นายวัชระ เพชรทอง อดีตโฆษกคณะกรรมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามที่ นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คนที่ 2 ออกมาปกป้อง นายชาญวิทย์ วสยางกูร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และ นายพรศักดิ์ เจียรนัย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งทั้งคู่เป็นสมาชิกสนช. ว่า ใครอยากพูดอะไรก็พูดได้ และเรื่องจริงคือ สนช. 2 คนนี้ ยังไม่เคยถูกสอบ ดังนั้นอยากให้สังคมอย่าไปคิด หรือมโน ตามที่บางกลุ่มได้ออกมาชี้นำ ไม่น่าเชื่อว่ารองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติแห่งชาติ จะน้ำเน่าถึงเพียงนี้ ขนาดยังไม่ทันรู้ความจริง ก็รีบออกมาปกป้อง สนช. พวกเดียวกัน ทั้งที่เรื่องการทุจริตยาปราบศัตรูพืชของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย มีการสอบสวนเป็นที่ยุติแล้วว่า มีการทุจริตจริงในคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่มี นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน แล้วส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สอบต่อไป ส่วนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก็สอบสวนพร้อมๆกัน 3 หน่วยงาน
ฉะนั้นสิ่งที่ นายพีระศักดิ์ พอจิต กล่าวนั้นจึงเป็นความเท็จ เพราะ สนช.ทั้งสองคนถูกสอบสวนแล้ว ปรากฏลายเซ็น นายชาญวิทย์ ชัดเจนสื่อมวลชนได้เห็นกันแล้ว ส่วนนายพรศักดิ์ ถูกสอบสวนเรื่องการทุจริตเหมืองผาขาวอีกกรณีหนึ่งด้วย
" เราเป็นนักการเมือง มีศักดิ์ศรี มาจากประชาชน ไม่ได้ใช้ลิ้นเลียทอปบู๊ตทหาร พวกผมจึงพูดเท็จไม่เป็น พูดคำไหนคำนั้น ไม่เคยทรยศต่อประชาชน เมื่อมารักษาผลประโยชน์ของชาติ ด้วยการเรียกร้องให้ 2 สนช. ที่มีประวัติด่างพร้อย ให้ลาออกจากกรรมาธิการงบประมาณ พวก สนช. ยังปกป้องกันถึงขนาดนี้ เราจะไปหวังอะไรกับการปฏิรูปประเทศ ทั้งๆ ที่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 มาตรา 11 บัญญัติว่า สนช.ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ต้องอุทิศตนให้แก่การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตนั้น ขนาดเป็นผู้ว่าฯ ยังทุจริตยาปราบศัตรูพืช แล้วให้มาเป็นกรรมาธิการงบประมาณ พ.ศ. 2559 พิจารณาเงิน 2.72 ล้านล้านบาท ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไร ถ้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้ยินเสียงประหลาดใจของพี่น้องประชาชนจังหวัดมุกดาหาร , จ.ชัยภูมิ คนที่นั่นสงสัยเป็นอันมากว่า ท่านตั้งอดีตผู้ว่าฯ ของเขาเข้าไปเป็น สนช.ได้อย่างไร ไม่เชื่อท่านไปถามหน่วยข่าวกรองทหารดูก็แล้วกัน ผมจึงไม่ไว้วางใจให้บุคคลทั้งสองทำหน้าที่พิจารณางบประมาณแผ่นดินของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ วันนี้ (22มิ.ย.) เวลา 10.00 น.ผมจะไปยื่นหนังสือต่อ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ที่รัฐสภา เพื่อให้พิจารณาเรื่องสำคัญนี้" นายวัชระ กล่าว
ฉะนั้นสิ่งที่ นายพีระศักดิ์ พอจิต กล่าวนั้นจึงเป็นความเท็จ เพราะ สนช.ทั้งสองคนถูกสอบสวนแล้ว ปรากฏลายเซ็น นายชาญวิทย์ ชัดเจนสื่อมวลชนได้เห็นกันแล้ว ส่วนนายพรศักดิ์ ถูกสอบสวนเรื่องการทุจริตเหมืองผาขาวอีกกรณีหนึ่งด้วย
" เราเป็นนักการเมือง มีศักดิ์ศรี มาจากประชาชน ไม่ได้ใช้ลิ้นเลียทอปบู๊ตทหาร พวกผมจึงพูดเท็จไม่เป็น พูดคำไหนคำนั้น ไม่เคยทรยศต่อประชาชน เมื่อมารักษาผลประโยชน์ของชาติ ด้วยการเรียกร้องให้ 2 สนช. ที่มีประวัติด่างพร้อย ให้ลาออกจากกรรมาธิการงบประมาณ พวก สนช. ยังปกป้องกันถึงขนาดนี้ เราจะไปหวังอะไรกับการปฏิรูปประเทศ ทั้งๆ ที่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 มาตรา 11 บัญญัติว่า สนช.ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ต้องอุทิศตนให้แก่การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตนั้น ขนาดเป็นผู้ว่าฯ ยังทุจริตยาปราบศัตรูพืช แล้วให้มาเป็นกรรมาธิการงบประมาณ พ.ศ. 2559 พิจารณาเงิน 2.72 ล้านล้านบาท ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไร ถ้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้ยินเสียงประหลาดใจของพี่น้องประชาชนจังหวัดมุกดาหาร , จ.ชัยภูมิ คนที่นั่นสงสัยเป็นอันมากว่า ท่านตั้งอดีตผู้ว่าฯ ของเขาเข้าไปเป็น สนช.ได้อย่างไร ไม่เชื่อท่านไปถามหน่วยข่าวกรองทหารดูก็แล้วกัน ผมจึงไม่ไว้วางใจให้บุคคลทั้งสองทำหน้าที่พิจารณางบประมาณแผ่นดินของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ วันนี้ (22มิ.ย.) เวลา 10.00 น.ผมจะไปยื่นหนังสือต่อ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ที่รัฐสภา เพื่อให้พิจารณาเรื่องสำคัญนี้" นายวัชระ กล่าว