xs
xsm
sm
md
lg

เพิกถอนโฉนดนายช่าง ฮุบที่ดินส.ป.ก.เขาใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชลงนามเพิกถอนโฉนดที่ดินของนายช่างรังวัด ส.ป.ก.โคราช ออกโดยมิชอบฮุบป่าทางขึ้นอุทยานฯ เขาใหญ่ทั้ง 155 ไร่แล้ว ด้าน "พ.อ.สมหมาย" ลั่นชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมทุกหน่วยงานเตรียมลุยหนักทวงคืนพื้นที่ป่าวังน้ำเขียว ด้าน ส.ป.ก.บุรีรัมย์เตรียมแจ้งความเอาผิดผู้ลักลอบขุดดินออกจากพื้นที่ ส.ป.ก. พร้อมร่วมสำนักพุทธเร่งตรวจสอบเอกสารสิทธิพื้นที่ตั้งสำนักสงฆ์พระพุทธบาทศิลา เนื้อที่กว่า 200 ไร่ ก่อสร้างถาวรวัตถุ สถานที่ปฏิบัติธรรม ศาสนสถานต่างๆ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เพื่อรวบรวมเสนอที่ประชุม "คปจ." พิจาณาดำเนินการ

วานนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัดสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ได้นำ ส.ค.1 เลขที่ 19 หมู่ 3 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บริเวณใกล้ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เนื้อที่ 30 ไร่ มาออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินเป็นเนื้อที่กว่า 155 ไร่ ในนามชื่อของสามี และออกโฉนดที่ดินรุกล้ำเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กว่า 130 ไร่ เพื่อจัดสรรขายให้แก่ข้าราชการระดับสูงหลายคน ราคาไร่ละกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งทาง ส.ป.ก.ได้สั่งย้ายนางพรทวีไปช่วยราชการพร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุดนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การเพิกถอนเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ในการเสนอความเห็นว่าควรหรือไม่ควร ถ้าควรก็เสนอไปยังอธิบดีกรมที่ดินซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามตัวจริงในการเพิกถอนโฉนดที่ดิน และเสนอความเห็นให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบในรายละเอียดว่าการได้มานั้นไม่ชอบด้วยเหตุใดบ้าง

โดยกรณีแปลงที่ดินที่เป็นของนางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัดสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้ตนได้เสนอความเห็นให้เพิกถอนโฉนดไปเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบ ประกอบด้วยนายอำเภอปากช่อง, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดนครราชสีมาสาขาปากช่อง ซึ่งข้อเท็จจริงที่นำมาสู่การเสนอความเห็นในการเพิกถอนโฉนดก็เป็นไปตามที่ทุกคนทราบผ่านสื่อแล้ว แต่การจะชี้ชัดอะไรลงไปเลยคงไม่ได้ในตอนนี้ ยืนยันว่าได้ลงนามตามนั้นไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

นายธงชัยกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ทุกคนไม่ต้องไปลำบากใจอะไร ถ้ามันไม่ถูกต้องไปไม่รอดของแบบนี้มันเห็นกันอยู่แล้ว เพราะที่ดินเป็นอสังหาริมทรัพย์เคลื่อนไหว เคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้ อะไรที่มันปิดบังอยู่เห็นชัดและเห็นง่าย ไม่เหมือนของที่สามารถหยิบไปซุกซ่อนหรือดัดแปลงได้ แต่ที่ดินจะไปดัดแปลงรูปร่างก็ไม่ได้ ออกเป็นโฉนดรูปร่างอย่างไรก็เป็นรูปร่างอย่างนั้นอยู่ในผืนดิน เพราะไม่สามารถดัดแปลงลักษณะของทรัพย์ตัวนี้ได้ ฉะนั้นเชื่อว่าการที่จะนำสมบัติเหล่านี้คืนสู่แผ่นดิน หากไม่ถูกต้องได้คืนอย่างแน่นอน แต่หากถูกต้องเขาก็จะได้รับความเป็นธรรมเอง

**ทหารลั่นลุยต่อทวงคืนป่า "วังน้ำเขียว"

ส่วนทาง ส.ป.ก.ต้องไปแจ้งความดำเนินคดีต่อนายช่างรังวัดสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาคนดังกล่าวหรือไม่นั้นตนคิดว่าเขาคงมองในแง่กฎหมายว่าหากยังไม่มีการชี้ชัดว่าอันนี้เพิกถอนแล้ว หากไปแจ้งความดำเนินคดีก่อนก็เกรงว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งก็สุดแท้แต่ทาง ส.ป.ก.จะว่าไป แต่สุดท้ายมันมีที่จบอย่างแน่นอน และหากมีความชัดเจนแล้วก็จะเดินสู่กระบวนการทางกฎหมายเอง

ทางด้าน พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคง กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ในส่วนที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่า อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไม่ว่าจะเป็นกรณีโบนันซ่า, คีรีมายา, มูนแดนซ์ ที่ตั้งบ้านพักหรูและที่ดินของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง, กรณีที่ดินของนายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา บุกรุกที่ ส.ป.ก. และอื่นๆ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบจะดำเนินการไปตามกระบวนการ

"หลังจากนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษที่บูรณาการร่วมหน่วยงานต่างๆ จะมีการลุยตรวจสอบอีกครั้งในพื้นที่อำเภอปากช่องที่เหลืออยู่บางจุด จากนั้นจะไปรุกหนักในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการตรวจสอบพร้อมกัน และรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาทราบต่อไป" พ.อ.สมหมาย กล่าว

**บุรีรัมย์เตรียมแจ้งความเอาผิดผู้ลักลอบขุดดิน

ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบหลักเกณฑ์ในการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้แก่ชาวบ้าน และทางสำนักสงฆ์พระพุทธบาทศิลา (ภูม่านฟ้า) ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับทราบ หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่าสำนักสงฆ์ดังกล่าวมีการก่อสร้างถาวรวัตถุ สถานที่ปฏิบัติธรรม ศาสนสถานต่างๆ ในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ มูลค่าสิ่งปลูกสร้างกว่า 100 ล้านบาท

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าสำนักสงฆ์ดังกล่าวได้ทำการก่อสร้างในพื้นที่ ส.ป.ก.จริง แต่ทางสำนักสงฆ์อ้างว่าที่ดินดังกล่าวเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่ เป็นที่มรดกมีโฉนดที่ดินถูกต้อง ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านและญาติโยมบริจาคให้ทางสำนักสงฆ์ โดยที่ทางสำนักสงฆ์ไม่ทราบว่าเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิอะไร

กรณีดังกล่าวทางปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์จะได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์เร่งทำการตรวจสอบเอกสารสิทธิการถือครองที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวให้ชัดเจนอีกครั้ง ก่อนจะรวบรวมข้อมูลเสนอที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอน

**เร่งตรวจสอบสำนักสงฆ์ร้อยล้านส่งคปจ.ชี้ขาด

ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนว่ามีผู้ใช้เครื่องจักรกลเข้าไปลักลอบขุดดินในพื้นที่ ส.ป.ก.ที่อยู่ใกล้กับสำนักสงฆ์ไปถมในที่ดินส่วนบุคคลนั้น พบว่ามีการกระทำจริง และบุคคลดังกล่าวเป็นชาวบ้านที่ได้รับกรรมสิทธิ์ให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าว แต่อ้างว่าสาเหตุที่นำรถแบ็กโฮมาขุดตักหน้าดินออกเพื่อต้องการปรับพื้นที่เตรียมทำนา แต่ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบหลักเกณฑ์ในการใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ซึ่งทาง ส.ป.ก.จะได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอนต่อไป

น.ส.วรรณพร ดอกจำปา ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ชาวบ้านที่ได้รับกรรมสิทธิ์ให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของ ส.ป.ก.ต้องทำประโยชน์เกี่ยวกับด้านเกษตรกรรมเท่านั้น และไม่สามารถจะยกที่ดินให้แก่บุคคลอื่นโดยพลการ ส่วนกรณีที่จะยกให้ทายาทต้องแจ้งให้ทาง ส.ป.ก.ได้รับทราบและจะต้องได้รับอนุญาตจากทาง ส.ป.ก.เท่านั้น

ส่วนกรณีที่ทางสำนักสงฆ์อ้างว่าได้รับบริจาคที่ดินจากชาวบ้านนั้นจะต้องตรวจสอบที่ไปที่มาให้ชัดเจนอีกครั้ง และจะได้รวบรวมข้อมูลเสนอที่ประชุม คปจ.เพื่อพิจารณาดำเนินการตามระเบียบหลักเกณฑ์ต่อไป แต่หากทางวัดหรือสำนักสงฆ์จะขอใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.จะต้องยื่นเรื่องเสนอคณะกรรมการระดับจังหวัด แต่จะต้องไม่เกิน 15 ไร่ หากมากกว่านั้นต้องเสนอไปยังกรมหรือส่วนกลางพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะระดับจังหวัดไม่มีอำนาจพิจารณา
กำลังโหลดความคิดเห็น