วานนี้ (17 พ.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้สรุปรายงานผลการตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการควบคุม และดำเนินการจัดการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 57 ที่พบว่า การจัดทำคำของบประมาณของกกต.ไม่ถูกต้อง สูงเกินความเป็นจริง ว่า ตนยังไม่เห็นรายงานดังกล่าว แต่เท่าที่ทราบจากสื่อมวลชน คือ เรื่องการจัดทำคำของบประมาณของกกต.ไม่ถูกต้อง สูงเกินความเป็นจริงนั้น ก็เป็นแบบอย่างของสำนักงานบริหารกลางกกต.จัดทำขึ้น ซึ่งก็เป็นลักษณะการดำเนินการเหมือนที่มีการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ต้องเข้าใจว่า จะดูแค่สถิติค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในการจัดการเลือกตั้งครั้งก่อนไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งไม่เหมือนกันทุกครั้ง หากมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากขึ้น ก็ต้องมีการเพิ่มหน่วยเลือกตั้ง หรือค่าตอบแทนบุคลากรอาจเพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งหากมีการใช้เครื่องลงคะแนน อาจจะทำให้ต้องใช้งบสูงขึ้นหลายพันล้านบาทเลยก็ได้ ดังนั้นการตั้งข้อสังเกตว่า มีการตั้งงบสูงเกินจริง จึงอาจจะไม่เป็นธรรมกับกกต.นัก
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการบริหารจัดการวัสดุอุปกรณ์ในการจัดการเลือกตั้งนั้น ทั้งหนังสือให้ความรู้ หีบบัตรเลือกตั้ง รวมทั้งคูหาเลือกตั้งนั้น กกต.ให้กกต.จังหวัดดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ ส่วนที่บอกว่า การเบิกจ่ายเงินไม่ถูกต้อง และการเบิกจ่ายเงินโดยเจ้าหน้าที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า อาจมีการทุจริตนั้น ทางสำนักงาน กกต. ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีความผิดปกติหรือไม่ อย่างไร และจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร เพียงแต่เป็นข้อสังเกตจากสตง. ซึ่งเราในฐานะองค์กรอิสระ ก็ต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบจากองค์กรอื่นอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่เหนือการตรวจสอบใดๆ
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินการ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 3,000 ล้านบาท กรณีการเลือกตั้ง 2 ก.พ. เป็นโมฆะ นายสมชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว กำลังมีการดำเนินอย่างอย่างต่อเนื่องโดยกรรมการ กกต. มีความเห็นให้มีการดำเนินการอีกรูปแบบหนึ่ง ที่แตกต่างจากรูปแบบเดิม ซึ่งก็ต้องรอผลการดำเนินการ แต่ส่วนตัวแล้ว เห็นว่าควรฟ้องคนที่ทำผิด และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยไม่เลือกหน้า แต่ในส่วนของกรรมการคนอื่น ก็มีวิธีคิด และแนวทางที่ต่างกันออกไป
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการบริหารจัดการวัสดุอุปกรณ์ในการจัดการเลือกตั้งนั้น ทั้งหนังสือให้ความรู้ หีบบัตรเลือกตั้ง รวมทั้งคูหาเลือกตั้งนั้น กกต.ให้กกต.จังหวัดดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ ส่วนที่บอกว่า การเบิกจ่ายเงินไม่ถูกต้อง และการเบิกจ่ายเงินโดยเจ้าหน้าที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า อาจมีการทุจริตนั้น ทางสำนักงาน กกต. ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีความผิดปกติหรือไม่ อย่างไร และจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร เพียงแต่เป็นข้อสังเกตจากสตง. ซึ่งเราในฐานะองค์กรอิสระ ก็ต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบจากองค์กรอื่นอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่เหนือการตรวจสอบใดๆ
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินการ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 3,000 ล้านบาท กรณีการเลือกตั้ง 2 ก.พ. เป็นโมฆะ นายสมชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว กำลังมีการดำเนินอย่างอย่างต่อเนื่องโดยกรรมการ กกต. มีความเห็นให้มีการดำเนินการอีกรูปแบบหนึ่ง ที่แตกต่างจากรูปแบบเดิม ซึ่งก็ต้องรอผลการดำเนินการ แต่ส่วนตัวแล้ว เห็นว่าควรฟ้องคนที่ทำผิด และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยไม่เลือกหน้า แต่ในส่วนของกรรมการคนอื่น ก็มีวิธีคิด และแนวทางที่ต่างกันออกไป