xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"ปัดดึงนักการเมือง ร่วมสภาขับเคลื่อนประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“บิ๊กตู่” ฉุนอีกสื่อเสี้ยมให้ตีกับ “อานันท์” แจงคุยกันแล้ว ระบุอดีตนายกฯ แค่เตือนด้วยหวังดี ยันยังไม่คิดดึงนักการเมืองร่วมสภาขับเคลื่อปฏิรูปประเทศ “อ๋อย” เผยหารือ ศปป. 4ประเด็น ฝากเรื่องประชามติให้โปร่งใส "จตุพร" สบช่องขอเปิดพีซทีวี เชื่อคนบ้านเลขที่ 109-111 ไม่ไปรับใช้ คสช. “เต้น” จี้นายกฯ แก้ปากท้อง เตือนเดินตามโรดแมปเดิม อย่าหลงเชื่อพวกเชลียร์ แนะจับบางคนในแม่น้ำ 5 สายปรับทัศนคติ เชิญ “พิชัย-ปานเทพ-ธีรยุทธ-ทนายนกเขา” ถกต่อ 19 และ 22 มิ.ย.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงกรณีนายอานันท์ ปัณยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลขณะนี้สามารถแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยได้เพียงผิวเผิน ว่า ขอขอบคุณนายอานันท์ที่แสดงความห่วงใย โดยความหมายของนายอานันท์บอกว่าสิ่งที่ทำวันนี้ ทุกอย่างดี แต่ต้องทำให้เร็ว เพราะสถานการณ์ไม่สงบ เป็นการเตือนว่าบ้านเมืองยังไม่สงบ

"ท่านยังรู้เลย แล้วทำไมพวกคุณ (สื่อมวลชน) ไม่รู้ ไม่ใช่เอาคำพูดของท่านมาเล่นงานผม เพราะท่านไม่ได้เล่นงานผม ผมคุยกับท่านอยู่แล้ว อะไรที่ท่านเสนอหรือแนะนำมา ผมก็ฟังเป็นแนวทางในการปฏิบัติพิจารณา ผมไม่ได้คิดเอง ฟังความเห็นจากทุกคน สื่อเองก็หัดฟังคนอื่นเขาบ้าง ฟังแล้วก็อย่าเอามาตีกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์

** ซัดนักข่าวถามไม่เคยเกรงใจ

ผู้สื่อข่าวพยายามถามย้ำว่า นายอานันท์ระบุว่า การแก้ปัญหาปัจจุบันทำให้เกิดความสงบเพียงผิวเผินเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบเสียงดังว่า "ใครล่ะ มันอยู่ที่ใคร ตอบสิว่าใครที่ทำให้เกิดความไม่สงบ รัฐบาลจะไปบังคับให้ปรองดองไม่ได้ จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 บังคับก็ไม่ได้”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายอานันท์เสนอให้มีการพูดคุยกันมากขึ้นนั้น ต้องดูว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง ต้องไปถามคนที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งไม่ใช่ตน เพราะตนมีหน้าที่ในการบริหารงานของประเทศ จำเป็นต้องใช้อำนาจที่มีอยู่ หรือไปถามประชาชนบ้างว่า วันนี้ต้องการอะไร ถ้าเลือกตั้งขึ้นมาแล้วบ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ก็ไม่เกี่ยวกับตน เรื่องนี้นายอานันท์ไม่ได้ตำหนิ เพียงแต่บอกว่า อยากให้เปิดมากขึ้น

"สื่อก็ไม่ควรมาตั้งคำถามเช่นนี้ สื่อไม่เคยเกรงใจผมเลย อย่าลืมว่าพวกท่านไม่ได้เลือกผมมา ผมมาเอง และมาแก้ปัญหาทุกๆ เรื่อง ก็ไม่รู้จะมาเอาอะไรอีก ผมไม่เข้าใจคนไทยเป็นอะไรกัน อะไรก็ไม่พอใจ และไม่ต้องมากล่าวหาว่า ทหารอยากมีอำนาจ เพราะถ้าผมมีอำนาจ สื่อมาถามผมอย่างนี้ไม่ได้หรอก เขียนอะไรก็ไม่ได้ แต่วันนี้อยากเขียนอะไร ก็เขียนได้เสรี จะพูดอะไรก็พูด ถามอะไรผมก็ได้ เพียงแต่ผมอาจจะโกรธบ้างเท่านั้น"นายกฯ กล่าว

** ยังไม่คิดเรื่องสภาขับเคลื่อนฯ

ส่วนกรณีที่มีการอ้างแหล่งข่าวว่า การที่ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) เชิญนักการเมืองเข้าร่วมหารือ เนื่องจากมีแนวคิดดึงเข้ามาร่วมสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเป็นคนแต่งตั้ง ก็ต้องถามตน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิด ส่วนการเชิญนักการเมืองมาพูดคุยก็เป็นเรื่องปกติ เพื่อมาสอบถามว่าจะปฏิรูปประเทศกันอย่างไร พร้อมให้ความร่วมมือที่จะปฏิรูปหรือไม่ ไม่ใช่โต้แย้งกับรัฐบาลตลอด วันนี้ก็อนุญาตพูดได้ แต่ขอให้พูดเป็นสาระหน่อยว่า จะปฏิรูปอย่างไร อย่าติอย่างเดียว

**"จาตุรนต์" หารือ ศปป. 4ประเด็น

ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเข้าร่วมหารือตามคำเชิญของ ศปป.ว่า ได้หารือใน 4 ประเด็น คือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยรวม การปฎิรูปร่างรัฐธรรมนูญ การแก้ไขความขัดแย้ง และการรับฟังความเห็นที่แตกต่าง รวมทั้งได้ได้ยืนยันว่า ต้องมีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งควรมีทางออกที่ชัดเจนว่า ถ้าทำประชามติไม่ผ่าน แล้วจะทำอย่างไร ไม่ใช่จะร่างรัฐธรรมนูญไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ หากไม่แก้ไขสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก่อนบังคับใช้จะทำให้เกิดความขัดแย้งความเสียหายขึ้นในอนาคต เพราะไม่มีความเป็นประชาธิปไตย

“อย่าทำประชามติแบบมัดมือชก เพียงให้ประชาชนออกมาแสดงความเห็น แค่เห็นด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้ว เราจะได้กติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เราจะได้เพียงแค่ความสงบที่ไม่ยั่งยืน สุดท้ายบ้านเมืองก็จะเกิดความขัดแย้งอีก” นายจาตุรนต์กล่าว

** "จตุพร" ได้ทีขอคืน "พีซทีวี "

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวก่อนเข้าร่วมหารือกับ ศปป.ว่า ตนจะพูดคุย เรื่องร่างรัฐธรรมนูญ สถานการณ์การเมือง และความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหา โดยสิ่งที่ตนจะเสนอเพิ่มเติมจากการเสนอในกลุ่มใหญ่ คือ เรื่องร่างรัฐธรรมนูญ และการขอเปิดพีซทีวีที่ยังถูกระงับการออกอากาศอยู่

สำหรับการทำประชามติ เห็นว่า ต้องเปิดกว้าง มีประสิทธิภาพ มีความเป็นธรรม และโปร่งใส อย่าให้มีข้อครหา ต้องเปิดกว้างให้ผู้สนับสนุน และคัดค้านได้แสดงความคิดเห็น คนที่รักษากติกาต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา อย่าทำหน้าที่เหมือนกรรมการมวยปล้ำ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่มีการตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งเปิดโอกาสให้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 เข้ามามีตำแหน่งได้ว่า นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย แต่ถ้าตั้งจริงๆ ก็ขอให้ตั้งคนที่ไม่มีธงและไม่มีอคติ และเห็นว่านักการเมืองจริงๆ คงไม่อยากเข้ามาตรงนี้ เพราะต้องการรอเข้าสู่สนามเลือกตั้งจริงมากกว่า ที่ผ่านมา แนวทางการปฎิรูปก็มีทั้งข้อเสนอของกรรมการหลายชุด น่าจะนำแนวทางที่ศึกษาแล้วมาปรับใช้จะดีกว่า

** “เต้น” ยุปรับทัศนคติ สปช.สายเชลียร์

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวภายหลังเข้าหารือกับ ศปป. ว่า ประเด็นใหญ่ที่สุดที่ตนฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี คือการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน เอยากให้รัฐบาลหามาตรการแก้ปัญหาเรื่องนี้มากที่สุด ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญ และสถานการณ์ทางการเมือง ตนอยากให้นายกฯพิจารณาตามกรอบเวลาโรดแมปที่ประกาศไว้ น่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้วกับการอยู่ในอำนาจ เพราะมันจะดีกับสถานการณ์โดยรวมของประเทศและประชาชน ที่สำคัญที่สุดคือดีต่อตัวนายกรัฐมนตรีเองด้วย ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อนายกฯ แต่ที่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะถ้าปล่อยบางสิ่งไปก็จะเป็นปัญหาของประเทศได้

“อยากบอกนายกฯว่า อย่าไปเคลิ้มตามเสียงเชียร์ของบางคนบางฝ่ายที่อยู่ในเรือแป๊ะ ที่อยากให้อยู่ต่ออีก 2-3 ปี เพราะไม่ใช่สัญญาณที่แท้จริงที่มาจากประชาชน ถ้ามีการปรับทัศนคติของคนบางคนในแม่น้ำ 5 สายบ้างก็น่าจะเป็นประโยชน์” นายณัฐวุฒิกล่าว

** เรียก “ธีรยุทธ-ทนายนกเขา” พูดคุย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 19 มิ.ย. ศปป.ได้เชิญนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ แกนนำเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) และวันที่ 22 มิ.ย. ได้เชิญนายธีรยุทธ บุญมี ผู้อำนายการสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมไปถึง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมหารือที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต

***ขีดเส้นตายกลุ่มดาวดินไม่มาเจอจับ

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวว่า วันที่ 18มิ.ย. เป็นวันสิ้นสุดการผ่อนผันเข้ารายงานของนักศึกษากลุ่มดาวดิน ตามหมายเรียกของสภ.เมืองขอนแก่น ในข้อหา "ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป" โดยหากไม่มารายงานตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจำเป็นต้องเพิ่มระดับเป็นการออกหมายจับ ส่วนวันที่ 19 มิ.ย. เป็นวันสุดท้ายของการผ่อนผันที่กลุ่มนักศึกษาที่จัดกิจกรรมหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ จำนวน 9 คนต้องมารายงานตัว หากไม่มาก็จะดำเนินการเช่นเดียวกับนักศึกษากลุ่มดาวดิน
กำลังโหลดความคิดเห็น