00 ตามกำหนดการที่รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด แถลงออกมาวันที่ 30 มิ.ย. นายกฯและหัวหน้าคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะขึ้นเหนือไปเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุม ครม.สัญจรที่นั่น ซึ่งเชื่อว่าคงมีหลายโครงการที่ต้องอนุมัติให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาภัยแล้ง อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในทางการเมือง ก็ต้องบอกว่านี่คือการ "เหยียบถิ่นแดง" อย่างเป็นทางการครั้งแรกก็อาจพูดแบบนั้นได้ ที่ผ่านมาแม้ว่าเขาเคยไปเยือนภาคเหนืออย่างเชียงใหม่ หรือน่าน มาแล้วเมื่อปีก่อน แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ไปในแบบพบปะมวลชนโดยตรง เพิ่งจะมีครั้งนี้แหละที่ผิดแผกแตกต่างออกไป
00 ในช่วงจังหวะเวลาแบบนี้ถือว่าเหมาะเจาะ น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองด้านทั้งฝ่ายรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เมื่อลงไปในพื้นที่แล้วจะมีปฏิกิริยากลับมาอย่างไร บรรยากาศจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าจะต้องมีการระดมกำลังป้องกันกันเต็มพิกัดแบบประกบกันตัวต่อตัว เพราะงานนี้จะปล่อยให้เพ่นพ่านไม่ได้เป็นอันขาด เพราะจะมีรายการ "เสียหน้า" ตามมา ขณะเดียวกันอีกฝ่าย คือ บรรดาเครือข่ายเสื้อแดงก็คงไม่กล้าขยับ เพราะไม่คุ้ม แต่ที่น่าจับตาก็คือ พวกบรรดาเด็กๆ ที่จะถูกใช้เป็น "เครื่องมือ" ป่วนแบบเจตนาฉีกหน้า ซึ่งอาจโผล่ออกมาแค่ "สองสามคน" เพียงแค่นี้ก็คุ้มแล้ว กรณีอย่างหลังนี่แหละ!!
00 การออกมาเคลื่อนไหวของบรรดาเด็กๆ นักศึกษาในเวลานี้ ที่หาจังหวะในช่วงวันที่ "24 มิถุนาฯ" ปลุกกระแสกันอีกรอบ แม้ไม่อยากพูดว่า "มีพวกหัวหงอกหัวดำ" คอยออกแบบให้ ซึ่งมันก็ใช่อยู่แล้ว เนื่องจากต้องการอาศัยความสด ความคึกของเด็กพวกนี้ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยคาบเกี่ยววัยรุ่นกับวัยผู้ใหญ่ ที่ไฟกำลังแรง และก็เป็นแบบนี้มาทุกยุค วิธีขี้ขลาดแอบอยู่ข้างหลังเด็กแบบนี้ก็มีมาทุกยุคสมัยเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าสถานการณ์ต่างกัน ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง และที่สำคัญก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายอำนาจรัฐจะเข้าใจแบบ "อ่านขาด" แค่ไหน คนคุมเกมหลักตอนนี้ก็ต้องมองไปที่ ผบ.ทบ. เลขาฯ คสช. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เท่านั้น นอกเหนือจากนี้ สำคัญที่สุดขึ้นอยู่กับว่า "อารมณ์ร่วม" ของสังคมว่าจะเทไปทางไหน และนาทีนี้แม้ว่าจะสรุปเรื่องเอาด้วยกับรัฐบาลและคสช.หรือไม่ยังไม่รู้ รู้แต่ว่า"รำคาญ" เด็กๆ และรู้ทัน "พวกแก่ๆ" ที่ซ่อนอยู่ข้างหลังต่างหาก รู้ยัง !!
00 นี่ก็ใกล้ครบกำหนดควบคุมตัวครั้งแรก 10 วัน ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. ที่ถูกจับพกพาอาวุธปืนพร้อมกระสุนขึ้นเครื่องบิน ที่ประเทศญี่ปุ่น งานนี้ที่โน่นคงว่ากันไปตาม กม.อย่างเคร่งครัด "ขอกันไม่ได้" ปัญหาก็อยู่ที่ฝั่งไทยนี่แหละ เพราะหลังจากที่ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาความจริงว่านำเอาปืนออกไปได้อย่างไร เข้าใจวาางานนี้ต้องเกี่ยวกับ ทอท.และตม.ผ่านการตรวจสอบหรือไม่ จนถึงวันนี้ทำท่าเงียบฉี่อีกแล้ว แน่นอนว่าคงอยากให้เงียบสนิท หรือเบนไปทางอื่น เพราะถ้าผ่านไปทางช่องทางปกติหรือไม่ปกติก็ตามจะยุ่งแน่ ทั้งเรื่องตอกย้ำความล้มเหลวด้านมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว ยังจะ"ซวย"กันกราวรูด อยากถาม รมว.คมนาคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ตอบให้เคลียร์ และแทบทุกเรื่องดูเหมือนว่าจะอืดไม่คืบหน้าสักเรื่องเดียว !!
00 ในช่วงจังหวะเวลาแบบนี้ถือว่าเหมาะเจาะ น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองด้านทั้งฝ่ายรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เมื่อลงไปในพื้นที่แล้วจะมีปฏิกิริยากลับมาอย่างไร บรรยากาศจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าจะต้องมีการระดมกำลังป้องกันกันเต็มพิกัดแบบประกบกันตัวต่อตัว เพราะงานนี้จะปล่อยให้เพ่นพ่านไม่ได้เป็นอันขาด เพราะจะมีรายการ "เสียหน้า" ตามมา ขณะเดียวกันอีกฝ่าย คือ บรรดาเครือข่ายเสื้อแดงก็คงไม่กล้าขยับ เพราะไม่คุ้ม แต่ที่น่าจับตาก็คือ พวกบรรดาเด็กๆ ที่จะถูกใช้เป็น "เครื่องมือ" ป่วนแบบเจตนาฉีกหน้า ซึ่งอาจโผล่ออกมาแค่ "สองสามคน" เพียงแค่นี้ก็คุ้มแล้ว กรณีอย่างหลังนี่แหละ!!
00 การออกมาเคลื่อนไหวของบรรดาเด็กๆ นักศึกษาในเวลานี้ ที่หาจังหวะในช่วงวันที่ "24 มิถุนาฯ" ปลุกกระแสกันอีกรอบ แม้ไม่อยากพูดว่า "มีพวกหัวหงอกหัวดำ" คอยออกแบบให้ ซึ่งมันก็ใช่อยู่แล้ว เนื่องจากต้องการอาศัยความสด ความคึกของเด็กพวกนี้ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยคาบเกี่ยววัยรุ่นกับวัยผู้ใหญ่ ที่ไฟกำลังแรง และก็เป็นแบบนี้มาทุกยุค วิธีขี้ขลาดแอบอยู่ข้างหลังเด็กแบบนี้ก็มีมาทุกยุคสมัยเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าสถานการณ์ต่างกัน ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง และที่สำคัญก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายอำนาจรัฐจะเข้าใจแบบ "อ่านขาด" แค่ไหน คนคุมเกมหลักตอนนี้ก็ต้องมองไปที่ ผบ.ทบ. เลขาฯ คสช. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เท่านั้น นอกเหนือจากนี้ สำคัญที่สุดขึ้นอยู่กับว่า "อารมณ์ร่วม" ของสังคมว่าจะเทไปทางไหน และนาทีนี้แม้ว่าจะสรุปเรื่องเอาด้วยกับรัฐบาลและคสช.หรือไม่ยังไม่รู้ รู้แต่ว่า"รำคาญ" เด็กๆ และรู้ทัน "พวกแก่ๆ" ที่ซ่อนอยู่ข้างหลังต่างหาก รู้ยัง !!
00 นี่ก็ใกล้ครบกำหนดควบคุมตัวครั้งแรก 10 วัน ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. ที่ถูกจับพกพาอาวุธปืนพร้อมกระสุนขึ้นเครื่องบิน ที่ประเทศญี่ปุ่น งานนี้ที่โน่นคงว่ากันไปตาม กม.อย่างเคร่งครัด "ขอกันไม่ได้" ปัญหาก็อยู่ที่ฝั่งไทยนี่แหละ เพราะหลังจากที่ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาความจริงว่านำเอาปืนออกไปได้อย่างไร เข้าใจวาางานนี้ต้องเกี่ยวกับ ทอท.และตม.ผ่านการตรวจสอบหรือไม่ จนถึงวันนี้ทำท่าเงียบฉี่อีกแล้ว แน่นอนว่าคงอยากให้เงียบสนิท หรือเบนไปทางอื่น เพราะถ้าผ่านไปทางช่องทางปกติหรือไม่ปกติก็ตามจะยุ่งแน่ ทั้งเรื่องตอกย้ำความล้มเหลวด้านมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว ยังจะ"ซวย"กันกราวรูด อยากถาม รมว.คมนาคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ตอบให้เคลียร์ และแทบทุกเรื่องดูเหมือนว่าจะอืดไม่คืบหน้าสักเรื่องเดียว !!