“ชมพู่-น็อต” ควงคู่ฉลองวิวาห์ สุดหวานจูบโชว์ ฝ่ายชายชมฝ่ายหญิงทำให้ชีวิตสมบรูณ์แบบ ฝันอยากมีลูกเป็นทีมฟุตบอล ด้านชมพู่ขอเคลียร์งานก่อนมีลูกปีหน้า ยังทำงานในวงการต่อแต่จะรับงานน้อยลง
หลังจากที่เข้าพิธีแต่งงานได้รับสินสอด 108 ล้านจนเป็นที่ฮือฮาไปเมื่อวันก่อน วันนี้ (10 พ.ค.) เจ้าสาว 108 ล้าน “ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” ก็ควง “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” ฉลองมงคลสมราสที่โรงแรมเดอะพลาซ่า แอทธินี แบงค็อกท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวมากมาย ซึ่งเป็นที่จับกันว่าวันนี้เจ้าแม่แฟชั่นแบบชมพู่จะมาในชุดเวอร์วังขนาดไหน โดยในวันนี้ชมพู่จะเปลี่ยนทั้งหมด 3 ชุด คือชุดแถลงข่าว จาก elie saab haute couture และ รองเท้า จากsergio rossi , ชุดเลี้ยงฉลอง reception จากgiambattista valli haute couture รองเท้าใส่ dolce and gabbana และชุด after party จาก christian dior ซึ่งชมพู่กับน็อตก็ได้เปิดใจถึงการแต่งงานครั้งนี้ พร้อมกับจูบโชว์แบบหวานมดไต่เลยทีเดียว
น็อต : "เริ่มจะตื่นเต้นแล้ว ช่วงที่ผ่านมาเหนื่อยกับการเตรียมงาน เลยยังไม่ทันได้ตื่นเต้น"
ชมพู่ : "ของชมจะงงๆ ว่าวันนี้แล้วเหรอ พอตื่นมานั่งแต่งหน้า ยังคุยกับช่างแต่งหน้าอยู่เลยว่ามันวันนี้แล้วเหรอ พอมาเยอะบรรยากาศก็คิดว่าสงสัยจะใช่แล้วแหละ รู้สึกดีใจและตื้นตัน แขกวันนี้เป็นแขกที่มีความหมาย เค้าอยู่ร่วมเรื่องราวความรัก หลายๆ คนรู้จักกับเราและอยู่กับเราตั้งแต่เริ่มต้น"
เป็นยังไงบ้างกับการใช้คำว่าสามีภรรยา?
น็อต : "ยังไม่คุ้นเลย ช่วงที่ผ่านมาเราก็ยังวุ่นๆ เลยยังไม่มีเวลาได้คิดถึงเรื่องนี้มาก แต่ตอนนี้ก็พอจะเริ่มคุ้นแล้วแหล่ะ"
ชมพู่ : "คือวันนั้นเสร็จงานต่างคนต่างแยกย้าย สำหรับชมชีวิตยังไม่ได้รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงไป ต่างคนคนก็ต่างมีเรื่องที่ต้องสะสาง คุณน็อตก็ต้องมาเตรียมงานวันนี้ต่อ เสร็จจากวันนี้ชมก็ต้องกลับไปทำงาน แล้วเดี๋ยวก็ต้องไปเมืองคานส์ต่อ คิวแน่น คงอีกสักพักถึงคงค่อยรู้สึกเปลี่ยน เรายุ่งมากจริงๆ ก็คงสักพักแหละ”
“ความรู้สึกตื่นเต้นเพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อเช้า ชมรู้สึกตัวเร็วมาก ตีห้าก็รู้สึกแล้ว ทั้งๆ ที่นาฬิกาไม่ได้ปลุก เลยคิดว่าตัวเองเริ่มตื่นเต้นแล้วแหละ แต่ก่อนหน้านี้จะเป็นคุณน็อต เราเองมีเรื่องกังวลเยอะมาก ทุกๆ วันชมจะนึกรายชื่อแขกเพิ่มขึ้นอีก 2-3 รายชื่อ มันเลยเป็นเรื่องของความกังวล ทุกๆ คนก็บอกว่าให้ชมปล่อยวาง วันนี้ตั้งใจว่าจะปล่อยวางจริงๆ แล้วจะมีความสุขกับมันให้มากที่สุด"
ชมพู่ : "ไหนจะเรื่องญาติๆ ของชมที่มาจากอเมริกา ทางฝั่งพ่อแม่ และก็เพื่อนของคุณน็อตอีก เหมือนเราทำภารกิจนี้เสร็จ เราต้องต่างแยกย้ายไปดูแลพวกเค้า มันเลยยังไม่เข้าสู่โหมดนั้น"
เห็นวันนั้นในงาน ทั้งคู่มีน้ำตาคลอ?
น็อต : "มันต้องมีบ้าง เราเองต่างก็ไม่เคยมีประสบการณ์ ในช่วงเวลาสวมแหวน รดน้ำมันให้อารมณ์ความรู้สึกว่า เราแต่งงานกันแล้วนะ"
ให้สัญญามาตลอดจะดูแลชมพู่
น็อต : "เราให้สัญญากันอยู่เรื่อยๆ เรื่องให้สัญญากับแม่ว่าจะดูแลชมพู่ อันนั้นเราพูดกันมานานแล้วพูดกันเรื่อยๆ ตลอดอยู่แล้ว คงไม่ใช่แค่วันนี้วันเดียว ที่เราจะสัญญาให้กัน เราคุยกันมาตั้งนานแล้ว คำมั่นสัญญาหรือสิ่งที่เราต้องทำ ทุกอย่างเราทราบกันดีวันนี้เป็นเรื่องของความสุขที่เราต้องการจะแชร์กับเพื่อนของเรา"
รู้สึกยังไง ถูกเรียกว่าเป็นเจ้าสาว 108 ล้าน เลขนี้ได้มาจากไหน?
น็อต : "เป็นเลขที่มาจากการถือเคล็ด เราเป็นครอบครัวคนจีน เลข 8 เป็นเลขมงคล เราเลยอยากได้อะไรเป็นเลข 8 เป็นคนจีนเลยชอบเลข 8 ก็เลยอยากได้อะไรที่เป็นเลข 8 พยายามจะหาอะไรที่เป็นเลข 8"
ชมพู่ : "888มั้ย(หัวเราะ)
น็อต : "ข้ามไปก่อนแล้วกัน(หัวเราะ)"
ได้ชื่อว่าเป็นการแต่งงานที่ใหญ่อลังการ แม้แต่ซองกลั้นประตูที่ต้องจ่ายให้เพื่อนเจ้าสาวก็จ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว
ชมพู่ : "ตัวชมจะได้แค่ฟีดแบ็กจากคนที่อยู่ในงาน คนก็จะชมว่างานดี ต้องยกเครดิตทั้งหมดให้คุณน็อต"
น็อต "พยายามทำทั้งหมดให้ดีที่สุด ให้ทุกอย่างออกมาดี อยากให้ทุกคนชอบมัน อยากให้ทุกอย่างในวันนี้ออกมาเป็นอะไรที่เราจะต้องนึกถึงไปตลอดชีวิต ก็เลยทำทุกอย่างให้ดีที่สุด"
น็อต : "ส่วนเรื่องซองเพื่อนเจ้าสาว วันนั้นเป็นอะไรที่สนุกมากกว่า เราอยากให้ทุกคนมีความสุข วันนั้นสนุกมาก ทุกคนประทับใจ สนุกตั้งแต่เช้า ผมว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องของมูลค่า มันเป็นเรื่องของความสนุกที่เราได้เดินฝ่ามา และเราก็ได้เล่นกับเพื่อนของชม มันไม่ได้เป็นเรื่องของมูลค่า แต่เป็นเรื่องของความทรงจำ แต่ละคนมีไอเดียแปลกๆ มาแกล้ง"
เรียกว่าทุ่มหมดหน้าตัก?
น็อต : "ก็ทุ่มหมดทุกอย่างที่มี มันต้องเป็นอย่างนั้น"
ยังไม่มีแพลนฮันนีมูนชมพู่ติดงาน
น็อต : "คงต้องพักไว้ก่อน ตอนนี้ยังมีอีกหลายเรื่อง คิวแน่นมาก ไปไหนไม่ได้เลย ชมเองต้องไปคานส์ต่อด้วย เรียกว่ายังแพลนอะไรไม่ได้ แต่ก็มีคิดๆ ไว้ในใจตอนเด็กๆ เคยก็มีนะครับ ไปทำงานแล้วเจอเมือง แต่ยังไม่เคยบอกชม เดี๋ยวไว้เป็นเซอร์ไพร์สแล้วกัน"
น็อตอยากมีลูกเป็นทีมฟุตบอล
ชมพู่ : "ชมเองก็ยังมีงานที่ต้องสะสาง เดี๋ยวปีหน้าว่ากันอีกที เรื่องงานชมก็ยังทำงานในวงการบันเทิงต่อไป ก็คุยกับทางผู้ใหญ่เหมือนกัน พี่สมรักษ์เรียกเข้าไปคุยว่าหลังจากแต่งงานแล้วจะทำยังไงต่อ ก็ยังเล่นละครอยู่ แต่อาจจะไม่ทำงาน 7 วันแล้ว เพราะยังไงครอบครัวก็ต้องมาก่อน แต่งานก็ยังทำ เพราะไม่งั้นคงจะฟุ้งซ่าน "
น็อต : "จริงๆ ก็ไม่ได้อยากรอ แต่เขามีคอมมิตมาก็ต้องตามใจเขา ถามถึงความอยาก อยากมีเป็นทีมฟุตบอลเลย"
ชมพู่ : "ไม่ไหว ต้องซ่อมร่างเลยนะ(หัวเราะ)"
“น็อต” หวาน บอก “ชมพู่” ทำให้ตนกลายเป็นคนสมบรูณ์แบบ
ชมพู่ :"ชมกับคุณน็อตเราเริ่มต้นจากการที่เราสกรีนเค้าก่อน พยายามดูว่าคุณสมบัติเยอะมั้ย พอคบกันมาได้สักระยะหนึ่ง เราก็ผ่านช่วงเวลาที่ต้องมีการปรับความเข้าใจกัน มีทั้งสิ่งที่เค้ายอมลดและเรายอมลด ก็เหมือนเป็นการซื้อใจกัน สำคัญที่สุดก็คือ เค้าเอาสิ่งที่ดีที่สุดของชมออกมา เหมือนกับว่าเราก้าวไปได้ไกลอีก โดยที่มีเค้าอยู่ข้างๆ"
น็อต "ก็คล้ายๆกับชมครับจริงๆเตรียมไว้พูดคืนนี้ พูดให้ฟังครึ่งหนึ่งแล้วกัน ก็คล้ายๆกัน การที่มีชมทำให้อะไรหลายๆอย่างที่ผมเคยมองข้าม ไม่ใส่ใจรายละเอียด สมัยก่อนผมชอบมองว่าแมนๆ ต้องไม่สนใจเรื่องเล็กน้อย ทำงานใหญ่ อย่าติดใจเรื่องราวเล็กๆ แต่พออยู่กับชม เค้าสอนให้ผมรู้ว่า เวลาที่เราทำงานใหญ่ เราต้องใส่ใจรายละเอียดด้วย ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อย มุมมองบางทุมมอง เลยทำให้ผมมองเปลี่ยนไป ผมรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นคนที่เก่งขึ้น การที่มีชมทำให้ผมกลายเป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด".
หลังจากที่เข้าพิธีแต่งงานได้รับสินสอด 108 ล้านจนเป็นที่ฮือฮาไปเมื่อวันก่อน วันนี้ (10 พ.ค.) เจ้าสาว 108 ล้าน “ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” ก็ควง “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” ฉลองมงคลสมราสที่โรงแรมเดอะพลาซ่า แอทธินี แบงค็อกท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวมากมาย ซึ่งเป็นที่จับกันว่าวันนี้เจ้าแม่แฟชั่นแบบชมพู่จะมาในชุดเวอร์วังขนาดไหน โดยในวันนี้ชมพู่จะเปลี่ยนทั้งหมด 3 ชุด คือชุดแถลงข่าว จาก elie saab haute couture และ รองเท้า จากsergio rossi , ชุดเลี้ยงฉลอง reception จากgiambattista valli haute couture รองเท้าใส่ dolce and gabbana และชุด after party จาก christian dior ซึ่งชมพู่กับน็อตก็ได้เปิดใจถึงการแต่งงานครั้งนี้ พร้อมกับจูบโชว์แบบหวานมดไต่เลยทีเดียว
น็อต : "เริ่มจะตื่นเต้นแล้ว ช่วงที่ผ่านมาเหนื่อยกับการเตรียมงาน เลยยังไม่ทันได้ตื่นเต้น"
ชมพู่ : "ของชมจะงงๆ ว่าวันนี้แล้วเหรอ พอตื่นมานั่งแต่งหน้า ยังคุยกับช่างแต่งหน้าอยู่เลยว่ามันวันนี้แล้วเหรอ พอมาเยอะบรรยากาศก็คิดว่าสงสัยจะใช่แล้วแหละ รู้สึกดีใจและตื้นตัน แขกวันนี้เป็นแขกที่มีความหมาย เค้าอยู่ร่วมเรื่องราวความรัก หลายๆ คนรู้จักกับเราและอยู่กับเราตั้งแต่เริ่มต้น"
เป็นยังไงบ้างกับการใช้คำว่าสามีภรรยา?
น็อต : "ยังไม่คุ้นเลย ช่วงที่ผ่านมาเราก็ยังวุ่นๆ เลยยังไม่มีเวลาได้คิดถึงเรื่องนี้มาก แต่ตอนนี้ก็พอจะเริ่มคุ้นแล้วแหล่ะ"
ชมพู่ : "คือวันนั้นเสร็จงานต่างคนต่างแยกย้าย สำหรับชมชีวิตยังไม่ได้รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงไป ต่างคนคนก็ต่างมีเรื่องที่ต้องสะสาง คุณน็อตก็ต้องมาเตรียมงานวันนี้ต่อ เสร็จจากวันนี้ชมก็ต้องกลับไปทำงาน แล้วเดี๋ยวก็ต้องไปเมืองคานส์ต่อ คิวแน่น คงอีกสักพักถึงคงค่อยรู้สึกเปลี่ยน เรายุ่งมากจริงๆ ก็คงสักพักแหละ”
“ความรู้สึกตื่นเต้นเพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อเช้า ชมรู้สึกตัวเร็วมาก ตีห้าก็รู้สึกแล้ว ทั้งๆ ที่นาฬิกาไม่ได้ปลุก เลยคิดว่าตัวเองเริ่มตื่นเต้นแล้วแหละ แต่ก่อนหน้านี้จะเป็นคุณน็อต เราเองมีเรื่องกังวลเยอะมาก ทุกๆ วันชมจะนึกรายชื่อแขกเพิ่มขึ้นอีก 2-3 รายชื่อ มันเลยเป็นเรื่องของความกังวล ทุกๆ คนก็บอกว่าให้ชมปล่อยวาง วันนี้ตั้งใจว่าจะปล่อยวางจริงๆ แล้วจะมีความสุขกับมันให้มากที่สุด"
ชมพู่ : "ไหนจะเรื่องญาติๆ ของชมที่มาจากอเมริกา ทางฝั่งพ่อแม่ และก็เพื่อนของคุณน็อตอีก เหมือนเราทำภารกิจนี้เสร็จ เราต้องต่างแยกย้ายไปดูแลพวกเค้า มันเลยยังไม่เข้าสู่โหมดนั้น"
เห็นวันนั้นในงาน ทั้งคู่มีน้ำตาคลอ?
น็อต : "มันต้องมีบ้าง เราเองต่างก็ไม่เคยมีประสบการณ์ ในช่วงเวลาสวมแหวน รดน้ำมันให้อารมณ์ความรู้สึกว่า เราแต่งงานกันแล้วนะ"
ให้สัญญามาตลอดจะดูแลชมพู่
น็อต : "เราให้สัญญากันอยู่เรื่อยๆ เรื่องให้สัญญากับแม่ว่าจะดูแลชมพู่ อันนั้นเราพูดกันมานานแล้วพูดกันเรื่อยๆ ตลอดอยู่แล้ว คงไม่ใช่แค่วันนี้วันเดียว ที่เราจะสัญญาให้กัน เราคุยกันมาตั้งนานแล้ว คำมั่นสัญญาหรือสิ่งที่เราต้องทำ ทุกอย่างเราทราบกันดีวันนี้เป็นเรื่องของความสุขที่เราต้องการจะแชร์กับเพื่อนของเรา"
รู้สึกยังไง ถูกเรียกว่าเป็นเจ้าสาว 108 ล้าน เลขนี้ได้มาจากไหน?
น็อต : "เป็นเลขที่มาจากการถือเคล็ด เราเป็นครอบครัวคนจีน เลข 8 เป็นเลขมงคล เราเลยอยากได้อะไรเป็นเลข 8 เป็นคนจีนเลยชอบเลข 8 ก็เลยอยากได้อะไรที่เป็นเลข 8 พยายามจะหาอะไรที่เป็นเลข 8"
ชมพู่ : "888มั้ย(หัวเราะ)
น็อต : "ข้ามไปก่อนแล้วกัน(หัวเราะ)"
ได้ชื่อว่าเป็นการแต่งงานที่ใหญ่อลังการ แม้แต่ซองกลั้นประตูที่ต้องจ่ายให้เพื่อนเจ้าสาวก็จ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว
ชมพู่ : "ตัวชมจะได้แค่ฟีดแบ็กจากคนที่อยู่ในงาน คนก็จะชมว่างานดี ต้องยกเครดิตทั้งหมดให้คุณน็อต"
น็อต "พยายามทำทั้งหมดให้ดีที่สุด ให้ทุกอย่างออกมาดี อยากให้ทุกคนชอบมัน อยากให้ทุกอย่างในวันนี้ออกมาเป็นอะไรที่เราจะต้องนึกถึงไปตลอดชีวิต ก็เลยทำทุกอย่างให้ดีที่สุด"
น็อต : "ส่วนเรื่องซองเพื่อนเจ้าสาว วันนั้นเป็นอะไรที่สนุกมากกว่า เราอยากให้ทุกคนมีความสุข วันนั้นสนุกมาก ทุกคนประทับใจ สนุกตั้งแต่เช้า ผมว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องของมูลค่า มันเป็นเรื่องของความสนุกที่เราได้เดินฝ่ามา และเราก็ได้เล่นกับเพื่อนของชม มันไม่ได้เป็นเรื่องของมูลค่า แต่เป็นเรื่องของความทรงจำ แต่ละคนมีไอเดียแปลกๆ มาแกล้ง"
เรียกว่าทุ่มหมดหน้าตัก?
น็อต : "ก็ทุ่มหมดทุกอย่างที่มี มันต้องเป็นอย่างนั้น"
ยังไม่มีแพลนฮันนีมูนชมพู่ติดงาน
น็อต : "คงต้องพักไว้ก่อน ตอนนี้ยังมีอีกหลายเรื่อง คิวแน่นมาก ไปไหนไม่ได้เลย ชมเองต้องไปคานส์ต่อด้วย เรียกว่ายังแพลนอะไรไม่ได้ แต่ก็มีคิดๆ ไว้ในใจตอนเด็กๆ เคยก็มีนะครับ ไปทำงานแล้วเจอเมือง แต่ยังไม่เคยบอกชม เดี๋ยวไว้เป็นเซอร์ไพร์สแล้วกัน"
น็อตอยากมีลูกเป็นทีมฟุตบอล
ชมพู่ : "ชมเองก็ยังมีงานที่ต้องสะสาง เดี๋ยวปีหน้าว่ากันอีกที เรื่องงานชมก็ยังทำงานในวงการบันเทิงต่อไป ก็คุยกับทางผู้ใหญ่เหมือนกัน พี่สมรักษ์เรียกเข้าไปคุยว่าหลังจากแต่งงานแล้วจะทำยังไงต่อ ก็ยังเล่นละครอยู่ แต่อาจจะไม่ทำงาน 7 วันแล้ว เพราะยังไงครอบครัวก็ต้องมาก่อน แต่งานก็ยังทำ เพราะไม่งั้นคงจะฟุ้งซ่าน "
น็อต : "จริงๆ ก็ไม่ได้อยากรอ แต่เขามีคอมมิตมาก็ต้องตามใจเขา ถามถึงความอยาก อยากมีเป็นทีมฟุตบอลเลย"
ชมพู่ : "ไม่ไหว ต้องซ่อมร่างเลยนะ(หัวเราะ)"
“น็อต” หวาน บอก “ชมพู่” ทำให้ตนกลายเป็นคนสมบรูณ์แบบ
ชมพู่ :"ชมกับคุณน็อตเราเริ่มต้นจากการที่เราสกรีนเค้าก่อน พยายามดูว่าคุณสมบัติเยอะมั้ย พอคบกันมาได้สักระยะหนึ่ง เราก็ผ่านช่วงเวลาที่ต้องมีการปรับความเข้าใจกัน มีทั้งสิ่งที่เค้ายอมลดและเรายอมลด ก็เหมือนเป็นการซื้อใจกัน สำคัญที่สุดก็คือ เค้าเอาสิ่งที่ดีที่สุดของชมออกมา เหมือนกับว่าเราก้าวไปได้ไกลอีก โดยที่มีเค้าอยู่ข้างๆ"
น็อต "ก็คล้ายๆกับชมครับจริงๆเตรียมไว้พูดคืนนี้ พูดให้ฟังครึ่งหนึ่งแล้วกัน ก็คล้ายๆกัน การที่มีชมทำให้อะไรหลายๆอย่างที่ผมเคยมองข้าม ไม่ใส่ใจรายละเอียด สมัยก่อนผมชอบมองว่าแมนๆ ต้องไม่สนใจเรื่องเล็กน้อย ทำงานใหญ่ อย่าติดใจเรื่องราวเล็กๆ แต่พออยู่กับชม เค้าสอนให้ผมรู้ว่า เวลาที่เราทำงานใหญ่ เราต้องใส่ใจรายละเอียดด้วย ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อย มุมมองบางทุมมอง เลยทำให้ผมมองเปลี่ยนไป ผมรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นคนที่เก่งขึ้น การที่มีชมทำให้ผมกลายเป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด".
