนสัตว์ทั้ง 7 แห่ง และอีก 1 โครงการ ทั่วประเทศเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นซ้ำรอย
ส่วนการหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานซึ่งจะทราบผลได้ภายในเดือนนี้ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงตรวจสอบความปลอดภัยรถรางนำเที่ยวสวนสัตว์ทั่วประเทศอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
นายเบญจพลกล่าวอีกว่า ในส่วนของสวนสัตว์ขอนแก่นนั้นได้ปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.-10 ก.ค. 58 และจะไปเปิดให้บริการอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 11 ก.ค. 2558 โดยจะมีการทำบุญใหญ่เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่นักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ พร้อมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตอีกด้วย
ด้านนายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น กล่าวว่า ในเบื้องต้นนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดในความขัดข้องของตัวเครื่องยนต์ว่าเกิดสาเหตุจากอะไร เพราะในกระบวนการขับขี่และการตรวจเช็ครถก่อนที่จะนำออกให้บริการ ทางสวนสัตว์ฯ ได้ปฏิบัติเป็นประจำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นได้รายงานข้อมูลอุบัติเหตุหมู่ดังกล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิต 5 รายประกอบด้วย 1.น.ส.ถาวร เรืองมัญ 2.ดช.ปุณภัทร อ่อนอารีย์ อายุ 1.8 เดือน3.นางนิตยา อิศราพานิช อายุ38 ปี อ.โกสุมพิสัย 4.นางระเบียบ สุวรรณคาม อายุ 48 ปี อ.โกสุมพิสัย 5.นางสุภัชสรา เปลสี อายุ 44 ปี ขณะที่ผู้บาดเจ็บมีจำนวน 55 ราย แยกส่งตัวเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆในจ.ขอนแก่น
มอบเงินเยียวยา
วานนี้ (6 ก.ค.) นายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายสมาน มานะกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอนแก่น นายธีรยุทธ์จันทร์ดิษฐวงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น เดินทางไปยังโรงพยา บาลขอนแก่น เพื่อมอบเงินพร้อมกระเช้าของขวัญแสดงความเสียใจกับผู้ประสบอุบัติเหตุรถรางนำเที่ยวสวนสัตว์เขาสวนกวางพุ่งชนท้ายกันเอง
นายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของกองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจสอบรถรางแล้ว ต้องเรียนว่ารถรางดังกล่าวไม่ใช่รถบนพื้นผิวจราจร จึงไม่มีการทำประกันใดใด แต่การจ้างเหมาหรือการจ้างบริการต้องมีสัญญาที่ต้องรับผิดชอบ รวมถึงองค์การสวนสัตว์จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ดังนั้นตรงนี้จึงไม่ต้องกังวล แต่อนาคตความรอบครอบเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เป็นมาตรฐานต่อไป
กรณีเมื่อบ่ายวันที่ 5 ก.ค. ได้เกิดอุบัติเหตุรถรางนำเที่ยวในสวนสัตว์ขอนแก่น หรือสวนสัตว์เขาสวนกลาง ชนกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ความคืบหน้าเช้าวานนี้ (6 ก.ค.) ที่ห้องประชุมสวนสัตว์ขอนแก่น อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น
นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดแถลงข่าว กรณีดังกล่าว โดยระบุว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถรางชมสัตว์ที่สวนสัตว์ขอนแก่น ประสบอุบัติเหตุชนกันเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 55 คน ขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บยังเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเขาสวนกวาง 3 คน โรงพยาบาลน้ำพอง 2 คน โรงพยาบาลขอนแก่นราม 1 คน โรงพยาบาลราชพฤกษ์ 1 คน โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น 11 คน โรงพยาบาลศรีนครรินทร์ 5 คน และโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี 2 คน รวมจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 25 คน
อย่างไรก็ตาม องค์การสวนสัตว์ฯ ได้รับผิดชอบกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยาศพละ 100,000 บาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้รับการเยียวยาให้ดีที่สุด และองค์การสวนสัตว์ฯจะดูแลตรวจสอบรถรางนำเที่ยวที่ใช้บริการนักท่องเที่ยวในสวนสัตว์ทั้ง 7 แห่ง และอีก 1 โครงการ ทั่วประเทศเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นซ้ำรอย
ส่วนการหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานซึ่งจะทราบผลได้ภายในเดือนนี้ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงตรวจสอบความปลอดภัยรถรางนำเที่ยวสวนสัตว์ทั่วประเทศอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
นายเบญจพลกล่าวอีกว่า ในส่วนของสวนสัตว์ขอนแก่นนั้นได้ปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.-10 ก.ค. 58 และจะไปเปิดให้บริการอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 11 ก.ค. 2558 โดยจะมีการทำบุญใหญ่เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่นักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ พร้อมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตอีกด้วย
ด้านนายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น กล่าวว่า ในเบื้องต้นนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดในความขัดข้องของตัวเครื่องยนต์ว่าเกิดสาเหตุจากอะไร เพราะในกระบวนการขับขี่และการตรวจเช็ครถก่อนที่จะนำออกให้บริการ ทางสวนสัตว์ฯ ได้ปฏิบัติเป็นประจำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นได้รายงานข้อมูลอุบัติเหตุหมู่ดังกล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิต 5 รายประกอบด้วย 1.น.ส.ถาวร เรืองมัญ 2.ดช.ปุณภัทร อ่อนอารีย์ อายุ 1.8 เดือน3.นางนิตยา อิศราพานิช อายุ38 ปี อ.โกสุมพิสัย 4.นางระเบียบ สุวรรณคาม อายุ 48 ปี อ.โกสุมพิสัย 5.นางสุภัชสรา เปลสี อายุ 44 ปี ขณะที่ผู้บาดเจ็บมีจำนวน 55 ราย แยกส่งตัวเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆในจ.ขอนแก่น
มอบเงินเยียวยา
วานนี้ (6 ก.ค.) นายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายสมาน มานะกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอนแก่น นายธีรยุทธ์จันทร์ดิษฐวงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น เดินทางไปยังโรงพยา บาลขอนแก่น เพื่อมอบเงินพร้อมกระเช้าของขวัญแสดงความเสียใจกับผู้ประสบอุบัติเหตุรถรางนำเที่ยวสวนสัตว์เขาสวนกวางพุ่งชนท้ายกันเอง
นายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของกองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจสอบรถรางแล้ว ต้องเรียนว่ารถรางดังกล่าวไม่ใช่รถบนพื้นผิวจราจร จึงไม่มีการทำประกันใดใด แต่การจ้างเหมาหรือการจ้างบริการต้องมีสัญญาที่ต้องรับผิดชอบ รวมถึงองค์การสวนสัตว์จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ดังนั้นตรงนี้จึงไม่ต้องกังวล แต่อนาคตความรอบครอบเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เป็นมาตรฐานต่อไป
