ASTVผู้จัดการรายวัน-ดีเอสไอเข้าตรวจสอบเอกสารหลักทรัพย์ค้ำประกันของ "บิลเลี่ยนฯ" ที่นำไปใช้ค้ำประกันในการร่วมทุนกับ สกสค. ทำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 2.1 พันล้านบาท "ณรงค์"ขอรอผลสรุปก่อนว่าเป็นเอกสารจริงหรือปลอม หากพบว่าปลอมก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ระบุกรณี "สมศักดิ์" ขอชี้แจงผ่านเอกสาร ย้ำหากบริสุทธิ์ใจ ก็ควรมาชี้แจงด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.45 น. วานนี้ (27 พ.ค.) ที่อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เดินทางเข้าตรวจสอบเอกสารที่บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด นำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการร่วมทุนกับกองทุนสนับสนุนพิเศษกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ในโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี มูลค่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งถูกนำมาเก็บไว้ในห้องมั่นคงภายใน ศธ. ตามที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้ย้ายเอกสารดังกล่าวมาเก็บไว้ที่ห้องมั่นคงก่อนหน้านี้ โดยมีนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ให้การต้อนรับและร่วมในการตรวจสอบ
โดยในระหว่างการดำเนินการ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดศธ. ได้เข้าพบผู้แทนหน่วยงานที่มาตรวจสอบเพียงสั้นๆ ประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น. พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ ได้เดินทางกลับ จากนั้นผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ก็ได้ทยอยเดินทางกลับเช่นกัน ซึ่งใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 2 ชั่วโมง โดยทุกคนปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว เช่นเดียวกับ นายพินิจศักดิ์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์เช่นกันบอกเพียงว่าจะทำรายงานเสนอต่อพล.ร.อ.ณรงค์พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการก่อน
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงาน และยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายพินิจศักดิ์ ต้องรอให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนให้ได้รายละเอียดที่ครบถ้วนก่อนจึงจะสามารถบอกรายละเอียดได้ ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบของหน่วยงานครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คงได้เห็นแค่เอกสาร แต่การจะชี้ว่าเป็นเอกสารจริงหรือปลอม มีมูลค่าหรือไม่ คงต้องไปตรวจสอบกับทางสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเช็ค หรือดราฟเช็ค ซึ่งคงใช้เวลาในการตรวจสอบไม่นาน เพราะมีเจ้าหน้าที่ทั้งจากดีเอสไอ และปปง. เข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย ซึ่งเท่าที่ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ต่างๆ ก็เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ คิดว่าจะได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนในเร็วๆ นี้
"หากพบว่ามีเอกสารปลอม ก็คงต้องว่าไปตามกฎหมาย เพราะหลักทรัพย์ดังกล่าว บริษัท บิลเลี่ยนฯ ใช้ในการค้ำประกันกับทาง สกสค. ถ้าตรวจสอบแล้วว่าพบว่าหลักทรัพย์เหล่านี้เป็นของปลอม ก็ต้องพิจารณาว่าผู้ที่นำหลักทรัพย์มาค้ำประกันจะต้องมีความผิดหรือไม่ และคงต้องพิจารณาว่าคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ที่นำเงินไปลงทุน ได้มีความพยายามในการตรวจสอบหรือไม่ ว่าหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน มีมูลค่าจริงตามที่เขามากล่าวอ้าง ถ้าได้ทำโดยรอบคอบแล้ว ก็พอมีเหตุผล แต่ถ้าไม่ได้มีการดำเนินการ ก็คงต้องมาพิจารณาว่าเป็นเพราะสาเหตุใด โดยในการประชุมคณะกรรมการ สกสค. ในวันที่ 28 พ.ค. จะมีการหารือเรื่องดังกล่าวด้วย"รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการ สกสค.ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกและยืนยันว่าจะขอชี้แจงด้วยเอกสารเท่านั้น โดยไม่ได้มาชี้แจงด้วยวาจาในวันที่ 25พ.ค. ตามที่ สกสค.ทำหนังสือแจ้งไป ซึ่งถ้านายสมศักดิ์บริสุทธิ์ใจ ก็น่าจะยินดีมาชี้แจงด้วยตนเอง แต่หากนายสมศักดิ์ ยังไม่พร้อมและร้องขอแต่เอกสารอย่างเดียว เป็นเรื่องที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ต้องรอให้ผลการตรวจสอบที่ชัดเจนของเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะเมื่อถึงเวลานั้นการดำเนินการตามกฎหมายก็จะมีความชัดเจนมากขึ้นไม่ว่านายสมศักดิ์ จะมาชี้แจงด้วยตนเองหรือชี้แจงด้วยเอกสารก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.45 น. วานนี้ (27 พ.ค.) ที่อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เดินทางเข้าตรวจสอบเอกสารที่บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด นำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการร่วมทุนกับกองทุนสนับสนุนพิเศษกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ในโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี มูลค่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งถูกนำมาเก็บไว้ในห้องมั่นคงภายใน ศธ. ตามที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้ย้ายเอกสารดังกล่าวมาเก็บไว้ที่ห้องมั่นคงก่อนหน้านี้ โดยมีนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ให้การต้อนรับและร่วมในการตรวจสอบ
โดยในระหว่างการดำเนินการ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดศธ. ได้เข้าพบผู้แทนหน่วยงานที่มาตรวจสอบเพียงสั้นๆ ประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น. พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ ได้เดินทางกลับ จากนั้นผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ก็ได้ทยอยเดินทางกลับเช่นกัน ซึ่งใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 2 ชั่วโมง โดยทุกคนปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว เช่นเดียวกับ นายพินิจศักดิ์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์เช่นกันบอกเพียงว่าจะทำรายงานเสนอต่อพล.ร.อ.ณรงค์พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการก่อน
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงาน และยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายพินิจศักดิ์ ต้องรอให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนให้ได้รายละเอียดที่ครบถ้วนก่อนจึงจะสามารถบอกรายละเอียดได้ ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบของหน่วยงานครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คงได้เห็นแค่เอกสาร แต่การจะชี้ว่าเป็นเอกสารจริงหรือปลอม มีมูลค่าหรือไม่ คงต้องไปตรวจสอบกับทางสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเช็ค หรือดราฟเช็ค ซึ่งคงใช้เวลาในการตรวจสอบไม่นาน เพราะมีเจ้าหน้าที่ทั้งจากดีเอสไอ และปปง. เข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย ซึ่งเท่าที่ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ต่างๆ ก็เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ คิดว่าจะได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนในเร็วๆ นี้
"หากพบว่ามีเอกสารปลอม ก็คงต้องว่าไปตามกฎหมาย เพราะหลักทรัพย์ดังกล่าว บริษัท บิลเลี่ยนฯ ใช้ในการค้ำประกันกับทาง สกสค. ถ้าตรวจสอบแล้วว่าพบว่าหลักทรัพย์เหล่านี้เป็นของปลอม ก็ต้องพิจารณาว่าผู้ที่นำหลักทรัพย์มาค้ำประกันจะต้องมีความผิดหรือไม่ และคงต้องพิจารณาว่าคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ที่นำเงินไปลงทุน ได้มีความพยายามในการตรวจสอบหรือไม่ ว่าหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน มีมูลค่าจริงตามที่เขามากล่าวอ้าง ถ้าได้ทำโดยรอบคอบแล้ว ก็พอมีเหตุผล แต่ถ้าไม่ได้มีการดำเนินการ ก็คงต้องมาพิจารณาว่าเป็นเพราะสาเหตุใด โดยในการประชุมคณะกรรมการ สกสค. ในวันที่ 28 พ.ค. จะมีการหารือเรื่องดังกล่าวด้วย"รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการ สกสค.ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกและยืนยันว่าจะขอชี้แจงด้วยเอกสารเท่านั้น โดยไม่ได้มาชี้แจงด้วยวาจาในวันที่ 25พ.ค. ตามที่ สกสค.ทำหนังสือแจ้งไป ซึ่งถ้านายสมศักดิ์บริสุทธิ์ใจ ก็น่าจะยินดีมาชี้แจงด้วยตนเอง แต่หากนายสมศักดิ์ ยังไม่พร้อมและร้องขอแต่เอกสารอย่างเดียว เป็นเรื่องที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ต้องรอให้ผลการตรวจสอบที่ชัดเจนของเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะเมื่อถึงเวลานั้นการดำเนินการตามกฎหมายก็จะมีความชัดเจนมากขึ้นไม่ว่านายสมศักดิ์ จะมาชี้แจงด้วยตนเองหรือชี้แจงด้วยเอกสารก็ตาม