พ่อวัย 40 ปีก่อเหตุสลด! จบปัญหาชีวิตด้วยการรัดคอลูก 3 ศพแล้วแขวนคอตายตาม ที่อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ญาติให้การมีปัญหาครอบครัว-หนี้สิน ล่าสุดเมียหนีออกจากบ้านไป 3 วันยังไม่กลับ ผกก.ยันไม่ใช่ฆาตกรรมอำพราง เพราะไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือสารพิษ ล่าสุดพบหลักฐานโทรหาเมียก่อนตายนับร้อยครั้ง ก่อนส่งรูปลูกให้ดูในเฟสบุ๊ค พร้อมข้อความ “ลูก 3 คนไปสบายแล้ว”
เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้(15 มิ.ย.) ร.ต.ท.วีระศักดิ์ มะลิทอง พนักงานสอบสวนเวรสภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งพบศพ 4 ศพ ในบ้านเลขที่ 118/2 หมู่ 5 ต.สิชล ทั้ง 4 ศพเป็นพ่อและลูก จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงศ์ ผกก. แพทย์เวรโนงพยาบาลสิชล และหน่วยกู้ภัยซีบีสิชล
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแบ่งเช่า พบศพเด็ก 3 คนนอนเรียงอยู่บนที่นอนในสภาพเรียบร้อย ส่วนบนขื่อพบอีกศพผูกคอห้อยอยู่กับขื่อ หลังเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว จึงเคลื่อนย้ายศพทั้งหมดมาทำการชันสูตรอย่างละเอียด โดยศพแรก คือ นายไพศาล ยศขุน อายุ 40 ปี ส่วนเด็กทั้ง อีก 3 ศพ คือ ด.ญ.ศศิธร ยศขุน อายุ 14 ปี ด.ช.สราวุธ ยศขุน อายุ 8 ปี และด.ญ.ธนภรณ์ ยศขุน อายุ 4 ปี โดยลูกสาวคนโตถูกรัดคอด้วยเชือก อีก 2 คนพบร่องรอยถูกบีบคอ โดยเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
สอบสวนญาตินายไพศาลระบุ เดิมนายไพศาลเป็นชาวอ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พาครอบครัวมาเช่าห้องที่เกิดเหตุ ประกอบอาชีพรับจ้างขับเรือประมง และเรือนำเที่ยวตกปลาในอ.สิชล มาได้ระยะหนึ่งแล้ว และทราบว่ามีปัญหากับภรรยา คือ นางจุฑาทิพย์เป็นประจำ เนื่องจากระยะหลังนายไพศาลไม่มีงานออกเรือนานนับเดือนแล้ว จึงไม่มีรายได้ ทำให้มีปัญหาด้านการเงิน ทั้งเรื่องรายจ่ายและหนี้สิน
ก่อนเกิดเหตุ 3 วันที่ผ่านมา นางจุฑาทิพย์ได้หนีออกจากบ้านไปโดยไม่มีใครติดต่อได้ ทิ้งลูก 3 คนให้อยู่กับนายไพศาล เชื่อว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเครียด จนเป็นเหตุให้ตัดสินใจฆ่าลูกทั้ง 3 คน ก่อนที่จะผูกคอตัวเอง เพื่อจบปัญหาภายในครอบครัว
พ.ต.อ.โชคดี กล่าวว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากนายไพศาลมีความเครียดเองปัญหาครอบครัว เนื่องจากภรรยาหายไป ประกอบปัญหาหนี้สิน ซึ่งหลักฐานเบื้องต้นระบุชัดเจนว่านายไพศาลรัดและบีบคอลูกทั้ง 3 คนจนตาย เพราะไม่พบร่องรอยการต่อสู้ รื้อค้นข้าวของ หรือยาที่มีผลต่อจิตประสาทหรือสารพิษใดๆที่น่าเชื่อได้ว่านายไพศาลอาจใช้เป็นส่วนหนึ่งของการฆาตกรรม โดยหลังจากฆาตกรรมลูกทั้ง 3 คนแล้วจึงนำศพมาวางเรียงไว้บนเตียงนอนก่อนที่จะผูกคอตาย อย่างไรก็ตามจะส่งศพทั้งหมดไปพิสูจน์ที่ศูนย์นิติเวช จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง ว่ามีสารพิษหรือสารที่มีผลออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทตกค้างในตัวผู้ตายทั้ง 4 ศพหรือไม่
บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.โชคดี กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าเมื่อเวลา 22.07 น. วันที่ 14 มิ.ย. นายไพศาล โทรศัพท์ไปหาภรรยานับร้อยครั้ง และส่งภาพของลูกทั้ง 3 คนเข้าเฟสบุ๊คของภรรยา และบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงลูกทั้ง 3 คนเขาไปสบายแล้ว คาดว่านายไพศาล จะก่อเหตุในช่วงเวลา 23.00 น.
เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้(15 มิ.ย.) ร.ต.ท.วีระศักดิ์ มะลิทอง พนักงานสอบสวนเวรสภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งพบศพ 4 ศพ ในบ้านเลขที่ 118/2 หมู่ 5 ต.สิชล ทั้ง 4 ศพเป็นพ่อและลูก จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงศ์ ผกก. แพทย์เวรโนงพยาบาลสิชล และหน่วยกู้ภัยซีบีสิชล
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแบ่งเช่า พบศพเด็ก 3 คนนอนเรียงอยู่บนที่นอนในสภาพเรียบร้อย ส่วนบนขื่อพบอีกศพผูกคอห้อยอยู่กับขื่อ หลังเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว จึงเคลื่อนย้ายศพทั้งหมดมาทำการชันสูตรอย่างละเอียด โดยศพแรก คือ นายไพศาล ยศขุน อายุ 40 ปี ส่วนเด็กทั้ง อีก 3 ศพ คือ ด.ญ.ศศิธร ยศขุน อายุ 14 ปี ด.ช.สราวุธ ยศขุน อายุ 8 ปี และด.ญ.ธนภรณ์ ยศขุน อายุ 4 ปี โดยลูกสาวคนโตถูกรัดคอด้วยเชือก อีก 2 คนพบร่องรอยถูกบีบคอ โดยเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
สอบสวนญาตินายไพศาลระบุ เดิมนายไพศาลเป็นชาวอ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พาครอบครัวมาเช่าห้องที่เกิดเหตุ ประกอบอาชีพรับจ้างขับเรือประมง และเรือนำเที่ยวตกปลาในอ.สิชล มาได้ระยะหนึ่งแล้ว และทราบว่ามีปัญหากับภรรยา คือ นางจุฑาทิพย์เป็นประจำ เนื่องจากระยะหลังนายไพศาลไม่มีงานออกเรือนานนับเดือนแล้ว จึงไม่มีรายได้ ทำให้มีปัญหาด้านการเงิน ทั้งเรื่องรายจ่ายและหนี้สิน
ก่อนเกิดเหตุ 3 วันที่ผ่านมา นางจุฑาทิพย์ได้หนีออกจากบ้านไปโดยไม่มีใครติดต่อได้ ทิ้งลูก 3 คนให้อยู่กับนายไพศาล เชื่อว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเครียด จนเป็นเหตุให้ตัดสินใจฆ่าลูกทั้ง 3 คน ก่อนที่จะผูกคอตัวเอง เพื่อจบปัญหาภายในครอบครัว
พ.ต.อ.โชคดี กล่าวว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากนายไพศาลมีความเครียดเองปัญหาครอบครัว เนื่องจากภรรยาหายไป ประกอบปัญหาหนี้สิน ซึ่งหลักฐานเบื้องต้นระบุชัดเจนว่านายไพศาลรัดและบีบคอลูกทั้ง 3 คนจนตาย เพราะไม่พบร่องรอยการต่อสู้ รื้อค้นข้าวของ หรือยาที่มีผลต่อจิตประสาทหรือสารพิษใดๆที่น่าเชื่อได้ว่านายไพศาลอาจใช้เป็นส่วนหนึ่งของการฆาตกรรม โดยหลังจากฆาตกรรมลูกทั้ง 3 คนแล้วจึงนำศพมาวางเรียงไว้บนเตียงนอนก่อนที่จะผูกคอตาย อย่างไรก็ตามจะส่งศพทั้งหมดไปพิสูจน์ที่ศูนย์นิติเวช จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง ว่ามีสารพิษหรือสารที่มีผลออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทตกค้างในตัวผู้ตายทั้ง 4 ศพหรือไม่
บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.โชคดี กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าเมื่อเวลา 22.07 น. วันที่ 14 มิ.ย. นายไพศาล โทรศัพท์ไปหาภรรยานับร้อยครั้ง และส่งภาพของลูกทั้ง 3 คนเข้าเฟสบุ๊คของภรรยา และบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงลูกทั้ง 3 คนเขาไปสบายแล้ว คาดว่านายไพศาล จะก่อเหตุในช่วงเวลา 23.00 น.