ASTVผู้จัดการรายวัน-ญาติผู้เสียชีวิตเข้ามอบดอกไม้และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีผู้ต้องหาขับเก๋งพุ่งชนกลุ่มจักรยาน จนสถาปนิก ป.โท เสียชีวิต เผยผู้ต้องหาไม่ได้ติดต่อแสดงความเสียใจ ไม่เชื่อคำพูดจะบวชเพื่อขออโหสิกรรม ด้านตำรวจแจ้งข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมให้ประกันตัว วงเงิน 2 แสน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. วานนี้ (7 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ อายุ 36 ปี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ร.ท.สุวิชชา เด่นสิริมงคล เป็นตัวแทนมอบดอกไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีเร่งรัดจับกุมตัวผู้ต้องหาขับรถเก๋ง ฮอนด้า แจ๊ซ สีดำ ทะเบียน 3 กฎ 8938 กทม. พุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยาน บริเวณหน้าหมู่บ้านบางกอกบูเลอวาร์ด ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว จนเป็นเหตุให้ น.ส.ธัญญกร เด่นสิริมงคล อายุ 31 ปี สถาปนิกสาวปริญญาโทเสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.พงศ์พันธุ์ วรรณภักตร์ ผบก.น.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 เป็นตัวแทนรับมอบ
นายภาคภูมิ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหายังไม่ได้ติดต่อมาแสดงความเสียใจ ไม่มาเคารพศพ ซึ่งตนคิดว่าผู้ต้องหาเองไม่มีความคิดที่จะเข้ามาเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต การที่เขาบอกว่าจะบวชเพื่อขออโหสิกรรม ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะ คำขอโทษซักคำยังไม่มี และอยากขอให้เป็นอุทาหรณ์ของผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง หรือรถจักรยานเพียงอย่างเดียว หากรู้ว่าตนเองเครียด หรือไม่มีสติ ก็ขอให้ใจเย็น อย่าเพิ่งออกจากบ้าน มิฉะนั้น จะสร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่น
สำหรับความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ ศักยภาพวิชานนท์ ผกก.สน.โคกคราม กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้ทำการสอบปากคำ นายศรัณย์ อินทะนิล ผู้ต้องหาเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพิจารณามีความเห็นอนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวด้วยตนเองเอง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยผู้ปกครองของผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 แสนบาทประกันตัวในชั้นสอบสวน อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนทุกสัปดาห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรัณย์ยืนยันจะไปขอขมาผู้เสียชีวิต และจะเยียวยาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับผู้หญิงที่นั่งรถมากับนายศรัณย์ในวันเกิดเหตุ ทางทนายความได้ประสานว่า จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยจะสอบปากคำไว้เป็นพยาน หากในชั้นการสอบสวนพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. วานนี้ (7 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ อายุ 36 ปี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ร.ท.สุวิชชา เด่นสิริมงคล เป็นตัวแทนมอบดอกไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีเร่งรัดจับกุมตัวผู้ต้องหาขับรถเก๋ง ฮอนด้า แจ๊ซ สีดำ ทะเบียน 3 กฎ 8938 กทม. พุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยาน บริเวณหน้าหมู่บ้านบางกอกบูเลอวาร์ด ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว จนเป็นเหตุให้ น.ส.ธัญญกร เด่นสิริมงคล อายุ 31 ปี สถาปนิกสาวปริญญาโทเสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.พงศ์พันธุ์ วรรณภักตร์ ผบก.น.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 เป็นตัวแทนรับมอบ
นายภาคภูมิ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหายังไม่ได้ติดต่อมาแสดงความเสียใจ ไม่มาเคารพศพ ซึ่งตนคิดว่าผู้ต้องหาเองไม่มีความคิดที่จะเข้ามาเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต การที่เขาบอกว่าจะบวชเพื่อขออโหสิกรรม ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะ คำขอโทษซักคำยังไม่มี และอยากขอให้เป็นอุทาหรณ์ของผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง หรือรถจักรยานเพียงอย่างเดียว หากรู้ว่าตนเองเครียด หรือไม่มีสติ ก็ขอให้ใจเย็น อย่าเพิ่งออกจากบ้าน มิฉะนั้น จะสร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่น
สำหรับความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ ศักยภาพวิชานนท์ ผกก.สน.โคกคราม กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้ทำการสอบปากคำ นายศรัณย์ อินทะนิล ผู้ต้องหาเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพิจารณามีความเห็นอนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวด้วยตนเองเอง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยผู้ปกครองของผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 แสนบาทประกันตัวในชั้นสอบสวน อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนทุกสัปดาห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรัณย์ยืนยันจะไปขอขมาผู้เสียชีวิต และจะเยียวยาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับผู้หญิงที่นั่งรถมากับนายศรัณย์ในวันเกิดเหตุ ทางทนายความได้ประสานว่า จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยจะสอบปากคำไว้เป็นพยาน หากในชั้นการสอบสวนพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
