xs
xsm
sm
md
lg

รถไฟชนจยย.ดับ บขส.อัดกำแพง เชิดชัยชนรถพ่วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สลดรถไฟ ตะขอพ่วงหลุดจากหัวรถจักร ชนคนขับจยย.เสียชีวิตคาที่ ส่วนเก๋งป้ายแดงเสียหายยับ “วุฒิชาติ” เผยพบสาเหตุจากตะขอพ่วง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส่วนควบชำรุด สั่งตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์ก่อนทำขบวน อีกเหตุรถบัสร่วมบริการ บขส.ปรับอากาศ เสียหลักพุ่งชนอัดกำแพงสนามบินดอนเมืองพังเสียหาย ด้านโชเฟอร์อ้างถนนลื่น ถูกแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท ขณะที่บนถนนมิตรภาพ อ.ปากช่อง โคราช ได้เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-ราชสีมา ของบริษัทเชิดชัย พุ่งชนรถพ่วงบรรทุกปูนซีเมนต์

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 9 มิ.ย. ได้เกิดเหตุรถไฟชนผู้ขับขี่จักรยานยนต์เสียชีวิตบริเวณย่านประชาชื่น ใกล้กับสถานีรถไฟบางซ่อน แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.เตาปูน ได้รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบตัวพ่วงรถไฟขนส่งไม้หมอน พ่วง 10 โบกี้มุ่งหน้าจังหวัดสุพรรณบุรี จอดนิ่ง

เนื่องจากตัวพ่วงโบกี้หลุดจากหัวรถจักร และใต้ตัวพ่วงพบซากจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน ฬบล 236 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับ และด้านใต้พบศพหญิงไทยไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 45 ปี ติดอยู่คาล้อ ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ที่จุดกั้นรถไฟซุ้มประชาชื่น พบรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ ป้ายทะเบียนสีแดง ก3302 นครปฐม มี น.ส.ณปภัช วงษ์แสงแก้ว อายุ 25 ปี เจ้าของรถ โดยรถถูกชนเสียหลักอยู่ข้างทางรถไฟ ด้านซ้ายของรถพังทั้งแถบ

จากการสอบถามนายสุธน นันทพล พนักงานรถไฟที่คอยดูแลจุดกั้นรถในบริเวณดังกล่าวระบุว่า ช่วงประมาณ 06.30 น.ขณะที่กำลังทำหน้าที่กั้นขบวนรถไฟ ได้เห็นหัวรถจักรมุ่งหน้าผ่านจุดกั้นไปแล้วจึงคิดว่าขบวนหมดสิ้นแล้วจึงรีบยกที่กั้นขึ้นทันที ปรากฏว่ายังมีขบวนพ่วงตามมาทีหลัง 50 เมตร โดยขบวนพ่วงหลุดจากหัวรถจักรที่จุดใดไม่ทราบ เมื่อขบวนพ่วงไหลตามมาปรากฏว่า รถที่จอดรอขบวนรถไฟได้ขับกันมาปกติ ทำให้ขบวนพ่วงพุ่งชนเข้ากับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซอย่างแรงจนรถเก๋งหมุนคว้างหล่นลงข้างทาง นอกจากนี้ยังได้ชนเข้ากับจักรยานยนต์อย่างแรงและลากรถไปไกลถึง 100 เมตร ก่อนที่ขบวนพ่วงจะหมดแรงจอดหยุดกับที่จุดเกิดเหตุดังกล่าว

ขณะที่ น.ส.ณปภัช เจ้าของรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ ให้การว่า ได้ขับรถไปส่งพี่ชายที่ย่านดอนเมือง และกำลังจะกลับคอนโดมิเนียมย่านเตาปูน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้จอดรถขบวนรถไฟ กระทั่งหัวรถจักรผ่านไปและที่กั้นถูกยกออก จึงขับรถข้ามทางรถไฟปกติ ปรากฏว่า จังหวะที่ข้าม ขบวนพ่วงได้ชนเข้ากับรถของตนอย่างแรงจนรถหมุนตกลงข้างทาง แต่ตนไม่เห็นว่าจักรยานยนต์ขี่มาตอนไหน ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ สน.เตาปูนได้ประสานเจ้าหน้าที่ สน.นพวงษ์ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.กล่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้วพบว่าเหตุเกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์ส่วนควบคือ ตะขอพ่วงชำรุดเสียหาย ซึ่งตามหลักก่อนออกขบวนรถเจ้าหน้าที่จะต้องมีการตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์อยู่แล้ว

อุบัติเหตุครั้งนี้แม้จะเป็นเป็นเหตุสุดวิสัยแต่ถือเป็นความผิดของร.ฟ.ท.ซึ่งจะต้องรับผิดชอบ โดยจะดูแลค่าปลงศพ และเจรจาเพื่อเยียวยากับผู้เสียชีวิตต่อไป ส่วนทรัพย์สินที่เสียหายจะให้บริษัทประกันเข้ามาประเมินต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ตรวจสอบขบวนรถประเภทที่มีตะขอเกี่ยวพ่วง ซึ่งเบื้องต้นไม่พบว่ามีความชำรุดบกพร่องอีก พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้พนักงานทุกคนเพิ่มมาตรการตรวจสอบสภาพรถตามมาตรฐานก่อนทำขบวนอย่างเคร่งครัด และต้องยอมรับว่า ขบวนรถไฟมีสภาพค่อนข้างเก่า
มีอายุใช้งานนานแล้วโดยขณะนี้มีแผนที่จะเปลี่ยนเป็นรถรุ่นใหม่ด้วย

*** บขส.พุ่งชนกำแพงดอนเมือง

วานนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 03.00 น. ร.ต.ท.วรกร ณัฎฐมั่งคั่ง พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมืองได้รับแจ้งเหตุรถมีรถบัสร่วมบริการ บขส.ปรับอากาศ พุ่งชนกำแพงสนามบินดอนเมือง บริเวณยูเทิร์นคลังสินค้า ถนนวิภาวดีด้านขาเข้า จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกำลังอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบริเวณช่องทางเข้าสนามบินดอนเมืองช่องทางที่ 7 แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. พบกำแพงรั้วสนามบินได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้าหักโค่น ห่างออกไปถนนด้านในสนามบินดอนเมืองพบรถบัสร่วมบริการ บขส.ปรับอากาศยี่ห้อเบนซ์ สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน 15-3590 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท วัฒนสาครทัวร์ วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ยโสธร-เขมราฐ ตรวจสอบสภาพรถด้านขวามีรอยครูด กระจกแตกทุกบาน ล้อหลังทั้งสองข้างแตกทั้งหมด กระจกด้านหน้ารถแตก

ทั้งนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้โดยสารที่มากับรถบัสทั้งหมด 12 ราย แบ่งเป็นหญิง 4 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยหัวแตก ถลอกตามตัว 3 ราย นิ้วมือข้างซ้ายขาดทั้ง 5 นิ้ว 1 ราย ชาย 8 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยหัวแตก ถลอกตามตัว 7 ราย ไหปลาร้าหัก 1 ราย เบื้องต้นอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช

จากการสอบสวนนายนรินทร์ ดีไว อายุ 50 ปี คนขับรถบัสเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจาก จ.ยโสธร เพื่อนำผู้โดยสารมาส่งที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ เหลือผู้โดยสารอยู่บนรถเพียง 18 คน โดยใช้ถนนวิภาวดีด้านขาเข้า ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตรมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ตนเองพยายามชะลอความเร็วแต่ถนนลื่นจนทำให้บังคับรถไม่อยู่ รถส่ายไปมาก่อนที่รถจะไถลเข้ามากระแทกกับกำแพงทางเข้าสนามบิน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวคนขับไปสอบปากคำ ก่อนจะแจ้งข้อหานายนรินทร์ โชเฟอร์ ว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย

*** เชิดชัยทัวร์ชนรถพ่วง

เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้ (9 มิ.ย.) ร.ต.อ.วิวรรธน์ โพคาสี พนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ชนกับรถบรรทุกพ่วงที่บริเวณหลักกิโลเมตร (กม.) ที่ 50 ถ.มิตรภาพ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย จึงนำกำลังรุดตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนมิตรภาพ พบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศชั้น 1 สีฟ้าขาว สายกรุงเทพฯ-ราชสีมา ของบริษัท เชิดชัยทัวร์ จำกัด หมายเลขทะเบียน 10-4068 นครราชสีมา มีนายประยูร เกริ่นกระโทก เป็นพนักงานขับ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ใกล้กันพบรถพ่วงบรรทุกปูนซีเมนต์ สีขาว หัวพ่วงทะเบียน 70-1294 สุรินทร์ ท้ายพ่วง หมายเลขทะเบียน 70-1295 สุรินทร์

มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้โดยสารที่เดินทางมากับรถโดยสารประจำทาง จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายประยูร เกริ่นกระโทก พนักงานขับรถโดยสารประจำทาง, นายมิตร ดีด่านค้อ, นางสำราญ ดีด่านค้อ ทั้ง 3 รายถูกนำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลปากช่องนานา อ.ปากช่อง ส่วน นางนารีรัตน์ ชัชวาล และ น.ส.น้ำค้าง ศรีกลาง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา และพบมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางสาวสารี่ จงคลาดกลาง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.3 ต.พลสงคราม อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ซึ่งถูกปูนกระสอบทับเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า รถบรรทุกพ่วงที่มี นายสมชาย พูดชอบ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 ม.4 ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นคนขับ ได้บรรทุกปูนซีเมนต์เต็มคันรถมาจาก จ.สระบุรี มุ่งหน้า จ.สุรินทร์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเพลากลางพ่วงรถบรรทุกขาดไม่สามารถบังคับรถเข้าชิดขอบทางได้ จึงจอดเสียอยู่เลนกลางถนน และขณะกำลังลงไปวางกรวยเพื่อทำเป็นสัญญาณให้รถคันอื่นๆ มองเห็น ทันใดนั้นรถโดยสารประจำทางปรับอากาศคันดังกล่าวได้พุ่งเข้าชนอย่างจังเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น