xs
xsm
sm
md
lg

'นิ้วกลม'ซูฮก"ดาวดิน" ชี้บ้านเมืองต้องมีปชต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"นิ้วกลม" นักเขียนหนุ่มไอดอลคนรุ่นใหม่ โพสต์เฟซฯ เชิดชูนักศึกษากลุ่มดาวดิน ระบุสมควรได้รับการคารวะ และนับถือ ลั่นประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญในบ้านเมือง ระบุปีศาจหรืออสูร คือคนที่อยู่ตรงข้ามประชาชน ไม่ว่าจะเลือกตั้ง หรือยึดอำนาจเข้ามา พร้อมแพร่แฮชแท็ก #เราคือเพื่อนกัน ขณะที่กลุ่มญาติ และเพื่อนนักศึกษา รวมตัวหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเยี่ยมกลุ่มนักศึกษา 13 คน ที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แน่นห้องเยี่ยม ยันจะจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวอีกในวันศุกร์นี้ ขณะที่ ทนาย นศ.ดาวดิน ดูขั้นตอนการตรวจหลักฐานโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ที่ตร. ยึดมาได้จากการค้นรถ พร้อมโต้ ผบช.น. กล่าวหาเกินจริง ยันโทรศัพท์ที่ ตร.ยึดไป ยังไม่ได้เปิดพิสูจน์ ด้าน"วัฒนา" เผยถูกทหารเชิญปรับทัศนคติ กรณีให้ความเห็น "ดาวดิน" วันนี้ ลั่นไปแต่ตัว กับหัวใจ

วานนี้ (28 มิ.ย.) นายสราวุธ เฮงสวัสดิ์ หรือ"นิ้วกลม" นักเขียนชื่อดัง ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Roundfinger ที่มีผู้ติดตามอยู่มากกว่า 4.3 แสนคน พร้อมโพสต์ภาพที่มีข้อความพร้อมแฮชแท็ก ระบุว่า “#เราคือเพื่อนกัน” เป็นตัวหนังสือสีขาวบนพื้นหลังสีเทา

ทั้งนี้ ข้อความของนายสราวุธ แบ่งเป็นส่วนย่อย 5 ตอน โดยเนื้อหาสำคัญคือ บอกเล่ากิจกรรมของนักศึกษากลุ่มดาวดิน จากคณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น พร้อมระบุว่า สำหรับตนแล้ว วีรกรรมของนักศึกษากลุ่มดาวดิน สมควรได้รับการคารวะ และนับถือ และบอกต่อว่าประชาธิปไตย เป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้ทุกคนได้พูด เสียงทุกเสียงได้รับฟัง และมีความสำคัญเท่ากัน

" สำหรับผมแล้ว ดาวดินเป็นตัวอย่างนักศึกษาที่หาได้ยากในสังคมไทย ทั้งความทุ่มเท และความกล้าหาญของพวกเขา ล้วนแล้วแต่เป็นนักศึกษาที่ควรได้รับการคารวะ ผมนับถือพวกเขาที่มองเห็นชาวบ้านเป็น"เพื่อน" ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ชาวบ้านก็เห็นพวกเขาเป็น"เพื่อน" เช่นกัน

สำนึกถึง"เพื่อน" ร่วมสังคมเช่นนี้เอง เป็นสิ่งวิเศษกับสังคมโดยรวม เพราะมันสร้างบรรยากาศของการเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เห็นใจกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้เกิดขึ้นในสังคม

ความเป็น"เพื่อน" ที่ว่านี่เองที่ขาดหายไปจากสังคมไทย เพราะเรามัวแต่คิดถึง"ประเด็นส่วนตัว"

หลายคนอาจเบื่อการเมือง เบื่อการเคลื่อนไหวเรียกร้อง และชอบที่บ้านเมืองสงบ แต่เราคงต้องถามว่า"สงบ" นั้นสงบของใคร และสงบเพื่อใคร ในเมื่อยังมีคนเสียประโยชน์จากความ"สงบ" ที่ว่านี้ และจำเป็นต้องส่งเสียงออกมาให้คนอื่นได้ยิน จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของตัวเอง

ด้วยเหตุนี้เอง ประชาธิปไตยจึงสำคัญ เพราะมันเปิดโอกาสให้ทุกเสียงได้พูด ได้ส่งเสียง ได้เรียกร้อง ทุกเสียงพูดได้ ดังเท่ากัน และสำคัญเท่ากัน" นักเขียนหนุ่ม ระบุ

สำหรับ นายสราวุธ เจ้าของนามปากกา"นิ้วกลม" เป็นนักเขียนหนุ่ม มีผลงานเป็นคอลัมนิสต์ในนิตยสารอะเดย์ คอลัมน์หนึ่งคำถาม ล้านคำตอบ ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ มีหนังสือตีพิมพ์รวมเล่ม โดยเฉพาะสารคดีท่องเที่ยวอีกหลายเล่ม นอกจากนี้ยังเขียนนวนิยาย เขียนเพลงร่วมกับ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ในเพลง"ทฤษฎีสีชมพู" นอกจากนั้น เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ทางช่องไทยพีบีเอส ได้แก่ รายการพื้นที่ชีวิต รายการเป็นอยู่คือ รายการวัฒนธรรมชุบแป้งทอด และรายการ Status Story อีกด้วย

แห่เยี่ยมนศ. แน่นห้องเยี่ยม

เมื่อเวลา9.30น. วานนี้ (29มิ.ย.) ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีกลุ่มญาติและเพื่อนนักศึกษา กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ กว่า 30 คน รวมตัวหน้าเรือนจำ เพื่อติดต่อขอเข้าเยี่ยมกลุ่มนักศึกษา 13 คน ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยบริเวณรอบเรือนจำได้ มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ รักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งบันทึกภาพกลุ่มคนที่เดินทางมาเยี่ยมกลุ่มนักศึกษา โดยเจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำ ห้ามไม่ให้มีการแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง หรือมีการจัดกิจกรรมปราศรัยเด็ดขาด

สำหรับอาจารย์ และนักวิชาการ ที่มาขอเยี่ยมกลุ่มนักศึกษา อาทิเช่น นายปิยะบุตร กนกแสงสกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ นางพวงทอง ภวัครพันธุ์ นายยุติ มุดดาวิจิตร นางเบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว นางดวงมณี เลาวกุล นายธิกานต์ ศรีนารา นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ พ่อน้องเฌอ แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง (พลเมืองโต้กลับ)

ส่วนขั้นตอนการเยี่ยมนศ.ทาง เจ้าหน้าที่เรื่อนจำแจ้งว่า การเข้าเยี่ยมในสัปดาห์แรก จะอนุโลมให้ผู้เข้าเยี่ยมทั้งหมดเข้าเยี่ยมได้

ต่อมาเวลา 11.10 น. ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำ ได้เปิดให้เข้าเยี่ยมนักศึกษา 13 คน ที่ถูกคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดย บรรยากาศภายในห้องเยี่ยมญาติ เลขที่ 8 และ 9 มีญาติ ครอบครัว อาจารย์ และประชาชน ได้ชูกำปั้น และพูดให้กำลังใจนักศึกษา 13 คน ว่า เราจะสู้ต่อไปด้วยกัน

หวั่นจนท.ยัดข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ

นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ได้กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นรถของทนายกลุ่มนศ. ที่ถูกจับกุม ณ ขณะนี้ และนำหลักฐานไปว่า ตามหลัก ที่ตนได้เคยคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ รวมถึงทนาย ที่เคยทำงานภาคใต้นั้นคือ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ต้องมีการปิดผนึกอุปกรณ์นั้นๆ ต่อหน้าเจ้าของ หรือต้องให้เจ้าของทำการคัดลอกข้อมูลไว้ เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นี้ สามารถเพื่มข้อมูลเข้าไปได้ แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นปรากฏว่า ได้นำอุปกรณ์ไปโดยไม่ผ่านขั้นตอนดังกล่าว

นัดจัดกิจกรรมศุกร์นี้

น.ส.กตัญญู หมื่นคำเรือง แนวร่วมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ หรือ เอ็นดีเอ็ม กล่าวว่า กลุ่มคนที่อยู่ข้างนอกจะเคลื่อนไหวอย่างไร เพื่อนนักศึกษาที่อยู่ในเรือนจำ จะเชื่อใจคนที่อยู่ข้างนอกเสมอ และยังอยากให้เกิดการเคลื่อนไหวต่อไป นอกจากนี้ เพื่อนนักศึกษาที่อยู่ในเรือนจำฝากบอกผ่านสื่อมวลชนว่า การถูกจับกุมครั้งนี้ เสมือนเป็นการพักร้อนช่วงหนึ่ง ส่วนการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ จะมีอย่างแน่นอน โดยขอให้ติดตามทางเพจ ที่ใช้ชื่อว่า "ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ หรือ เอ็นดีเอ็ม (NDM)"

"ที่แน่ๆ ในวันศุกร์นี้ จะมีการจัดกิจกรรมอย่างแน่นอน โดยขอให้ผู้สนใจติดตามความเคลื่อนไหวทางเพสเฟซบุ๊ก และในนามของเอ็นดีเอ็ม ขอกล่าวไว้เลยว่า ถึงเพื่อนเราทั้ง 14 คน จะอยู่ข้างใน แต่คนที่อยู่ข้างนอก ก็ยังจะเคลื่อนไหวต่อไป เราจะเปลี่ยนการต่อต้านให้เป็นการต่อสู้ เราจะล้มอำนาจเผด็จการ ที่ไม่ใช่แค่อำนาจเผด็จการ เราจะทำให้เผด็จการที่มีอยู่มันหายไป แล้วหลังจากนี้จะไม่เกิดเผด็จการขึ้นอีก ไม่ว่าจะรัฐประหาร หรือเผด็จการอะไรก็แล้วแต่ นี่ถือเป็นการแสดงจุดยืน ซึ่งคนที่ถูกคุมขังในเรือนจำไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของเรา เลย แม้ทั้ง 14 คนนั้นจะถูกจับกุมก็ไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวได้" น.ส.กตัญญู กล่าว

โทรศัพท์ที่ถูกยึดยังไม่ได้พิสูจน์

ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) น.ส.เยาวลักษณ์ อนุพันธ์ หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ทนายความของนักศึกษา 14 คน ที่ถูกจับกุมครั้งนี้ นำคณะทนายความ เข้าพบ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง(ผบก.พฐ.ก.) พ.ต.อ.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นักวิทยาศาสตร.(สบ.4) กลุ่มงานตรวจพิสูจน์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ โดยมีการหารือร่วมกันในห้องประชุม พฐก. นานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้น เดินทางไปยังห้องปฏิบัติการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางคอมพิวเตอร์ กลุ่มงานตรวจพิสูจน์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งอยู่ในบริเวณ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เพื่อตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ที่พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยึดได้จากการตรวจค้นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซีอาร์วี ทะเบียน กค 9966 ยโสธร ของ น.ส.ศศิกาญจน์ เจริญศิริ หนึ่งในทีมทนายความของนักศึกษา โดยใช้เวลาในการตรวจสอบหลักฐานนานกว่า 30 นาที

น.ส.เยาวลักษณ์ กล่าว ภายหลังว่า นำคณะมาตรวจสอบหลักฐานโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ของกลุ่มนักศึกษา ที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ยึดไป ซึ่งต่อมา พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า พบพยานหลักฐานโยงใยการกระทำผิดจากการค้นรถ จึงสงสัยว่ามีการตรวจโทรศัพท์แล้วจริงหรือไม่ ก็พบว่า ไม่จริง เพราะวันนี้ทางกองพิสูจน์หลักฐานกลาง นำโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 เครื่องที่ยึดไป มาให้พวกตนดู พบว่ายังอยู่ในซอง ไม่ได้ทำการเปิด ทั้งนี้ในตอนที่เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้นำโทรศัพท์มือถือใส่ถุง ปิดผนึกเรียบร้อย โดยให้ตนในฐานะทนายได้ลงชื่อกำกับไว้ กระทั่งวันนี้ก็พบว่า ยังไม่มีการเปิดถุงแต่อย่างใด จึงสงสัยว่าหลักฐานที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ นำไปพูดนั้นมาจากอะไร ในเมื่อหลักฐานโทรศัพท์มือถือยังไม่มีการเปิดดูด้วยซ้ำ ซึ่งประเด็นนี้ ตนจะต้องนำไปต่อสู้เป็นข้อโต้แย้งทางคดีต่อไป

"ในช่วงที่มีการยึดโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 เครื่อง พบว่ามีช่วงหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ได้เอาโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ออกจากสถานที่เกิดเหตุ หายไป12 นาที แล้วกลับมาพร้อมโทรศัพท์ ตรงนี้ทำให้เคลือบแคลง ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งได้ทักท้วงว่า เป็นการทำผิดขั้นตอนทางกฎหมาย" น.ส.เยาวลักษณ์ กล่าว

น.ส.เยาวลักษณ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ทางทนายได้มีการขอให้ทำสำเนาข้อมูลโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 เครื่อง ออกเป็น 2 ชุด ชุดหนึ่งตนขอรับกลับไป และมีสำเนาเก็บไว้ที่ สพฐ.ตร. ด้วย วันนี้ได้มีการตรวจพิสูจน์รหัสประจำตัวเครื่องโทรศัพท์หรือเลขอีมี่ เพื่อบ่งบอกว่ามาจากโทรศัพท์เครื่องไหน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าโทรศัพท์เครื่องไหนเป็นของใคร เพราะตอนที่ออกจากศาลทหารนักศึกษาไม่สามารถนำทรัพย์สินไปที่เรือนจำได้จึงนำมาฝากไว้ โดยส่วนมีความเชื่อมั่นในการทำงานของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง และเคารพวิชาชีพของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ปกติต้องใช้เวลาในการตรวจของกลาง2สัปดาห์ แต่ทราบว่าคดีนี้มีการสั่งเร่งรัดพิเศษให้ทำสำเนาโดยเร็ว ภายใน 2-3 วันก็คงตรวจเสร็จก่อนรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน

2นศ.เคลื่อนไหวหน้าหอศิลป์ได้ประกัน

เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (29 มิ.ย.) ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม ทางอัยการศาลทหารกรุงเทพได้นัด นายนัชชชา กองอุดม นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่ถูกออกหมายจับ ในคดีขัดขืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 7/2557 กรณีฝ่าฝืนการห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.58 มาฟังคำสั่งอัยการศาลทหารกรุงเทพ ว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง โดยทางศาลทหารกรุงเทพ ได้อนุญาตให้ประกันตัว นายนัชชชา และนายชาติชาย ด้วยหลักทรัพย์คนละ 10,000 บาท โดยมีเงื่อนไขการประกันตัวคือ ห้ามร่วมชุมนุมทางการเมืองและยุยงปลุกปั่นให้คนอื่นใดร่วมชุมนุม ไม่ว่าจะกระทำด้วยวิธีใดทั้งทางตรง และทางอ้อม หากผิดเงื่อนไขสัญญาประกันตัวชั่วคราว ศาลทหารกรุงเทพ จะใช้ดุลพินิจสั่งเพิกถอนการประกัน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพได้นำตัวทั้ง สองคนไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อทำเรื่องปล่อยตัวชั่วคราวต่อไป

เรียก'วัฒนา'จ้อ'ดาวดิน'ปรับทัศนคติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ถูกทหารโทรศัพท์มาแจ้ง ในช่วงเช้าวานนี้ (29 มิ.ย.) เพื่อเรียกไปปรับทัศนคติ ที่กองทัพภาคที่ 1 ในวันที่ 30 มิ.ย. เวลา 11.00 น. ภายหลังจากให้ความเห็นกรณีนักศึกษาดาวดิน โดยนายวัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า เช้านี้เขาโทรมาหาตนตอนช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. แต่ขณะนี้พยายามเช็กกลับไปว่า เรียกจริงหรือไม่ เพราะโทรกลับไปเบอร์ที่โทรมา แต่ไม่มีใครรับสายแล้ว

ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่านอกจากตนแล้ว มีใครโดนเรียกอีกหรือไม่ เพราะยังไม่ได้ติดต่อใคร ส่วนต้องเตรียมเสื้อผ้าไปด้วยหรือไม่ เผื่ออยู่ยาว เนื่องจากวิจารณ์การทำหน้าที่ของทหารอย่างหนัก นายวัฒนา กล่าวว่า ไปแต่ตัวกับหัวใจก็พอแล้ว เอาตนไว้ก็เปลืองข้าวเปลืองน้ำ หรือถ้าจะให้อยู่ ก็คงไม่เกิน 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ซึ่งให้ความเห็นกรณีนักศึกษาดาวดินด้วยนั้น เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายณัฐวุฒิ ก็ได้รับการชี้แจงว่า "ยังไม่มีใครโทรมา เขาคงเห็นว่าสติหนามาก ปรับยากมั้ง "
กำลังโหลดความคิดเห็น